บทที่ 327 บอสใหญ่สุดเจ้าเล่ห์   1/    
已经是第一章了
บทที่ 327 บอสใหญ่สุดเจ้าเล่ห์
บทที่ 327 บอสใหญ่สุดเจ้าเล่ห์ พี่นัฎเองก็เห็นรูปที่แฟนคลับส่งเข้ามาในกลุ่ม ข้อความของผู้กำกับคนนั้นชักจะมากเกินไปแล้ว เธอตบโต๊ะด้วยความเดือดจัด “ฉันบอกเสมอว่าเขาถ่ายหนังได้แย่ เป็นแค่คนแย่ๆ คนหนึ่ง ยังกล้ามาวิจารณ์เค.เอฟ เขามีความเป็นมืออาชีพหรือไม่ เขาเคยเห็นการแสดงของเธอหรือ ไม่เคย มีคุณสมบัติอะไรมาพูดแบบนั้นกัน” สำหรับทักษะการแสดงของนักแสดง คำวิจารณ์ของผู้กำกับและผู้คนนั้นมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด แต่ผู้กำกับคนนี้ไม่เคยเจอจิดาภาด้วยซ้ำ เขาถือดีอะไรมาว่าร้ายกันเช่นนี้ อาศัยตัวเองที่ทำหนังมาหลายเรื่อง มารังแกคนอย่างนั้นหรือ “เขาอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไป” ท่าทางของจิดาภานั้นสงบนิ่ง เธอปลงกับมันได้แล้ว แต่พี่นัฎนั้นยังคงพกความโกรธไว้เต็มท้อง “เขาพูดในสิ่งที่เขาอยากพูด ฉันก็จะทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ รอภาพยนตร์ฉายเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเขาคงโดนตีแสกหน้าจนหน้าแหก” ไร้ซึ่งการแจ้งเตือน บรรดาผู้กำกับเหล่านั้นยังคงวิพากษ์วิจารณ์จิดาภา ร่วมกันต่อต้านนักแสดงหญิงที่ได้รับทรัพยากรและบทบาทโดยไม่ชอบธรรม และยังกล่าวอีกว่าเค.เอฟนั้นไม่เหมาะสมขึ้นเป็นผู้นำ เพราะจิรภาสมอบสิทธิพิเศษให้กับจิดาภาเสียมากมาย ทั้งยังสร้างโพลสำรวจ ว่ามีละครหรือภาพยนตร์ดีๆ กี่เรื่องที่ถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของนักแสดง หนึ่งในนั้นยังมีชื่อของส่วนความทรงจำด้วย “ท่านประธานครับ เรื่องราวในตอนนี้ชักจะแปลกเกินไปแล้วครับ พวกเขาไม่ควรรวมตัวและกระทำเป็นกระบวนการเช่นนี้” ตฤณหยิบหลักฐานที่รวบรวมไว้ออกมา “ผมตรวจพบว่าในตอนที่คุณกานดาถูกจับกุม มีลูกชายของผู้สร้างภาพยนตร์คนหนึ่งอยู่ในที่นั้นด้วย ในมือของเขามีสคริปต์ที่ไม่สมบูรณ์ครับ ตั้งแต่ที่ถูกเค.เอฟยับยั้งละครออนไลน์เรื่องนั้นไป พวกเขาต่างก็เคลื่อนไหวไปรอบๆ เลยครับ” “ผู้กำกับเหล่านี้ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวของพวกเขาครับ” ตฤณตรวจสอบได้เพียงส่วนหนึ่ง และคาดว่ายังคงมีบางส่วนที่ยังไม่โผล่หน้าออกมา “สามารถรับรองได้แล้วว่าทางนั้นมุ่งเน้นไปที่คุณหญิงครับ” “แม้แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ออกมาแถลงการณ์เช่นกัน เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมให้กับวงการบันเทิง ควรให้โอกาสศิลปินทุกคนเท่าๆ กัน” กล่าวได้อย่างชัดเจนไปเลยมิใช่หรือ ว่าหากเค.