บทที่136 ตั้งใจยั่วโมโหเขา   1/    
已经是第一章了
บทที่136 ตั้งใจยั่วโมโหเขา
บทที่136 ตั้งใจยั่วโมโหเขา “เวยเวยสงบสติอารมณ์ก่อนนะ ฟังฉันให้จบก่อน” อวี๋ซือซือจ้องมองท่าทางของเป้ยฉ่ายเวย เธอรู้สึกผิด ทำอย่างไรดีเธอควรรู้ว่าควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร พูดแล้วเวยเวยก็คงจะโกรธ แต่ถ้าโกหก เธอก็ยังต้องกลับไปรับรุ่ยรุ่ย เป้ยฉ่ายเวยเห็นท่าทีรู้สึกผิดของอวี๋ซือซือ หัวใจของเธอก็เย็นชา ริมฝีปากสั่นระรัว เธอถามด้วยใจที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย “ซือซือ เธอไม่ควรปล่อยให้รุ่ยรุ่ยอยู่ในนั้นนะ” อวี๋ซือซือมองร่างที่สั่นคลอนของเป้ยฉ่ายเวย เธอเอื้อมมือออกไปประคองเธอไว้ เธอไม่ปิดบังอะไรอีกต่อไปและบอกเป้ยฉ่ายเวยถึงแผนการทั้งหมดของรุ่ยรุ่ย รับประกันว่ารุ่ยรุ่ยจะไม่โดนฉูเจ๋อหยางจับได้ เป้ยฉ่ายเวยฟังไม่เข้าหูแล้ว ตอนนี้ในหัวเธอคิดแต่ว่ารุ่ยรุ่ยกำลังอยู่กับฉูเจ๋อหยาง ใบหน้าเธอขาวซีด ทันใดนั้นเธอก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอยื่นมือออกไปผลักซือซือและตรงไปที่ห้องทำงานของฉูเจ๋อหยาง ในใจเธอคิดแต่ว่าต้องพารุ่ยรุ่ยออกมาให้ได้ “เวยเวย เวยเวย เธอสงบสติอารมณ์ก่อน เธอเข้าไปอย่างนี้มันไม่ดีแน่” อวี๋ซือซือรีบดึงเป้ยฉ่ายเวยกลับมา “สงบหรอ ซือซือฉันจะสงบนิ่งอยู่ได้อย่างไร ถ้าหากว่าเขารู้ตัวตนของรุ่ยรุ่ยขึ้นมา ฉันจะทำอย่างไร ไม่ได้ ฉันต้องพารุ่ยรุ่ยออกมา” เป้ยฉ่ายเวยแทบจะประสาท เธอไม่สนใจอะไรแล้วในตอนนี้ ขอแค่พารุ่ยรุ่ยออกมา “เวยเวย ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วง แต่ถ้าเธอบุ่มบ่ามเข้าไปตอนนี้จะยิ่งทำให้ฉูเจ๋อหยางสงสัยรุ่ยรุ่ย แล้วเธอจะพารุ่ยรุ่ยไปได้อย่างไรกัน” อวี๋ซือซืออดไม่ไหวที่จะเพิ่มระดับเสียง เธอหวังว่าเป้ยฉ่ายเวยจะตั้งสติและคิดสักนิด เป้ยฉ่ายเวยดูเหมือนจะได้สติขึ้นมาบ้าง พละกำลังทั้งหมดของร่างกายถูกนำออกมาทั้งหมด แค่คิดว่าฉูเจ๋อหยางอาจจะจับรุ่ยรุ่ยได้ มือและเท้าของเธอก็เย็นชา “ทำอย่างไร ซือซือ ทำอย่างไร ให้เขารู้เรื่องรุ่ยรุ่ยไม่ได้ ฉันเสียรุ่ยรุ่ยไปไม่ได้นะ” “เวยเวย ฉันขอโทษ เพราะฉันกับรุ่ยรุ่ยไม่คิดให้ดีเสียก่อน” อวี๋ซือซือพูดอย่างเสียใจ เธอไม่ได้นึกถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของเวยเวยเลย เป้ยฉ่ายเวยหลับตาและส่ายหัว “ซือซือฉันขอโทษ ฉันไม่ควรจะใส่อารมณ์กับเธอแบบนั้น เรื่องนี้ฉันไม่โทษเธอหรอก” เธอต้องโทษตัวเองต่างหาก มันเป็นความเห็นแก่ตัวของเธอเองที่คิดว่าคำปลอบใจของรุ่ยรุ่ยเป็นสิ่งที่เขาคิดเช่นนั้นจริงๆ เธอเองที่กลัวรุ่ยรุ่ยจะไปพบฉูเจ๋อหยาง ความจริงแล้วเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามพ่อลูกพบกัน ด้วยนิสัยของฉูเจ๋อหยาง ถ้ารู้ว่ามีรุ่ยรุ่ยอยู่ เขาจะต้องหาทางพรากรุ่ยรุ่ยไปจากเธออย่างแน่นอน ที่เธอทนลำบากมาหลายปี มันสูญเปล่าเสียจริง “เวยเวยเธออย่ามองแง่ร้ายขนาดนั้น รุ่ยรุ่ยฉลาดมาก เขารู้จักอำพรางตัวมา ฉูเจ๋อหยางก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ฉันจะไปพาเขาออกมา” ใจอวี๋ซือซือก็อึดอัด เธอพูดอย่างเปิดอก เป้ยฉ่ายเวยยังเข้าใจว่าจู่ๆไปพาตัวรุ่ยรุ่ยออกมามันฉับพลันเกินไป นั้นจะทำให้ฉูเจ๋อหยางสงสัยแน่นอน และนี่คือสิ่งที่รุ่ยรุ่ยต้องการ ทำไมเธอถึงต้องทำลายมัน ถ้าหากว่าถูกจับได้จริงๆล่ะก็ ค่อยหาทางเอาแล้วกัน นี่เป็นสิ่งที่รุ่ยรุ่ยต้องการไม่ใช่หรือ เธอคิดอยู่ในใจ ความแตกตื่นของเป้ยฉ่ายเวยก็ค่อยๆสงบลง “ซือซือ ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องบอกรุ่ยรุ่ยว่าฉันรู้เรื่องนี้ ทำตามแผนการที่พวกเธอตกลงกันไปก็แล้วกัน” “เธอโอเคจริงๆหรอ” อวี๋ซือซือยังคงเป็นห่วงหล่อน “ฉันไม่เป็นไร น่าจะแตกตื่นมากไปเท่านั้น” เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัวอีกครั้งในขณะที่พูด ในสายตาปรากฏความแข็งกร้าว อวี๋ซือซือพยักหน้าและไม่พูดอะไร “ฉันไปซื้อเค้กก่อน” “อื้อ ฉันไปทำอะไรก่อน อยู่นานอาจจะมีคนสงสัย” เป้ยฉ่ายเวยรีบสงบสติอารมณ์และยิ้มแย้มขึ้นอีกครั้ง “โอเค” อวี๋ซือซือลังเลและพาตัวเองจากไป เธอจะไม่ปล่อยให้ฉูเจ๋อหยางค้นพบตัวตนของรุ่ยรุ่ย เธอจะต้องพารุ่ยรุ่ยกลับออกมาอย่างปลอดภัย ร่างใหญ่หนึ่งเล็กหนึ่งในห้องทำงานไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย รุ่ยรุ่ยมองฉูเจ๋อหยางอย่างกล้าหาญ ราวกับจะวัดใจกันไปเลย ว่าผู้ชายตรงหน้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อของเขาหรือไม่ ฉูเจ๋อหยางก็ไม่ได้โมโห เขาปล่อยให้คนตัวเล็กจ้องหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา เขาพลิกดูเอกสารในมืออย่างสงบนิ่ง รุ่ยรุ่ยยังเด็กนัก ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก วุฒิภาวะยังไม่เท่ากับฉูเจ๋อหยางซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแล้ว เขาอดที่จะกระแอมแล้วถามขึ้นไม่ได้ “คุณลุงฉูผมขอถามคุณลุงสองสามคำถามได้ไหมครับ” ฉูเจ๋อหยางค่อยๆวางเอกสารในมือลงและมองไปที่ท่าทีโอหัง เขาพูดขึ้นอย่างเนิบๆ “ถ้าอยากจะถาม ก็ควรที่จะเปิดเผยใบหน้าก่อนไม่ใช่รึ” แสงแดดข้างนอกนั้นแรงจริงๆ แต่มันไม่ได้ส่องเข้ามาในห้องสำนักงานเลย