ตอนที่ 6 เดินทางมาเพื่อเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 เดินทางมาเพื่อเธอ
ตอนที่ 6 เดินทางมาเพื่อเธอ ในเวลานี้ ทุกคนแทบจะแทบจะมองมาทางลู้ซือจิ่น เป็นตาเดียว แต่ทว่า ลู้ซือจิ่น กลับไม่ได้สนใจแต่อย่างใด สายตาของเขาจดจ่ออยู่เพียงถังรั่วชูในอ้อมกอด จากนั้นก็ใช้น้ำเสียงอันน่าหลงไหลโทนต่ำถามเธอว่า : “ไม่เป็นไรใช่ไหม?” “มะ....ไม่คะ ขอบคุณนะคะ!” ถังรั่วชูส่ายหน้า จนกระทั่งในเวลานี้ เธอเพิ่งจะได้สติกลับมา ใบหน้ายังคงแสดงออกถึงความตกใจอยู่ไม่น้อย ลู้ซือจิ่นถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ จากนั้นก็ประคองตัวของถังรั่วชูขึ้นมา หลังจากที่เธอยืนขึ้นอย่างมั่นคงแล้ว ถึงจะปล่อยตัวเธอ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า : “ครั้งต่อไปก็ระวังตัวหน่อยละกัน” “อื้อ” ถังรั่วชูพยักหน้า เธออดที่จะมองไปทางผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ราวกับอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ลู้ซือจิ่นกลับไม่ได้พูดอะไร นอกจากมองไปทางสายตาของคณะกรรมการบริษัทสือรุ่ยที่เฝ้ารอยคอยอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตานิ่งเฉยราวกับไม่รู้จักเธอ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจเล็กน้อยว่า : “ประธานจ้าว บรรยากาศการทำงานของบริษัทสือรุ่ย มักจะ ‘ครึกครื้น’ แบบนี้ตลอดเหรอครับ?” สีหน้าของของคณะกรรมการบริษัทสือรุ่ยซีดเซียวลงทันที เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็โกรธจนหน้ามืดตามัวกับภาพที่วุ่นวายอลหม่านเมื่อสักครู่ไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรมา บริษัทสือรุ่ย ก็เป็นเหมือนคู่ขาของบริษัทการบันเทิงหวางถิงมาโดยตลอด กว่าจะมีโอกาสมามันไม่ง่ายเลย แต่กลับนึกไม่ถึงว่าลู้ซือจิ่นจะมาเห็นภาพแบบนี้ด้วย ด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เลยเดินมาขวางอยู่ข้างกายของลู้ซือจิ่น ไว้ เขาไม่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้ เลยทำได้เพียงแค่อดกลั้นมันเอาไว้ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลำบากใจว่า : “ท่านประธาน ลู่คุณก็ช่างน่าขบขันจริง ๆ เราไปในห้องทำงานกันเถอะครับ เชิญทางนี้ครับ” “อื้อ” ลู้ซือจิ่นตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชา โดยไม่ได้แสดงกิริยาท่าทางอื่นแต่อย่างใด ไม่มีท่าทีโกรธเคืองสักนิด หลังจากที่ ลู้ซือจิ่นและคณะกรรมการจากไปแล้ว ภายในห้องทำงานก็ตกสู่ความฮือฮาไปชั่วขณะอีกครั้ง “สมกับที่เป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่มีทรงคุณค่าที่สุดในปักกิ่งจริง ๆ เลย หล่อเกินไปแล้ว !