บทที่ 339 วิธีการประชาสัมพันธ์ของเค.เอฟ

บทที่ 339 วิธีการประชาสัมพันธ์ของเค.เอฟ ในไม่ช้าแผนกประชาสัมพันธ์และแผนกเลขานุการของเค.เอฟก็ได้รับสายจากนักข่าวที่โทรเข้ามาสอบถามอย่างไม่หยุด พนักงานของเค.เอฟเองก็ถูกนักข่าวดักถามอยู่ที่หน้าบริษัทเช่นกัน “แท้จริงแล้วคุณจิดาภาได้เป็นมือที่สามระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือไม่คะ” “คุณจิรภาสและลูกสาวของตระกูลนุ่นแก้วจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ครับ” “ว่าที่เจ้าสาวของคุณจิรภาสคือใครกันแน่คะ” ปัญหาทั้งหมดที่มาจากคนภายนอก ต่างมองว่าจิดาภานั้นคือมือที่สาม แต่เค.เอฟกลับไม่ให้การตอบกลับใดๆ กับคำถามของนักข่าวทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าไม่กล้าพูด แต่ไม่มีอะไรที่จะพูด Rickนั้นที่แต่เดิมได้หมดหน้าที่ของหัวหน้าศิลปินไปแล้ว แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ประจวบเหมาะกับตฤณไม่อยู่ งานในครั้งนี้จึงตกมาที่เขา นักข่าวเมื่อได้ยินว่าRickกลับมารับผิดชอบในส่วนของประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ก็ไล่ถามเขาไม่หยุด จนทำให้เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะทานข้าวกับจาริณี หลังจากนั้นRickก็ไม่สามารถแม้แต่จะขับรถออกจากลานจอดรถได้ เมื่อเลือกไม่ได้ เขาจึงลงจากรถและกล่าวกับบรรดานักข่าว “พวกคุณอยากถามอะไรกันแน่ หากเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง เค.เอฟก็ตอบกลับไปโดยปกติแล้วครับ” “ความหมายของคุณคือ คุณจันทนีกำลังเล่นละครอย่างนั้นหรือ” “ฝากพวกคุณบอกกับเธอด้วย ไว้หน้าตัวเองบ้าง” “เช่นนั้นพวกเขาเคยคบหากันหรือไม่ครับ” “ทั้งหมดที่ผมรู้คือ ท่านประธานไม่รู้จักเธอ” Rickรู้สึกว่านักข่าวต่างโดนจันทนีปั่นหัวไปหมดแล้ว “หากไม่รู้จักกัน เช่นนั้นจะมีการพูดคุยถึงเรื่องแต่งงานกันได้อย่างไรครับ และหากไม่เกี่ยวข้องกันจริงๆ เหตุใดคุณจันทนีถึงโพสต์เช่นนั้นกัน” “เช่นนั้นพวกคุณต้องไปถามทางคุณจันทนีแล้วล่ะครับ ว่าเธอจะมีหลักฐานมายืนยันหรือไม่” Rickได้ส่งข้อความไปบอกจาริณีแล้ว ว่าตัวเองจะกลับไปทานมื้อค่ำด้วย “เช่นนั้นคุณช่วยบอกกับพวกเราหน่อยครับ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” Rickถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้ว “ขอความกรุณาใช้สมองของพวกคุณบ้างเถอะครับ ในประวัติของเค.เอฟเคยมีการออกมาตอบโต้กับข่าวลือหรือไม่ พวกเราไม่เคยให้ความสนใจกับข่าวลือแม้แต่น้อย หรือว่าช่วงนี้ท่านประธานจิรภาสดูอารมณ์ดีกัน พวกคุณถึงได้ถือโอกาสหาผลประโยชน์ใส่ตนแบบนี้” “ผมจะกล่าวเพียงประโยคเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่เคยรู้จักกัน หากคุณจันทนียังพล่ามต่อ ก็คงไม่ต้องไว้หน้ากันอีกแล้ว” ความหมายของประโยคนี้คือ ที่เค.