ตอนที่ 8 ไม่สนิทพอ

ตอนที่ 8 ไม่สนิทพอ บรรยากาศในรถแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมลงในทันที มู่หลิงที่ทำหน้าที่เปิดประตูรถอยู่ด้านหน้าก็กระตุกหัวเราะออกมา จนร่างทั้งร่างสั่นเทาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะลู้ซือจิ่นถลึงตาใส่เขาผ่านทางกระจกหลังเพื่อเตือนเขาละก็ เกรงว่าเขาคงจะหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว แก้มทั้งสองข้างของ ถังรั่วชู แดงเป็นเลือดฝาด ขนาดลำคอที่งดงามนั้นก็กลายเป็นสีชมพูอ่อนไม่เหลือ แววตาของลู้ซือจิ่น ฉายแววลึกซึ้งออกมาในทันที ： “คุณภรรยาไม่ต้องเป็นกังวล ผมไม่ชอบฉวยโอกาสหรอก ก่อนหน้านั้นเธอยังไม่ได้เตรียมความพร้อมมา ฉันก็จะไม่เร่งเธอ” ประโยคนี้เพื่อละลายความลำบากใจของเธอ พร้อมกับให้คำสัญญา เธอมองไปทางลู้ซือจิ่นด้วยความซาบซึ้งใจ รู้สึกว่าการเลือกผู้ชายคนนี้มาแต่งงานด้วย ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาดแต่อย่างใด เขาเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ บอกว่าไม่เร่งเธอ และไม่เร่งจริง ๆ ！ ความเชื่อถือนี้ มาจากการปฏิบัติตัวของลู้ซือจิ่น เขาต่างกับจี้หยินเฟิงโดยสิ้นเชิง จี้หยินเฟิงหมอนั้น เป็นคนที่พูดแต่ทำไม่ได้ สัญญาว่าจะแตะต้องตัวเธอหลังจากแต่งงานกัน แต่กลับสื่อความหมายว่าอยากขึ้นเตียงกับเธออยู่หลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านั้น ลู้ซือจิ่นกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ให้สิทธิ์ตัวเองอย่างชัดเจน บอกว่าจะไม่บังคับเธอ จนกระทั่งยอมให้เวลาเธอเตรียมตัวอีกด้วย ถังรั่วชูอดที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมาเงียบ ๆ ไม่ได้ โชคดีจริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับเขา “ขอบคุณนะคะ คุณ ลู่” “คุณภรรยาไม่ต้องขอบคุณหรอก” ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันนั้น รถก็จอดลงในที่สุด ลู้ซือจิ่นมองออกไปนอกหน้าต่างรถ : “เราถึงแล้วละ” ถังรั่วชูมองตามออกไป และก็อดตกตะลึงไม่ได้ รถมาจอดอยู่ตรงหน้าประตูร้านอาหารที่มีชื่อว่า ‘ร้านGalaxy sea’แห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ชานเมือง ร้านอาหารถูกสร้างขึ้นบนเขา ครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง มีรีสอร์ทและทิวทัศน์มากมายรายล้อมอยู่โดยรอบ มองออกไปได้สุดลูกหูลูหูตา ภายในร้านอาหารถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ให้ความรู้สึกไฮคลาส ประตูด้านหลังถูกสร้างเป็นหอดูดาวโดยเฉพาะ ในตอนที่ลูกค้ารับประทานอาหาร ไม่เพียงแต่จะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว อีกทั้งยังเห็นดวงดาวบนฟากฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ‘ร้านGalaxy sea’จึงกลายเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองปักกิ่งมากทีเดียว ปกติแล้วหากจะมาทานร้านนี้จำเป็นจะต้องจองที่นั่งร่วงหน้าก่อนเป็นเดือน ๆ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มีเงินทองมักจะชอบมายังสถานที่แห่งนี้ “ไปกันเถอะ” ลู้ซือจิ่นที่ไม่รู้ลงมาจากรถตั้งแต่เมื่อไหร่ และยังเดินอ้อมมาข้างกายของเธอ เพื่อเปิดประตูให้เธอ ถังรั่วชูก้มหน้าลงมาจากรถ ก่อนจะพูดขึ้นว่า : “คุณน่าจะบอกฉันก่อนว่าจะมาที่นี่ ฉันจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดีกว่านี้” ลู้ซือจิ่นพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “คุณภรรยาสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่งชุดไหนก็สวย แบบนี้แหละพอแล้ว” คำพูดของเขาไม่ได้โกหกเลยสักนิด เดิมทีถังรั่วชูมีความงามเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว มีอุปนิสัยที่โดดเด่นชัดเจน กิริยาท่าทางดูสง่างาม ดูสดใสมากทีเดียว บวกกับรูปร่างที่ได้สัดส่วนอีก ใส่ชุดไหนก็ดูมีเสน่ห์และสูงยาวทั้งนั้น ถึงจะเป็นชุดทำงาน ก็ยังทำให้ประทับใจในความงดงามไม่น้อย ถังรั่วชูอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า : “ดูไม่ออกว่าคุณลู่จะชมคนอื่นเป็นด้วย” นี่เป็นรอยยิ้มแรกหลังจากที่เธอผ่านเรื่องเลวร้ายมา ลู้ซือจิ่นก็เหนือความคาดหมายไม่น้อย หลังจากที่ตัวเองได้แต่งงานอย่างไม่ได้คาดหมายแล้ว จะมีความสามารถในการขุดเอาคำชื่นชมมาชมเชยคนอื่นได้แบบนี้！ โชคดีที่เมื่อสักครู่นี้มีแค่เธอกับเขาสองคน ถ้ามันรั่วเข้าหูกลุ่มเพื่อนชั่ว ๆ เหล่านั้นละก็ เกรงว่าคงจะตื่นตกใจจนกรามค้างไปแล้ว！ ทั้งสองคนเดินเคียงบ่าเคียงไหล่เข้ามาในร้านอาหาร ลู้ซือจิ่นตั้งใจจองที่นั่งที่ติดกับหอดูดาวที่หนึ่ง หลังจากที่นั่งลงไม่นาน พ่อครัวใหญ่ของร้านอาหารก็เข็นรถอาหารมา จากนั้นก็เสิร์ฟอาหารที่สั่งไว้ ต่อมาก็มีนักไวโอลินที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบเต็มยศสองสามคนเดินมายืนเรียงรายกันอยู่ด้านหน้า จากนั้นก็บรรเลงทำนองที่แสนไพเราะขึ้น ดอกไม้ เทียนไข เหล้าชั้นดี ดนตรี เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อ่อนไหวทั้งสิ้น ภายใต้ความหลงใหลในบรรยากาศรอบ ๆ เช่นนี้ ถังรั่วชูค้นพบว่าความไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเจ็บปวดและความเสียใจที่ได้รับมาเมื่อกลางวัน มันได้ถูกกำจัดไปโดนไม่รู้เนื้อรู้ตัว สร้างความประหลาดใจให้กับเธอขึ้นมาในทันที “อาหารแบบนี้ ถูกปากคุณภรรยาไหมครับ?” ขณะรับประทานอาหารนั้น ลู้ซือจิ่นก็ได้ถามถังรั่วชูขึ้นมาฉับพลัน ถังรั่วชูที่กำลังเคี้ยวเนื้อวัวอยู่ในปาก ก็ได้พยักหน้ายอมรับ : “ถูกปากฉันมากคะ ฟัวกรา ซุปบีทรูท สเต็กเนื้อรมควันสไตล์ยุโรป ของหวานที่แสนหอมหวาน ล้วนแล้วแต่เป็นของที่ฉันชอบทั้งนั้นคะ.......” ทันใดนั้น เธอก็มองไปทางเขาด้วยความตกใจ “ทั้งหมดนี้.....คุณเป็นคนสั่งมาเหรอคะ?” ลู้ซือจิ่นมองไปทางเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “อยากรู้เรื่องเหล่านี้ มันไม่ยากหรอก” ถังรั่วชูจุกอยู่ในลำคอ พูดไม่ออก เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าผู้ชายที่ดูสูงศักดิ์และยากเข้าถึงคนนี้จะเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดมากขนาดนี้ รู้ว่าเธอชอบกินรสชาติแบบไหน และคอยดูแลเธอเป็นอย่างดี เรื่องนี้ จี้หยินเฟิงทำไม่ได้เลยสักนิดเดียว เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอชอบกินอะไร ชอบแต่งตัวแบบไหน ชอบดูหนังอะไร ลู้ซือจิ่นกลับทำได้！ ถังรั่วชูบอกความรู้สึกในตอนนี้ไม่ถูก ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอทุ่มเทใจให้กับเขา แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเหยียบย้ำหัวใจของเธอจนไม่เหลือชิ้นดี และทิ้งขว้างโดยไม่สนใจใยดี สามีใหม่อีกคนที่เธอเพิ่งจะรู้จักไม่ถึง 1 วัน กลับทำเรื่องที่ จี้หยินเฟิงไม่เคยทำให้เธอมาตลอดชีวิต ถังรั่วชูรู้จักความต่างของ ลู้ซือจิ่นขึ้นมาทันใด ผู้ชายคนนี้ อาจจะไม่ได้ดูเย็นชาเหมือนกับที่เขาแสดงออกมาภายนอก ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่เอาใจใส่มาก เรื่องนี้ ตั้งแต่เขาบอกว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอ จนถึงการสั่งอาหารที่เธอชอบมาให้ ก็ดูออกแล้วว่าเขาเป็นคนยังไง ถังรั่วชูเกิดความสงสัยขึ้นมา ตอนที่เขาปรากฏตัวในบริษัท บริษัทสือรุ่ย ในช่วงบ่ายวันนี้ ก็เพื่อช่วยแก้หน้าให้กับเธอใช่ไหม เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ถังรั่วชูก็รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ : “คุณลู่ขอบคุณนะคะ！” ลู้ซือจิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะรู้สึกคลุมเครือกับคำเรียกที่ดูเหินห่างต่อเธอ：”ขอบคุณได้ แต่คุณภรรยาน่าจะลองเปลี่ยนคำเรียกดูหน่อยนะ” “เอ่อ ..... เปลี่ยนเป็นอะไรคะ?” สมองของถังรั่วชูค่อนข้างเฉื่อยชา ตอนอยู่บนรถเมื่อสักครู่ ลู้ซือจิ่นก็เรียกเธอว่าคุณภรรยา เธอยังคิดอยู่เลย ตัวเองจะเรียกเขาว่าอะไร ต่อมาก็ยังหาคำเรียกที่เหมาะสมไม่ได้ ก็เปลี่ยนจากประธานลู่มาเป็นคุณลู่ซะเลย ผลสุดท้าย ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ลู้ซือจิ่นก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง “ชื่อ เธอลองเรียกชื่อฉันดูสิ” เขาแนะนำด้วยความหวังดี ถังรั่วชูกระพริบตาปริบ ๆ พร้อมกับครุ่นคิดอยู่สักพัก: “ซือจิ่น?” “ยังไม่สนิทมากพอ แต่ ฉันอนุญาตเธอค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปก็ได้” ลู้ซือจิ่นแสดงสีหน้าค่อนข้างพอใจออกมา