หล่อไม่บันยะบันยัง! ” “ได้เห็นเขาแล้ว คุ้มกับที่เกิดมาแล้วละ” “นี่เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงเลยน่า ! มีเงิน มีอำนาจ สง่างามสูงศักดิ์ เห็นปุ๊ปก็รู้ในทันทีว่าเป็นเทพบุตรที่แสนสุขุมเยือกเย็น พวกเธอเห็นกิริยาท่าทางนิ่งเฉยของเขาตอนที่ประคองถังรั่วชูเมื่อสักครู่นี่ไหม เหมือนกับเทพเจ้าที่จุติลงมาเกิดก็ไม่ปานเลยแหละ ฉันถูกเขากำราบเข้าซะแล้วละ......” บรรดาสาว ๆ ต่างก็ตื่นเต้นจนหน้าดำหน้าแดง ทุกคนต่างก็ปรารถนาให้คนที่ล้มลงเมื่อสักครู่นี้เป็นตัวเองทั้งนั้น เพราะแบบนี้จะทำให้มีโอกาสตกลงสู่อ้อมกอดของลู้ซือจิ่น ได้ เมื่อสักครู่นี้ จะยังมีใครจำเรื่องที่ ถังรั่วชู ‘แย่ง’คู่หมั้นของพี่สาวได้อีกไหม? ส้งอานหยีมองไปทางพวกเธอด้วยสายตาดูถูก ก่อนจะด่าออกด้วยความแค้นว่า : “พวกบ้าผู้ชายไร้จริยธรรม!” เห็น ๆ อยู่ว่าเมื่อวินาทีก่อนหน้านั้นยังโจมตีถังรั่วชูเพื่อไอสารเลวจี้หยินเฟิงคนนั้นอยู่เลย พริบตาเดียว ก็เปลี่ยนมาหลงใหลลู้ซือจิ่นกันไม่เอาอะไรอีกแล้ว ไร้ขอบเขตสิ้นดี! “ช่างเถอะ” ถังรั่วชูยิ้มอย่างลำบากใจไปทางส้งอานหยี คนเหล่านี้ต่างพากันตื่นเต้นครึกครื้นกันใหญ่โต ไม่ได้เป็นกังวลมากมายขนาดนั้น พวกเธอจะไปรู้ได้ยังไงกันละ คำพูดน่ารังเกียจเหล่านั้นได้สร้างความเจ็บปวดใจให้กับตัวเองขนาดไหน? ถ้าเมื่อสักครู่นี้ไม่ใช่การปรากฏตัวที่ทันเวลาของลู้ซือจิ่นละก็ เกรงว่าเธอคงได้ถูกด่าจนยากที่จะทนฟังได้แล้ว แต่ ถังรั่วชูก็ยังรู้สึกซาบซึ้งอยู่ภายในใจ : “ไม่ว่ายังไง อานหยี เมื่อกี้ขอบคุณเธอมากนะ” “จะมาเกรงใจอะไรฉันละ? พวกชั้นต่ำเหล่านี้ก็มักจะจับกลุ่มนินทาไร้สาระกันเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่สั่งสอนพวกเธอสักหน่อย ก็คงจะยังคิดว่าเธอหน่ะรังแกได้ .....เมื่อกี้ มันก็อันตรายมากจริง ๆ นะ ฉันคิดว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว โชคดีที่ลู้ซือจิ่นมาช่วยเธอไว้ได้ทันเวลาพอดี ” เมื่อคิดถึงภาพเมื่อสักครู่นั้น ส้งอานหยีก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ “ฉันไม่เป็นไร เธออย่ากังวลไปเลย” “โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ฆ่าพวกเธอแน่” เมื่อส่งเสียงฮึดฮัดออกแล้ว ส้งอานหยีจึงได้ผ่อนคลายลง ในเวลานี้ ภายในห้องทำงานยังคงวุ่นวายกันอยู่ไม่น้อย ทุกคนโดยรอบต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงสาเหตุที่ลู้ซือจิ่นมาปรากฏตัว ณ บริษัทสือรุ่ยแห่งนี้กันยกใหญ่ ส้งอานหยีก็ติดเชื้อนั้นไปด้วย เลยอดที่ถามถังรั่วชูด้วยความอยากรู้ไม่ได้ว่า : “เธอว่า ท่านประธาน บริษัทการบันเทิงหวางถิงทำไมถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ในที่เล็ก ๆ ของเราแบบนี้ได้? ถ้าจำไม่ผิด บริษัทเราได้ส่งคำขอร่วมมือกับ บริษัทการบันเทิงหวางถิง หลายต่อหลายครั้งแต่กลับถูกปฏิเสธมาโดยตลอด ครั้งนี้ลู้ซือจิ่นมาด้วยตัวเอง หรือว่าจะมีโครงการใหญ่อะไร?” “ไม่รู้สิ” ถังรั่วชูส่ายหน้า ด้วยความรู้สึกงุนงงมากเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าบริษัทสือรุ่ยจะถือว่าเป็นบริษัทบันเทิงที่ใหญ่มากในประเทศ และมีดารานักแสดงอยู่ภายใต้สังกัดมากก็ตาม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทการบันเทิงหวางถิง แล้ว ไม่คุ้มค่าที่จะเปรียบเทียบเลยสักนิด