บทที่ 329 ความสามารถที่กระแทกหน้า   1/    
已经是第一章了
บทที่ 329 ความสามารถที่กระแทกหน้า
บทที่ 329 ความสามารถที่กระแทกหน้า “ฉันไม่ใช้ค่ะ” เธอตอบเสียงกระซิบ คำพูดดูหยิ่งยโสนัก คณะกรรมการตั้งตาคอย ว่าแท้จริงแล้วเธอแค่จงใจทำ หรือว่ามีความสามารถจริงๆ กันแน่ นี่เป็นนักแสดงเพียงคนเดียวที่คณะกรรมการเริ่มให้ความสนใจจากนักแสดงที่เข้ามาคัดเลือกทั้งหมด แม้แต่ฉากการแสดงของนลิน ก็ยังไม่เป็นที่พึงพอใจที่สุดของคณะกรรมการ แต่ว่าจิดาภา... เธอประสบความสำเร็จในการใช้เอกลักษณ์ของเธอดึงดูดความสนใจของคณะกรรมการ บางทีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลคงเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด “ปืนของฉัน เหลือกระสุนเพียงนัดเดียวเท่านั้น” เธอหันข้างมองหน้าต่าง มุมปากกดลึกจนเกิดรอยยิ้ม เพราะแสงไฟที่มืดสลัว จึงทำให้คณะกรรมการมองไปออกว่านี่คือจิดาภา ทันใดนั้นก็ยกแขนขึ้น ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงและองอาจ ที่สำคัญที่สุด คือการจัดร่างกายของเธอ... รายละเอียดต่างๆ ที่นำมารวมกัน ทำให้เห็นภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่หญิงได้อย่างสมบูรณ์ ฉากนี้ เจ้าหน้าที่หญิงต้องการสารภาพกับคนรักเก่า ว่าเธอคือสายลับ คำพูดมีไม่มาก แค่การแสดงก็มากพอแล้ว เห็นเพียงแขนของเธอที่ตกลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ถอยหลังไปสองก้าว วิ่งไปยังประตูที่อยู่ตรงข้ามและเปิดประตูอย่างรุนแรง ปืนถูกกดที่หน้าผากลงที่หน้าผากของนักแสดงร่วมคนนั้น อกของเธอกระเพื่อมเป็นลอกคลื่น ร่างกายอ่อนล้าเหลือแสน แต่ทั้งร่างยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง เมื่อเผชิญหน้ากับคนรักเก่า เธอจะลั่นไกอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่คนรักเก่า นี่คือศัตรูที่อยู่ข้างหลังของเขา เธอหันหลังกลับและกล่าว “การปิดล้อมได้กำหนดเวลามาแล้ว คุณรีบหนีไปดีกว่า เพราะหากได้เจอกันอีกครั้ง ฉันยิงแน่” กล่าวจบ เธอก็วิ่งเข้าไปในความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุดทันที นี่มัน... หลังจากที่การแสดงของจิดาภาจบลง ทุกคนยังคงไม่หลุดจากภวังค์ คณะกรรมการที่ได้เห็นฉากการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ ต่างก็ชะงักนิ่งกันไป ทันใดนั้นก็มีคนเอ่ยขึ้นมา “ต้องเป็นเธอแล้ว” ไม่มีใครเอ่ยขัดคำพูดที่กล่าวขึ้นมาอย่างมั่นใจนั้น เพราะพวกเขาไม่สามารถหาเหตุผลอื่นได้อีกแล้ว ทันใดนั้นผู้กำกับหลักอย่างผู้กำกับศรุตก็ปรบมือขึ้น “ไม่เลว น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ไม่ว่าจะท่าทางหรืออารมณ์ ราวกับได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริงก็ไม่ปาน