บทที่ 338 เรื่องไม่ได้จบลงง่ายดายเช่นนั้น   1/    
已经是第一章了
บทที่ 338 เรื่องไม่ได้จบลงง่ายดายเช่นนั้น
บทที่ 338 เรื่องไม่ได้จบลงง่ายดายเช่นนั้น โพสต์ของจันทนีทำให้เรื่องยิ่งโหมกระพือ คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกมาพูดเอง ยังสงสัยว่าเป็นเรื่องปลอมอีกหรือ นักข่าวต่างสงสัยกันว่าจิรภาสจะตอบกลับเช่นไร เพราะจันทนีบอกกับคนภายนอก ว่าเธอและจิรภาสเกือบจะได้แต่งงานกัน แต่เธอไม่ได้ลงรายละเอียดให้ชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนี้นักข่าวต่างก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะยิ่งใหญ่มากขึ้น ลูกสาวไฮโซเทียบไม่ได้กับนักแสดงอย่างนั้นรึ ท้ายที่สุดเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร ดูเหมือนว่านักแสดงสาวคนนั้นจะเพิ่มระดับการพูดเพื่อโน้มน้าวใจพวกเขาแล้ว ข่าวแพร่กระจายไปราวกับห่าฝน แต่จิดาภายังคงอยู่ในกองถ่ายส่วนความทรงจำ เพื่อฉากสุดท้ายของตัวละครของเธอ เธอไม่กลัวที่จะต้องถ่ายใหม่ ไม่บ่นแม้จะต้องถ่ายทำในสถานที่มืดหรือหนาวเย็น โดยเฉพาะตอนที่ถ่ายฉากสำคัญของเธอ ที่เธอต้องแช่ทั้งร่างลงไปในอ่างอาบน้ำท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ เธอไม่ร้องโอดโอยแม้แต่คำ “จิดาภาเป็นนักแสดงมืออาชีพจริงๆ ฉันยังไม่เคยพบนักแสดงที่ไม่ขี้โมโหและไม่เรื่องมากเช่นเธอมาก่อน ดูก็รู้ว่าเป็นคนที่มีภูมิฐานดี แต่กลับทนต่อความยากลำบากได้อย่างเต็มใจ” “ฉันยังจำฉากครั้งที่แล้วที่เธอหลุดออกมาจากรถได้อยู่เลย...” ทุกต่างรู้สึกว่าทันทีที่ส่วนความทรงจำเข้าโรง จิดาภาจะโด่งดังยิ่งขึ้น ได้เป็นนักแสดงหญิงชั้นแนวหน้าของประเทศอย่างแน่นอน เพราะเธอมีใจที่รักษาระดับความสมบูรณ์แบบเสมอ ชาครที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขา ได้ยินความคิดเห็นเช่นนั้น ก็พยักหน้าเห็นด้วย “เส้นทางดวงดาวของเธอจะยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ” “พี่ชาคร เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราได้ยินพี่ยกย่องนักแสดง” นักแสดงสมทบกล่าวยิ้มๆ “ฉันว่าพี่ชาครไม่ใช่คนที่จะไม่ยกย่องใคร แต่แค่ไม่เคยพบเจอคนแบบจิดาภามาก่อน มืออาชีพที่ทำงานอย่างหนัก เป็นนักแสดงที่ควรค่าให้เขาเอ่ยชมแล้ว” ทันใดนั้นก็มีอีกสองสามคนเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย “ดังนั้นฉันเลยรู้สึกว่านักข่าวว่างจนไม่มีอะไรทำกันแล้ว ถึงได้เอาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องความสัมพันธ์ของคนอื่นมาเขียน พวกเราในกองถ่ายได้เห็นมากับตากี่เดือนแล้วกัน ว่าจิดาภาเป็นคนเช่นไร เธอหรือจะเป็นมือที่สาม ไม่มีทาง” คนคนหนึ่งจะเป็นเช่นไรก็จะเป็นเช่นนั้น บางทีวันสองวันก็ออกจะเผยตัวตนออกมา