หลายปีมานี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทสือรุ่ยต่างก็หมดแรงใจจะร่วมมือกับ บริษัทการบันเทิงหวางถิงไปแล้ว จนปัญญา ด้าน บริษัทการบันเทิงหวางถิง เลยเมินเฉยไป นึกไม่ถึง วันนี้ลู้ซือจิ่น จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ซะได้ ถังรั่วชูกลับมีเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาในจิตใจอย่างฉับพลัน ราวกับว่าเขาตั้งใจมาเพื่อเธออย่างไรอย่างนั้น แต่ไม่นาน เธอก็ปฏิเสธความคิดนี้ไป ถึงแม้ว่าเธอกับ ลู้ซือจิ่น จะแต่งงานกันแล้วก็ตาม แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันอยู่ อีกทั้ง ลู้ซือจิ่น ก็มีกิจการมากมาย จะมาเพื่อเธอได้ยังไงกัน? “ช่างเถอะ ไม่ว่าเขาจะมาเพราะเรื่องอะไร ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวเราก็ได้รู้เองแหละ ฮิฮิ นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ น่าว่าชีวิตนี้จะได้โฉมหน้าของผู้สูงศักดิ์อย่างเขากับตาตัวเอง นี่แหละคือเทพบุตรที่แท้จริง ! อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ทั้งคุณค่าและทั้งอุปนิสัย เมื่อเปรียบเทียบกับไอคนเจ้าชู้อย่าง จี้หยินเฟิง แล้ว แพ้อย่างราบคาบ” ส้งอานหยีส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมาด้วยความรู้สึกอนิจจัง ถังรั่วชูมองไปทางเขา : “เธอประเมินเขาสูงเกินไปแล้ว” “เรื่องที่ออกตัวเข้ามาช่วยเธอนั้น มันก็ต้องสูงอยู่แล้ว! เธอไม่เห็นอะไร ในตอนที่เขากอดเธออ่า โครตหล่อเลย ถ้าเป็นฉันละก็ จี้หยินเฟิงสัก 10 คน เกรงว่าก็คงจะสู้เขาไม่ได้ ” เมื่อพูดถึง จี้หยินเฟิง สีหน้าของ ส้งอานหยีก็เอือมระอาขึ้นมาทันใด แววตาของถังรั่วชูเรียบเฉย : “ใช่ ต้องโทษที่ฉันตาบอด คนหรือหมาก็แยกไม่ออก” ส้งอานหยีรู้ว่าในใจของเธอนั้นรู้สึกแย่มากขนาดไหน เลยกอดเธอพร้อมกับพูดปลอบโยนว่า: “ชีวิตใครบ้างละที่ไม่เคยเจอคนเลวสักคนสองคนกันนะ ตอนนี้เธอยอมรับมันได้ก็ยังไม่สาย อีกอย่าง รั่วชูของเราทั้งสวยทั้งมีความสามารถมากขนาดนี้ จี้หยินเฟิงไม่รู้จักทะนุถนอมไว้ ยังไงก็ต้องมีคนรู้จักทะนุถนอมสักวัน ต่อแต่นี้ไป เธอต้องหาผู้ชายที่ดีกว่าเขาหลายร้อยเท่าเลยนะ แล้วไปตะบั้นหน้าเขาเลย ให้เขาได้รู้ว่าเขาอ่าพลาดผู้หญิงที่ดีงามมากมายขนาดนี้ไปแล้ว” “อื้อ” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของส้งอานหยี ในใจของถังรั่วชูก็ดีขึ้นมากทีเดียว แต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ในใจเล็กน้อย เรื่องที่เธอกับลู้ซือจิ่นแต่งงานกันแล้ว เธอไม่ได้บอกกับ อานหยีแต่อย่างใด เพียงแต่ เธอแค่จดทะเบียนกับลู้ซือจิ่นกันเท่านั้นเรื่องงานแต่งอะไรยังไม่ได้เปิดเผยออกไปในช่วงนี้ เงื่อนไขนี้เธอเป็นคนเสนอเอง ถ้าเธอพูดออกมาในเวลานี้ ก็จะถือว่าเป็นการผิดคำสัญญา ย่อมไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์กับลู้ซือจิ่นแน่ เมื่อนึกถึงส้งอานหยีที่ดีกับตัวเองมากขนาดนี้ ถังรั่วชูก็อดรู้สึกผิดต่อเธอไม่ได้
已经是最新一章了
加载中