ตอนที่ 12 ผู้หญิงคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายนัก

ตอนที่ 12 ผู้หญิงคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายนัก หลังจากทานอาหารเสร็จ ถังรั่วชู ก็เก็บข้าวของเตรียมออกไปทำงาน พอดีกับลู้ซือจิ่นที่จะออกไปทำงาน จึงไปส่งเธอด้วยเลย เมื่อมาถึง ลู้ซือจิ่นเรียกถังรั่วชู แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า "ผมว่าทางบ้านคุณคงจะไม่จบง่ายๆ สองวันนี้ถ้ามีเรื่องอะไรรีบโทรบอกผมทันทีเลยนะ" "ได้ ขอบคุณนะ ซือจิ่น" เทียบกับคำขอบคุณ ผมชอบการแสดงออกทางการกระทำมากกว่า แต่ว่าเห็นแก่คุณที่เรียกผมแบบนี้ เลยไม่อยากบังคับคุณ" ลู้ซือจิ่นเผยให้เห็นรอยยิ้มแสนอบอุ่นที่ยากจะเห็นได้ตามปกติ หลังจากที่กลับมาบริษัท ถังรั่วชูตอกบัตรแล้วก็กลับมานั่งที่ของตนเตรียมบทสัมภาษณ์ของวันนี้ แต่ปรากฏว่านั่งเก้าอี้ก้นยังไม่ทันร้อน ก็ถูกส้งอานหยีลากมา ทั้งสองเข้าไปในห้องน้ำ ล็อกประตูส้งอานหยีถามอย่างดุดันไม่อ้อมค้อม "เมื่อวานที่เธอบอกว่าย้ายออกไปนี่หมายความว่ายังไง คงไม่ใช่ฝีมือนังบ้ากู้รั่วรั่วนั่นนะ" "ไม่ใช่ ฉันย้ายออกไปเอง" ถังรั่วชู ส่ายหน้า ตอบอย่างเรียบๆ "เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ "ส้งอานหยีทำเสียงขึ้นจมูกฟึดฟัด ถังรั่วชู ถอนหายใจ "ก็ได้ จริงครึ่งหนึ่ง" "ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ถังรั่วชู ยักไหล่แบมือ "ก็ไม่มีอะไร พรุ่งนี้กู้รั่วรั่วกับจี้หยินเฟิงจะหมั้นกัน พ่อจะให้ฉันไปร่วมงาน" "อะไรนะ !!!" ส้งอานหยีถลึงตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เบิกตาโพลงอย่างตกตะลึงอยู่อย่างนั้น ถังรั่วชูคิดอยู่แล้วว่าเธอจะต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้ จึงได้แต่ยิ้มๆ ส้งอานหยีพอได้สติกลับมา ก็มองเธออย่างเห็นใจ รั่วชู..." "ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาอยากจะหมั้นกันก็หมั้นไป ฉันไม่ไปร่วมงานหรอก กู้รั่วรั่วต้องการจะเย้ยฉัน ไม่มีทางทำสำเร็จหรอก" ถังรั่วชู พูดอย่างใจเย็น เธอในตอนนี้ ไม่ใช่ว่ากู้รั่วรั่วและจี้หยินเฟิงจะนึกรังแกยังไงก็ได้ ตอนที่เธอรักอยู่กับจี้หยินเฟิงนั้น เธอยอมสละทุกอย่าง เมื่อหมดรักเขาแล้ว เธอก็เกลียดเขาเข้ากระดูกดำ กู้รั่วรั่วคิดจะใช้โอกาสนี้มาโจมตีเธอ คิดผิดไปแล้ว หลายวันที่ผ่านมานี้ ถังรั่วชูพยายามทำใจให้รับความจริงข้อนี้ "รั่วชู ถ้าเธอคิดได้แบบนี้ก็ดีมากเลย ฉันกลัวว่าเธอจะคิดอะไรตื้นๆ" ตอนแรกส้งอานหยีกลัวว่าเธอจะรับไม่ไหว พอได้ยินเธอพูดอย่างนี้ ก็ทอดถอนใจอย่างโล่งอก "สบายใจได้ ฉันไม่ปัญญาอ่อนขาขนาดนั้นหรอก" ถังรั่วชูตบที่บ่าเธอเบาๆ ยิ้มแล้วพูดว่า "ไปเถอะ กลับไปห้องทำงานได้แล้ว" "ได้" เมื่อทั้งสองออกมาจากห้องน้ำแล้ว ส้งอานหยีเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงถามออกมาว่า "ใช่แล้ว แล้วเธอย้ายไปอยู่ที่ไหน" "เรื่องนี้เหรอ …."