แต่ว่ายังมีแว่นกันแดดคู่หนึ่งแขวนอยู่บนจมูกเล็กๆนั่นตลอดเวลา ถ้าจงใจเกินไปก็จะเป็นที่น่าสงสัย รุ่ยรุ่ยผลักแว่นกันแดดบนจมูกขึ้นเพื่อตอบคำถามที่ไม่ได้ถาม “ลุงฉูไม่คิดว่านี่มันเท่ห์หรอครับ” ฉูเจ๋อหยางจ้องมองเขาและพูดอย่างแผ่วเบา “ไม่นะ” “ผมคิดว่ามันเท่ห์มากเลย เห็นไหมว่าผมของผมก็เหมือนกับพ่อ ตอนเช้าก็ไม่ต้องหวีให้ยุ่งยาก สาวๆชอบกันมากเลย” รุ่ยรุ่ยดูเหมือนว่าจะสนใจฉูเจ๋อหยาง เขาเอื้อมมือน้อยๆออกมาและขมวดผมตัวเองที่อยู่ข้างศีรษะ เขาเคยได้ยินจากปากของป้าว่า พ่อดูเหมือนจะไม่ชอบผู้ชายแปลกๆ เขารู้สึกแย่มาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน เพียงแต่เขาแค่อยากเห็นว่าพ่อจะมีปฏิกิริยาเช่นไร เป็นเช่นนั้นจริงๆฉูเจ๋อหยางขมวดคิ้วแน่น เสียงอันเย็นชาพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “พ่อแม่ของเธอไม่ได้บอกเธอหรือยังไง ผู้ชายควรที่จะดูเป็นสุภาพบุรุษสักหน่อย” แต่งตัวสีสันฉูดฉาด น่าอายจริงๆ ฉูเจ๋อหยางรู้สึกว่าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าไม่ควรที่จะแต่งกายเช่นนี้ แต่ว่าควรจะแต่งกายเช่นไรเขาเองก็ไม่สามารถบอกได้ รุ่ยรุ่ยแสร้งทำไม่เข้าใจ เขาพูดด้วยปากน้อยน่ารัก “แต่ว่าลุงฉูครับ ผมยังเป็นเด็กอยู่นี่นา” ราวกับจะแสดงความไร้เดียงสา ดวงตาน่ารักแสนหวานจ้องทะลุทะลวงไปที่ฉูเจ๋อหยาง ฉูเจ๋อหยางหมดคำพูด พูดกับเด็กเรื่องแบบนี้อาจจะเร็วเกินไป แต่เขาแค่ต้องการให้การอบรมแก่เด็กก็เท่านั้น “ไม่ต้องเสแสร้งหรอก ลุงรู้ว่านั่นเป็นวิก” “...” รุ่ยรุ่ยหยุดการกระทำของเขาในทันที ขาสั้นๆเดินเข้าใกล้ฉูเจ๋อหยาง ร่างนั้นสูงยังไม่เท่ากับความสูงของโต๊ะ เขายังคงพยายามที่จะดูคางของฉูเจ๋อหยางอยู่อีกหรอ “ลุงฉู ลุงยังไม่ได้ตอบคำถามของผมเลยนะครับ” ฉูเจ๋อหยางมองไปที่รุ่ยรุ่ยซึ่งความสูงยังไม่เท่ากับโต๊ะ แต่กลับมีท่าทีหัวแข็งเช่นนี้ ลักษณะความดื้อรั้น แวบหนึ่งที่หลุดเข้ามาในหัวเขา เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมองเขาอย่างดื้อรั้นเช่นนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีแว่นกันแดด ฉูเจ๋อหยางอยากที่จะถอดแว่นกันแดดของเด็กน้อยคนนี้เป็นอย่างมาก ดวงตาคู่นั้นให้ความสว่างประทับใจ ทั้งดื้อรั้นและไม่ยอมแพ้ง่ายๆ รุ่ยรุ่ยไม่คาดคิดว่าฉูเจ๋อหยางจะยื่นมือออกมาดึงแว่นกันแดดของเขาออก เขารีบก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว และกล่าวอย่างไม่พอใจ “ลุงฉูดึงแว่นของคนอื่นออกโดยไม่ได้รับความยินยอม อย่างนี้เรียกสุภาพบุรุษหรือไม่”
已经是最新一章了
加载中