แต่กาลเวลาจะพิสูจน์ใจคน... ชาครที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบอะไร การยอมรับคำวิจารณ์ ก็เป็นหนึ่งในหลักสูตรของการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ช่วงนี้จิดาภารู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง เมื่อได้ยินผู้กำกับสั่งหยุด ก็ตะโกนเรียกเจนจิราทันที เจนจิรารีบนำผ้าห่มมาคลุมร่างในทันใด “พี่จิดาภา ไปพักผ่อนกันค่ะ” หากจิรภาสได้รู้ว่าจิดาภาทำงานจนเหนื่อยล้าเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะปวดใจขนาดไหน... “ฉันได้ส่งใบลาออกก่อนที่พี่นัฎจะกลับมาแน่ ฉันรู้สึกว่าฉันดูแลพี่ได้ไม่ดีเลย” เจนจิรากล่าวโทษตัวเอง “ฉันเลือกเธอมาเป็นผู้ช่วยเองนะ ฉันไม่อนุมัติใบลาออกหรอก” จิดาภานั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนจะนวดขาให้ตัวเองเบาๆ หากเธอไม่ฝืน ก็คงจะไม่เหนื่อยขนาดนี้ “พี่จิดาภา...” เจนจิราถอนหายใจ ช่วยจิดาภาเทน้ำร้อน พร้อมกับเอ่ย “ข้างนอกมีข่าวลือใหม่อีกแล้วนะคะ พี่อยากอ่านไหม” จิดาภาพยักหน้า ก่อนจะรับโทรศัพท์มาจากเจนจิรา อ่านอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา” “ไม่สนใจได้จริงๆ หรือคะ” เจนจิรานึกกังวลสภาพแวดล้อมแทนจิดาภา “อือ เกมเด็กเล่นของลูกสาวไฮโซเท่านั้น พวกเราไม่ต้องไปเล่นตามหรอก” “ได้ค่ะ...” จิดาภาคืนโทรศัพท์ให้กับเจนจิรา “จิรภาสไม่ชอบคนที่รนหาที่ตายที่สุด เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป” เมื่อถ่ายได้ถึงครึ่งหนึ่ง ตอนที่จิรภาสโทรมา ก็พบว่าน้ำเสียงและความรู้สึกของจิดาภาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้สนใจเนื้อหาข่าวใหม่นั่นเลยแม้แต่น้อย “ผมคิดว่าอย่างน้อยคุณจะถามผมเรื่องนั้น...” “ไม่มีอะไรที่ต้องถามเลยค่ะ เพียงแค่อยากให้ท่านประธานจิรภาสจัดการเรื่องน่ารำคาญที่ไม่ได้ตั้งใจสร้างนี้ไปโดยเร็วเท่านั้น” จิดาภาตอบอย่างตรงไปตรงมา แววตาของจิรภาสทอประกายขบขัน “ผมอยากเห็นท่าทีตอบกลับของตระกูลวีรภัทรเมธี” หลังจากที่ท่านจิรชยารีบกลับไปที่ตระกูลวีรภัทรเมธีในคืนนั้น เรื่องทางฝั่งตระกูลวีรภัทรเมธีคงถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือจันทนีเพียงตัวคนเดียวเท่านั้น จิดาภาชะงักนิ่งไปพลัน “ตลอดมาฉันไม่เคยคิดจะเอาคืนตระกูลวีรภัทรเมธี และไม่เคยใช้ประโยชน์จากตระกูลวีรภัทรเมธี เพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ว่า... นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องคอยอดทนกับการกลั่นแกล้งของพวกเขา” หากจะบังคับให้เธอจนตรอก เช่นนั้นเธอก็จะโต้กลับด้วยวิธีของตัวเองเช่นกัน “ผมจะไม่ให้ใครหน้าไหนได้โอกาสรังแกคุณ” น้ำเสียงของจิรภาสหนักแน่นอย่างถึงที่สุด “เช่นนั้นค่ำนี้คุณต้องแสดงให้ดีๆ นะคะ ไม่อย่างนั้น...” “คุณหญิงจะพึงพอใจอย่างแน่นอนครับ” จิรภาสกล่าวจบ ก็เหยียบคันเร่งเข้าประตูใหญ่ของสตูดิโอไป ครึ่งชั่วโมงให้หลัง จิดาภาที่เสร็จงานและเตรียมจะกลับ ก็พบจิรภาสที่มารอเธอพร้อมกับดอกไม้ช่อหนึ่ง ช่วงเวลานั้นทั้งโลกต่างเงียบไป มีเพียงเขาที่ไม่อาจจะเลี่ยงสายตาไปได้ จิดาภารู้ เขาจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ และจะอยู่ปกป้องเธอในยามที่เธอต้องการ เธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้รับความรัก และการแต่งงานที่ดีเช่นนี้ เพื่อให้ได้ผู้ชายแบบนี้ ให้เธอมอบทุกอย่างให้ เธอจะไปปฏิเสธได้อย่างไร ค่ำคืนนั้น จิรภาสนั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมกอดจิดาภาไว้ จิดาภาไอขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “หนาวหรือไม่สบายครับ” เขาจับมือของจิดาภาด้วยความกังวล “เย็นมาก ผมจะไปเอามาผ้าห่มมาให้” จิดาภาถูจมูกไปมา “ไม่เป็นไรค่ะ น่าจะเพราะอุณหภูมิในสตูดิโอต่ำค่ะ เลยรู้สึกหนาว” “แค่หนาวก็ไม่ได้ครับ” เขาลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่ม และนำมาคลุมร่างของจิดาภา ทั้งยังเทน้ำร้อนให้สองแก้ว เมื่อเห็นจิดาภาดื่มแล้ว จึงได้สบายใจขึ้น “คุณดูแลดีจนฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กเลยค่ะ คุณสบายใจได้แล้วนะคะ ตอนนี้ต่อให้ฉันไปทะเลาะกับจันทนี ก็ไม่มีปัญหาค่ะ” จิดาภายิ้มตาโค้ง ตั้งใจเอ่ยหยอกล้อ “คุณได้วางแผนสำหรับการเรียนแอคชั่นครั้งที่แล้วไว้ก่อนหน้าแล้วหรือครับ คุณหญิง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณมีด้านที่รุนแรงเช่นนี้” “เพื่อผู้ชายของตัวเอง...” จิดาภาพูดไปได้ครึ่ง ก็นึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้ “คุณจะจัดการข่าวลือพวกนั้นอย่างไรคะ” ในตอนนี้จิรภาสสนใจแค่ว่าเธอจะไม่สบายหรือไม่เท่านั้น ถูฝ่ามือของเธอเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่น และเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “เรื่องเล็กแบบนี้ Rickจัดการได้ครับ” “กับคุณหนูใหญ่ที่สะกดคำว่าพี่น้องไม่ได้ จะจัดการเช่นไรคะ เธอคิดเสมอว่าวงการบันเทิงนั้นสกปรก อยากจะให้เธอได้ลิ้มรสมันด้วยตัวเองสักครั้ง” “คุณคือคนที่ล้ำค่าที่สุดของผม ผมไม่อนุญาตให้ใครในเซี่ยงไฮ้ และยิ่งไม่อนุญาตให้พวกเขาพูดจาไร้มารยาท และทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา” เมื่อได้ยินจิรภาสกล่าวเช่นนั้น ดวงตาของจิดาภาก็ถูกปกคลุมด้วยม่านน้ำตา เธอหันหน้าไป สบตากับเขาด้วยความจริงจัง อยากจะจดจำช่วงเวลานี้ไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของใจ “จิรภาสคะ...” “ผมอยู่นี่ครับ” ไม่ว่าเมื่อไหร่ ว่าจะอยู่ที่ไหน พวกเขาสองสามีภรรยา จะไม่มีทางแยกจากกัน
已经是最新一章了
加载中