ขอแถม
กว่าจะได้เข้านอนเมื่อคืนเพียงพลอยนั่งคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วงเวลาหกเดือนที่ผ่าน ไม่อยากเชื่อตอนนี้ตนต้องอุ้มท้องเด็กคนหนึ่งไม่ได้แตกต่างกับพี่สาวเลย เพียงแค่เธอไม่ได้บอกพ่อของเด็กไปก็เท่านั้น จะบอกทำไมหากต้องเจอเหตุการณ์ไม่ต่างที่คู่แฝดเธอต้องเจอ โดนทิ้งไม่ใยดี บางทีเขาอาจให้เธอเอาเด็กออกอย่างที่พี่เขยเคยทำ หัวใจอัดอั้นแทบหายใจไม่ออกเมื่อคิดว่าจะเป็นแบบนั้น เพียงพลอยคิดว่าตนเองกำลังบ้าเพราะดันไปหลงรักผู้ชายที่ซื้อเธอมาเพื่อบำเรอความใคร่เข้าแล้ว อาการที่เกิดคงเรียกเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เมื่อเธอเจ็บปวดใจปานจะขาดรอนๆ เมื่อได้ยินเขาบอกยกเลิกสิ่งที่เธอฝืนใจทำในตอนแรก คนอื่นจะเป็นแบบเธอหรือเปล่านะ หญิงสาวอดคิดไม่ได้เมื่อเช้าขึ้นมาเธอก็ยังไม่ลืมที่จะคิดถึงราฟาเอล
“เป็นอะไรไปอีกละเช้านี้เรื่องหลานอีกแล้วรึหนูนา” โมลีทำลายความคิดที่ไม่ยอมขาดตอนลงได้ชั่วครู่ หนูนาปาดน้ำตาหันยิ้มแห้งเหี่ยวให้เพื่อน
“เปล่า เราโทรไปถามอาการหลาน ศศินดีขึ้นมากแล้วล่ะ ขอบใจนะ”
“ขอบใจมูลนิธิ อะไรนั่นเหลือเกินนะหนูนาที่ช่วยเหลือเธอและหลาน” โมลีไม่ได้รู้เรื่องที่หนูนาตกลงใจเป็นเด็กไซไลด์กับเจ้ดาด้าเอ่ยพาซื่อ
“ใช่จ๊ะ” หนูนาเออออ รีบเข็ญรถไปยังห้องถัดไปเพื่อทำความสะอาด
“ห้องนี้ยังมีแขก แต่หัวหน้าย้ำมาว่าเคาะเรียกได้เผื่อเขาอยากทำความสะอาดน่ะ แต่เธออยู่คนเดียวไปก่อนนะ รู้สึกว่าฉันจะปวดหนักกะทันหัน”
หนูนาพยักหน้าแม้จะไม่ค่อยกล้าเข้าไปเพียงลำพังภายในห้องก็ตาม เพราะแม่บ้านทุกคนต้องป้องกันตนเองไว้ก่อน เกิดมีแขกผู้ชายพักอยู่ภายในห้อง หากเกิดเรื่องไม่คาดคิด ความเสียหายเหล่านั้น จะไปเรียกร้องจากใครไม่ได้ง่ายๆ
ก๊อกๆๆ
เคาะถึงสามครั้งไม่มีคนเปิดประตู หนูนากำลังจะไปห้องอื่นก่อน หากมีเสียงขานรับขึ้นมา
“เข้ามาสิ”
ราฟาเอลคิดว่าคงเป็นแดเนียลจึงบอกให้เข้ามา
หนูนาหยิบน้ำดื่มเข้ามาก่อนเป็นลำดับแรก “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบคุณจะทำความสะอาดห้องหรือเปล่าคะ”
“…”
หนูนาเข้ามาถึงภายในห้องแทบเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า…ผ้าขนหนูในห้องเกลื่อนบนพื้นพรม ผ้าปูเตียงนอนเคยตึงเรียบยับจนไม่มีชิ้นดี หมอนอีกเล่าวางสะเปะสะปะไม่ต่างผ้าขนหนู ชิ้นสุดท้ายคือถุงยางอนามัยที่อยู่ไม่ไกลเท้าเธอ ไม่บอกก็รู้เมื่อคืนเจ้าของห้องผ่านศึกรักมาอย่างหนัก หนูนาก้าวถอยออกจากห้องโดยไม่รอฟังเสียงเจ้าของห้องที่อยู่ในห้องน้ำอีก กำลังจะปิดประตู มือหนาดันมาคว้าพร้อมดันให้ประตูเปิดออก หนูนาแหงนมองเท้าที่คุ้นตาซึ่งมองเห็นอันดับแรก อย่างห้ามใจไม่ได้
“คุณราฟาเอล” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเมื่อเจ้าของเท้าเป็นเขาจริงๆ
“เธอทำงานที่นี่เหรอ” ราฟาเอลไม่ได้ตกใจแค่แปลกใจ ที่อดีตนางบำเรอที่ทำให้เขาเกิดภาวะนกยักษ์ไม่ขันดันทำงานที่นี่