หากได้ถ่ายทำฉากนี้ ก็คงจะผ่านภายในครั้งเดียว” จิดาภายังคงไม่ถอดหมวก เธอไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรกับเสียงปรบมือเหล่านี้ ท่าทางเช่นนี้ยิ่งทำให้ผู้กำกับศรุตพึงพอใจยิ่งขึ้น เขาพยักหน้าพร้อมกล่าว “ผมต้องการให้คุณเป็นนางเอก วันนีย์ คุณได้รับเลือกแล้ว” จิดาภาได้ใช้ความสามารถของเธอแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเหมาะสมกับตัวละครนี้ ผู้กำกับศรุตนึกย้อนถึงการแสดงของเธอ เลือกได้ไม่มีผิด มองออกว่านักแสดงคนนี้ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ แต่ยังมีประสบการณ์อีกด้วย หากถ่ายทำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เธอสามารถดูแลผู้ชมและจัดการเรื่องมุมกล้องได้ นักแสดงระดับนี้ถือว่าหาได้ยากมาก เรียกว่าเป็นหนึ่งในหมื่น “ผู้กำกับศรุตครับ แล้วคนข้างหลังล่ะครับ” “ไม่ดูแล้ว เธอได้ศึกษาสคริปต์และตัวละครด้วยใจจริง และการแสดงออกภายนอก ก็ไร้ที่ติ ต่อให้ทดสอบอีกครั้ง ก็เพียงทำให้เธอยิ่งโดดเด่นขึ้นเท่านั้น” ท่าทางของผู้กำกับศรุตเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ แม้แต่คณะกรรมการเองก็ยังเห็นพ้องต้องกัน “ยอดเยี่ยมจริงๆ” “ทักษะการแสดงเช่นนี้ทำไมถึงถูกซ่อนไว้กัน” พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อวันนีย์มาก่อน ผู้กำกับศรุตกล่าวกับวันนีย์อย่างจริงจัง “ตอนนี้คุณสามารถถอดหมวกได้แล้ว เพียงคุณพยักหน้า พวกเราก็จะเซ็นสัญญาได้ในทันที” จิดาภาก้มหน้าหัวเราะ ถอดหมวกท่ามกลางสายตาของผู้คน และถอดวิกผมออก เพื่อโชว์ใบหน้าที่ถูกตบแต่งของตัวเอง “ฉันไม่เซ็นค่ะ” จิดาภาตอบกลับโดยไว และหนักแน่น คำพูดนั้นต่างทำให้คณะกรรมการทุกคนต่างชะงักนิ่งไป “คุณไม่เซ็นรึ เช่นนั้นจะแสดงอย่างไร หรือว่าคุณไม่อยากแสดงกัน” หากไม่ต้องการแสดง แล้วเหตุใดถึงมาเสียเวลาที่กองคัดเลือกตัวละครกัน “ไม่ใช่ เธอดูคุ้นตามาก” “จิดาภานี่” ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนชื่อเธอขึ้นมา “ฉันคือจิดาภาค่ะ” จิดาภาไม่ได้ให้ความสนใจที่โดนคนมองออก เธอกล่าวเสียงเย็นชา “ฉันมาที่นี่เพราะบทความนั้นของผู้กำกับศรุตค่ะ ทุกคนต่างดูถูกว่าฉันกำลังเป็นภาระให้กับนักแสดงท่านอื่นๆ ในกองถ่าย ตั้งคำถามว่าเค.เอฟนั้นไร้แววตาในการเลือกคน กล่าวว่าฉันใช้วิธีสกปรกเพื่อแย่งชิงทรัพยากรของนักแสดงท่านอื่น และกล่าวว่าฉันนั้นไร้ความสามารถในการแสดง” “แล้วในตอนนี้ คุณยังคิดเช่นนั้นอยู่หรือไม่คะ” “ฉันไม่ได้มาเพื่อกลายเป็นนางเอก ฉันมาเพื่อแสดงให้เห็น ว่าฉันคือนักแสดง” และเป็นนักแสดงที่มีความสามารถในการแสดง สีหน้าของผู้กำกับศรุตเปลี่ยนไปในทันที... “ฉันเคยเงียบหายไปช่วงเวลาหนึ่ง และมีข่าวลือที่ไม่ดีอีกมาก