ถังรั่วชูมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมา "เดี๋ยวจะบอกเธอทีหลัง" "อะไรกัน มีความลับเหรอ" วันต่อมา ก็คืองานหมั้นของจี้หยินเฟิงและกู้รั่วรั่ว เช้าตรู่ ข่าวงานหมั้นของทั้งสอง ก็อยู่บนพาดหัวข่าวของแทบทุกสำนักพิมพ์ จี้หยินเฟิงเกิดในตระกูลอภิมหาเศรษฐี ตัวเขาเองนั้นก็ได้รับความนิยมสนใจมากอยู่แล้ว บวกกับเกิดในตระกูลชั้นสูง จึงเป็นเรื่องง่ายมากที่ทุกสำนักข่าวจะลงข่าวของเขา พอเห็นเธอในข่าว สื่อโซเชียลก็เริ่มดุเดือดขึ้นมาทันที กู้รั่วรั่วคือใคร ก่อนหน้านี้ ชาวเน็ตอาจจะรู้จักเธอในฐานะนักแสดงที่อาจจะไม่ถึงแนวที่สี่ด้วยซ้ำ เคยแสดงละครมาบ้าง ไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก ปกติแทบจะไม่มีนักข่าวสนใจ นึกไม่ถึงเลยว่า พอขยับตัวนิดเดียวก็กลายเป็นคุณผู้หญิงตระกูลมหาเศรษฐี ทำให้เป็นที่พูดถึงของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก กู้รั่วรั่วที่เป็นข่าวหน้าหนึ่งนั้น นับว่าเธอฉลาดหลักแหลมมาก ก่อนหน้านี้ปกปิดสถานะ รอจนวันหมั้นจึงได้ใช้โอกาสนี้ เปลี่ยนให้ตัวเองโด่งดังขึ้นมา ตอนนี้เวยป๋อ และสื่อจากหลายสำนัก ทั้งในอินเทอร์เน็ตทั้งหมดล้วนสนใจในตัวเธอ โด่งดังมาก ถังรั่วชู เองสั่นสะเทือนไปบ้างเล็กน้อย แต่ว่า รู้สึกน่าหัวเราะเยาะเสียมากกว่า เหตุผลที่กู้รั่วรั่วยอมเข้าวงการบันเทิง ก็เพราะเห็นว่าถังรั่วชูนั้นเริ่มมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เธอจึงเกิดความอิจฉาริษยา ทำให้เธออยากเข้าสู่วงการบันเทิง นอกจากใบหน้านั้น ในร่างกายเธอไม่มีส่วนไหนเลยที่พร้อมจะเข้าวงการบันเทิง แม้แต่บทบาทที่ได้รับในละครนั้น ก็ยังใช้วิธีสกปรก ถังรั่วชู เองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่ากู้รั่วรั่วจะใช้โอกาสนี้ มาสร้างกระแสให้ตัวเอง "ผู้หญิงคนนี้ คิดแต่จะเหยียบย่ำฉันตลอดเวลาจริงๆ" ถังรั่วชูเองก็แสดงความคิดเห็นออกมา เวลานั้นเอง หรุเสี่ยวหลินที่เดินยกเท้าสูงเข้ามาพูดกับ ถังรั่วชูว่า "งานหมั้นของคุณชายบริษัทจี้ซื่อกับกู้รั่วรั่ว เชิญผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์สดที่งาน ตอนนี้แผนกเธอว่างที่สุด ก็เลยส่งให้เธอไปนะ" หรุเสี่ยวหลินเป็นรองผู้จัดการฝ่ายข่าว มีนักข่าวในสังกัดมากมาย ถังรั่วชูและส้งอานหยีก็เป็นหนึ่งในนั้น ปกติชอบทำตัวสูงส่ง ทำให้คนไม่ชอบขี้หน้านัก พอพูดประโยคนี้ออกมา ถังรั่วชูและส้งอานหยีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที"อะไรนะ!!"