เอฟไม่เปลี่ยนคน และยังคงให้จิดาภารับบทนางเอกต่อไป ในตอนที่ยื่นเรื่องอย่างไรก็จะเกิดปัญหามิใช่รึ “ฉากของจิดาภาเสร็จแล้ว ฉันจึงจะเตรียมให้เธอไปคัดตัวครั้งต่อไป เป็นภาพยนตร์ทหาร เรื่องอาทิตย์สีแดง” บนโต๊ะทำงานของจิรภาส มีสคริปต์และใบสมัครวางไว้ อาทิตย์สีแดงรึ ตฤณชะงักนิ่ง “เรื่องนี้ใช่เรื่องที่ผู้กำกับศรุตเป็นคนกำกับหรือไม่ครับ เขาเป็นคนแรกที่ออกมาตำหนิการแสดงของคุณหญิงเลยนะครับ” “ฉันก็จะเอาความจริงไปปิดปากจองหอกของเขาซะ” สายตาของจิรภาสทอประกายดุดัน นานมากแล้วที่เขาไม่ได้โกรธจนถึงขีดสุดขนาดนี้ “หากคุณหญิงผ่านการคัดเลือก...” จิรภาสหันหลัง มองไปยังนอกหน้าต่างและกล่าวขึ้น “นั่นก็หมายความว่าภรรยาของฉันมีความสามารถมากพอ แต่สำหรับการถ่ายทำของเขา ฉันยังไม่ชอบอยู่ดี” “ครับ ผมจะรีบไปจัดการ” สายตาของตฤณเปล่งประกายตื่นเต้น เขาแทบทนรอฉากตีแสกหน้าคนพวกนั้นไม่ไหวจริงๆ ยังคงเป็นท่านประธานของพวกเขาที่เจ้าเล่ห์ที่สุด ไม่ออกแถลงการณ์ และไม่ออกไปอธิบายให้มากความ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ชอบจิดาภา เช่นนั้นก็จะทำให้พวกเขาเบิกตามองให้กว้างๆ ว่าท้ายที่สุดแล้วจิดาภาคือนักแสดงที่ยอดเยี่ยมหรือไม่ เมื่อถึงเวลานั้นที่ความจริงปรากฏ เขาจะยืนมองดูทุกคนที่พ่ายแพ้ให้แก่เขา หากเขาไม่เอ่ยปากแซะว่าจิดาภาไร้ความสามารถทางการแสดง คนอื่นๆ ก็คงจะไม่เห็นด้วย วิธีการนี้นอกจากจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามสงบปากแล้ว ยังเป็นการทำลายข่าวลือที่บอกว่าจิดาภาไม่มีความสามารถทางการแสดงไปด้วย ค่ำวันนั้น สคริปต์ของภาพยนตร์เรื่องนั้นก็มาอยู่ในมือของจิดาภา “คุณหญิงครับ บทนี้คือเจ้าหน้าที่หญิงของทั้งสองฝ่าย หากคุณยินดีที่จะลอง จะมีอาจารย์สอนพิเศษมาแนะแนวทางการแสดง และการจับปืนให้” สุดท้าย... ก็เป็นสามีของเธอที่เข้าใจความคิดของเธอ “ฉันรับทราบค่ะ” จิดาภาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอให้ความสนใจกับบทบาทตัวละครนี้มาเสมอ ไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนแอ แต่เป็นการต่อสู้ด้วยความสามารถของตัวเอง “ท่านประธานยังกล่าวอีกว่า การแสดงฉากนี้ท่านสามารถสอนคุณได้” ตฤณกล่าวพร้อมนึกย้อนไปเรื่องในอดีต “การต่อสู้ของท่านประธานยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ” จิดาภาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ...” “คุณหญิงตั้งชื่อขึ้นมาเลยครับ ผมจะได้ไปจัดการเรื่องสมัคร” “เรียกว่าอะไรดีคะ เป็น... วันนีย์ก็ได้ค่ะ” เธอเพียงแค่ต้องการแสดงความสามารถที่แท้จริงเท่านั้น