“ใช่” หนูนาหันหลังเดินกลับไปยังรถเข็ญ
“อ้าวอย่าเพิ่งไปสิ” ราฟาเอลยึดข้อมือบางไว้ เพราะขาดเธอไปหนึ่งคืน เสมือนอากาศหายใจเกิดติดขัด เช้านี้ตอนเข้าห้องน้ำร่างกายก็คอยคิดถึง อยากปลดปล่อยลงในดอกไม้อวบนูนที่เคยให้ความสุขแบบเต็มอิ่มมาหลายเดือน
“เกรงว่าคงไม่เหมาะค่ะ หนู…ดิฉันกำลังทำงานอยู่” ภาพที่นอนยับย่นในห้องเมื่อครู่ ภาพที่ตัวเองนั่งร้องไห้เมื่อคืนอย่างกับคนบ้าทำให้หนูนาทำเสียงแข็งกับเขาเป็นครั้งแรก เห็นหน้าคนที่ไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตา ต้องเจ็บปวดลืมเขาอยากเข้าไปอีก เธอทำแบบนี้ถูกต้องที่สุดแล้ว
“อะไรกันแค่คืนเดียวก็หาผู้ชายคนใหม่มาเลี้ยงได้แล้วรึ…อย่าเล่นตัวน่า เข้ามาสิ” ราฟาเอลกลั้นเสียงเดือดดาลไม่ไหวเมื่อเห็นท่าทีหมางเมิน อีกอย่างไม่เคยมีใครเชิดใส่ตนแบบนี้มาก่อน อย่างนี้ยิ่งยอมไม่ได้
หนูนาหลับตา เก็บกดความเสียใจ บังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่น “อย่างว่าดิฉันแค่ผู้หญิงที่ขายตัวแลกเงิน โดนสลัดทิ้งโดยที่ไม่รู้ตัวจึงต้องหาที่เกาะใหม่แบบทันควัน คุณน่าจะโล่งใจมากกว่าเพราะฉันจะไม่ไปตอแยคุณ อย่างที่คุณหวาดกลัว”
คำหวานหูหายไป ราฟาเอลรู้สึกเสียหน้ายิ่งกว่าเดิม ไม่รอช้าให้คนที่เคยออดอ้อนบนเตียงแทบทุกคืนพูดมากอีก ชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามาในห้อง
“ปล่อยนะคุณ จะทำอะไรฉัน” หนูนาตกใจทุบตีอกเปลือยเปล่าอุดมด้วยมัดกล้ามและไรขนตลอดแนวจนเลือนหายเข้าไปในผ้าขนหนูผืนหนา
“ขอของแถมสักทีสองที โทษฐานที่บังอาจมาพูดจาไม่เพราะกับฉัน” ราฟาเอลเดือดดาล ทั้งเดือดพล่านด้วยความต้องการเมื่อกลิ่นหอมคุ้นเคยโชยเข้ามาในจมูก
“เรียกอีหนูคนใหม่คุณมาสิ อย่ามายุ่งกับหนูนา ดูสิเมื่อคืนคงจะ…กันจนไม่มีที่ในห้องหลงเหลือแน่ๆ…ปล่อย”
“เมื่อคืนผู้หญิงพวกนั้นเขาฟัดฉันเองต่างหาก ฉันไม่ได้ฟัดเขาสักหน่อย” ราฟาเอลให้คำตอบพร้อมส่งสายตาระยิบระยับให้ เพียงพลอยรู้สึกหมั่นไส้เขาพร้อมกับความเสียวซ่านไปรวมอยู่ตรงจุดลี้ลับ
อยู่ร่วมกันมาหลายเดือน ทุกๆ วันมีแต่รสรักที่เร่าร้อน ไม่เคยมีการพูดจาต่อล้อต่อเถียง เธอจึงหาคำพูดแทบไม่เจอเมื่อต้องการจะใช้
ราฟาเอลใช้จังหวะที่ร่างหอมหวนเริ่มหยุดดิ้น ลากเข้าสู่ห้องน้ำ เพราะสถานที่นั้นเพียงที่เดียวที่ยังว่างให้เขาได้กำราบอดีตนางบำเรอให้สมกับที่เพ้อถึงหล่อน
หญิงสาวหายจากภวังค์ก็ดิ้นเช่นเคย ราฟาเอลทำได้แค่ดึงชุดฟอร์มซึ่งเป็นกางเกงเอวยางที่เธอสวมออกจากเรียวขา
“ไม่นะ อย่านะ…”
“ไม่ฉีกหรอก ถ้าหยุดดิ้น”
เพียงพลอยหยุดชะงัก ราฟาเอลอมยิ้มพึงพอใจ เขารู้ทันความคิดเธอเสมอ เป็นครั้งที่สองที่หญิงสาวดิ้นรนขัดขืนตน ครั้งแรกนั้นก็คือคืนแรกที่เขาพรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ ราฟาเอลรู้สึกวันนี้ตนรู้สึกกระชุ่มกระชวยไม่ต่างกับวันนั้น