แต่นั่นไม่ได้แสดงถึงว่าฉันไร้ความสามารถทางการแสดง ใช่ไหมคะ” “คำพูดของคุณเมื่อครู่ ได้เป็นหลักฐานหมดแล้วค่ะ” “เป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงและเป็นบุคคลสาธารณะ คุณควรรู้จักรับผิดชอบคำพูดของคุณทุกคำ คุณไม่เคยเจอฉัน แต่กลับดูถูกฉันว่าไร้ทักษะการแสดง คุณรับรู้บ้างไหมว่าด้วยสถานะของคุณมันสร้างความเข้าใจผิดและความเสียหายให้กับทีมกองถ่ายและเค.เอฟมากขนาดไหน” ผู้กำกับศรุตหมดหนทางจะโต้แย้ง เขาพูดไม่ออกแม้แต่คำ เขาจะแย้งออกไปท่ามกลางผู้คนมากมายได้อย่างไร และเขาได้ยอมรับความสามารถทางการแสดงของนักแสดงหญิงคนนี้ต่อหน้าทุกคนไปแล้ว แต่ในตอนที่เธอเผยตัวตนเช่นนี้ เขากลับจะไม่ยอมรับอย่างนั้นหรือ นั่นเป็นการตบหน้าตัวเองใช่หรือไม่ “อ่า...” “นักแสดงที่มีความสามารถทางการแสดงแบบนี้ เรียกไร้ความสามารถหรือ” ทีมงานที่อยู่ด้านหลังกระซิบกระซาบขึ้นมา เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ก็น่าจะได้คำตอบกันแล้ว “จิดาภาโคตรเท่” และมีคนกลายเป็นแฟนคลับของจิดาภาไป รู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเท่และยอดเยี่ยมมาก เธอเป็นคนแรกในวงการบันเทิงที่ กล้าใช้วิธีนี้พิสูจน์ตัวตน จิดาภาไม่ได้รั้งรอที่จะอยู่ต่อ และเลือกที่จะเดินออกจากห้องคัดเลือกไป ทุกคนต่างไม่คาดคิด ว่านักแสดงหญิงที่ได้รับเลือกในการคัดตัวนักแสดงวันนี้ จะเป็นคนที่บนโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างจิดาภา ไม่คิดว่าเธอจะมีความสามารถ และกล้าเข้ามาปะทะที่นี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความจริงที่กระแทกเข้าหน้าทุกคน จิดาภาไร้ทักษะการแสดงรึ คนที่พูดคำพูดนี้ตาบอดหรือไม่ หลังจากที่จิดาภาจากไป คณะกรรมการต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะผู้กำกับศรุต เขาในตอนนี้ไม่มีหน้าจะมาคัดเลือกนักแสดงแล้ว เขาเป็นถึงผู้กำกับ แต่ความสามารถในการรับรู้ขั้นพื้นฐานเขายังไม่มีเลย ณ ตอนนั้น จิรภาสจงใจขับรถมารับจิดาภา พวกเขาขึ้นรถคันเดียวกันและจากไป “จิดาภากับจิรภาสมาทำอะไรที่นี่กัน วันนี้เป็นการคัดเลือกอาทิตย์สีแดงไม่ใช่หรือ” “มองผิดกระมัง พวกเขาจะมาทำอะไรที่นี่” ทีมงานสองคนที่กำลังจะเข้าลิฟต์ ทันเห็นเขาทั้งสองคนจากไปพอดี หลังจากที่จิดาภาจากไปด้วยมาดแสนเท่ นักแสดงที่เหลือต่างเข้าฉากมาทีละคนๆ ... แต่เพราะคณะกรรมการต่างได้เห็นการแสดงของจิดาภาแล้ว จึงไม่มีนักแสดงคนไหนเข้าตาพวกเขาแม้แต่คน เพราะเมื่อเทียบกับจิดาภา นักแสดงเหล่านั้นยังคงแสดงได้อย่างงูๆ ปลาๆ และท่าทางก็ยังแตะได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ แม้แต่นลินที่คณะกรรมการต่างให้การยอมรับ ก็ได้เลือนหายไปท่ามกลางการแสดงของจิดาภาเสียแล้ว
已经是最新一章了
加载中