จิรภาสจึงส่งกำหนดการคัดเลือกตัวนักแสดงมาให้กับเธอ เพียงแค่ให้เธอแสดงฝีมือทางการแสดงเท่านั้น ไม่ได้ให้ร่วมแสดงจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น จิดาภาก็จะเตรียมอย่างตั้งใจ ที่สำคัญเธอรู้สึกตั้งตารอกับคาบสอนการแสดงของจิรภาสมากเสียด้วย... เธอคว้าโอกาสนี้ไว้ เพื่อจะได้ตบหน้าผู้กำกับศรุตอย่างมีความสุข และเป็นโอกาสที่ดีในการโปรโมตส่วนความทรงจำด้วย เธอต้องการของขวัญแต่งงานที่ดีชิ้นหนึ่ง ..... เพราะการคัดตัวใกล้เข้ามาแล้ว ระหว่างที่จิดาภาถ่ายทำเรื่องส่วนความทรงจำ ก็ฝึกการแสดงและการแม่นปืนไปด้วย เพราะเวลามีจำกัด ดังนั้นการฝึกสายตาและแขนขาจึงสำคัญมากที่สุด แต่เดิมโค้ชปืนที่จิรภาสเชิญมามีเพียงความรู้สึกที่เกียจคร้านมาเต็มอก เพราะจิดาภาเป็นแฟนสาวของจิรภาส คงจะไม่จริงจังถึงเพียงนั้น แต่เมื่อได้พบกับจิดาภา เขาก็รู้ตัวว่าตัวเองคิดผิดไป นักแสดงหญิงคนนี้มีความแน่วแน่และจริงจังกับบทละครนี้มาก นอกจากนี้ตอนเย็นหลังจากที่จิดาภากลับมาถึงโรงแรม ก็จะมาออกกำลังกายต่อกับจิรภาส เธอไม่คิดว่าจิรภาสจะมีศิลปะการต่อสู้จริงๆ โชคดีที่จิดาภามักจะออกกำลังกายและบริหารกล้ามเนื้อเสมอ ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงสามารถรับความรุนแรงเช่นนี้ไหว หากเปลี่ยนเป็นนักแสดงหญิงคนอื่นคงถอนตัวไปนานแล้ว แต่เดิมจิดาภาคิดว่าจิรภาสคงเป็นคนรักความสงบ ไม่มีทางชอบศิลปะการต่อสู้ หรือการออกหมัดมวยพวกนั้น แต่ในตอนนี้เขาได้แสดงมุมพิเศษของเขาให้เธอได้เห็นแล้ว “การที่ผมเรียนศิลปะต่อสู้มันน่าแปลกใจมากเลยหรือ” จิรภาสกล่าวพร้อมกับหมุนตัวเตะเข้าที่กระสอบทรายอย่างจัง จิดาภาที่นั่งมองอยู่ด้านข้าง หัวใจพลันเต้นรัว ท่าทางเช่นนั้นผสมกับใบหน้าของเขา... จะหล่อเกินไปแล้ว ขณะที่จิดาภาชื่นชมสามีสุดหล่อของเธอ ก็พยายามเรียนรู้อย่างหนักไปด้วย มุ่งมั่นที่จะทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด ข่าวลือข้างนอกยังคงอยู่ แต่เค.เอฟก็ยังคงไม่ออกมาแถลงการณ์ใดๆ แฟนคลับของชาครยังคงออกมาเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ คิดไปเองว่าทางกองถ่ายและบริษัทนายหน้าจะไม่รับผิดชอบต่อเขา ถึงขั้นร้องตะโกนให้พวกเขาฉีกสัญญาซะ “มาถึงชาครของพวกเราให้ตกต่ำทำไม” “นี่มันส่งผลกระทบต่ออาชีพนักแสดงของเขา ทำไมเค.เอฟถึงไม่ออกมารับผิดชอบกัน บทนางเอกจะเปลี่ยนเป็นใครไม่ได้เลยหรือ จำต้องเป็นจิดาภารึ” “พวกคุณถ่ายกันต่อไปเถอะ อย่างไรฉันก็ไม่ไปดู ฉันไม่อยากไปเห็นชาครของพวกเราถูกทำลายเพราะนักแสดงหญิงคนนั้น” “เบื้องหลังมันสุดยอดจริงๆ
已经是最新一章了
加载中