เอฟยังไม่ฉีกหน้าเธอ ก็เพื่อไว้หน้าตระกูลนุ่นแก้ว หากเธอยังไม่รู้จักควบคุมตัวเอง ก็รับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะตามมาด้วย" Rickไม่สนใจพวกนักข่าว และตัดสินใจขับรถออกไปทันที จาริณีที่กำลังเตรียมมื้อค่ำอยู่ที่บ้าน เมื่อได้ยินเรื่องของเขายามที่กำลังจะกลับ ก็ส่ายหน้า “จันทนีเสียสติหรือไม่คะ จำเป็นต้องใช้วิธีนี้มาเรียกร้องความสนใจด้วยหรือคะ” ใช้ชื่อเสียงความไร้เดียงสาของตัวเองอย่างนั้นรึ เธอคิดอะไรอยู่กัน “น่าจะเพราะโกรธจัด คิดว่าตัวเองที่ทั้งสวยและร่ำรวย แต่กลับไม่ได้อยู่ในสายตาของท่านประธาน ในสายตาของเธอ อาชีพนักแสดงคงเป็นอาชีพที่ต่ำ ไม่มีสิทธิ์อะไรมาแย่งผู้ชายกับคนระดับเธอ” Rickกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับ เป็นตระกูลวีรภัทรเมธีที่เริ่มปล่อยข่าว แต่ภายหลังนั้นเป็นจันทนีที่รนหาที่ตาย” “เธออยากให้ทั้งโลกเข้าใจผิดไปว่าคนที่เป็นมือที่สามคือจิดาภา...” “เกมของเธออ่อนไปครับ ดังนั้นท่านประธานกับจิดาภาจึงขี้เกียจจะสนใจ เดี๋ยวผมจะเก็บกวาดให้เรียบ โทษฐานมารบกวนเวลาของเรา” เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ Rickก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นทำไมเมื่อครู่คุณถึงไม่บอกนักข่าวไปกันล่ะคะ วุ่นกับคุณไปทั้งเมือง ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าคนแบบนั้นแล้วค่ะ” จาริณีรู้สึกว่าไฮโซสาวจันทนีคนนั้นจะมากเกินไปแล้ว คนสองคนรักกันดีๆ แต่เธอกลับสร้างข่าวลือที่ข้างนอกนั่น “อย่างไรมันก็แค่เกม สนุกไปกับมันเถอะครับ” Rickกล่าวยิ้มๆ “น่ากลัวว่านั่นจะเป็นเหตุผลที่ท่านประธานจงใจสั่งให้ผมมาจัดการเรื่องนี้” “คุณจะบอกว่า...” จาริณีเข้าใจในทันที หากจิรภาสลงมือ พรุ่งนี้เรื่องนี้คงจบทันทีอย่างไร้ร่องรอย แต่ไฮโซสาวจันทนีจะไม่ได้รับบทเรียนใดๆ ทั้งนั้น เช่นนั้นจะนับเป็นการระบายความโกรธให้จิดาภาได้อย่างไรกัน Rickมองเห็นสายตาตื่นตระหนกของเธอ ก็กุมมือของเธอไว้ “ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมแล้วครับ คุณอย่าได้กังวลแทนจิดาภาเลย” ..... ในที่สุดนักข่าวที่ล้อมรถของRickไว้ ก็ได้เผยแพร่คำตอบที่แท้จริงของเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และคำที่Rickฝากเตือนถึงจันทนี ว่าให้ไว้หน้าตัวเองบ้าง ก็ไปไม่ถึงหูของจันทนีแม้แต่คำ จิรภาสและจิดาภาไม่ได้ออกหน้า และไม่พูดถึงเรื่องนี้แม้แต่คำ ทั้งหมดนั่นไม่เกี่ยวกับพวกเขาแม้แต่น้อย เพียงแค่จันทนีนั้น... จันทนีที่เห็นข่าวที่นักข่าวเผยแพร่ล่าสุด ก็รู้สึกหายใจติดขัด เธอที่เป็นถึงไฮโซสาวที่มีอำนาจ เมื่อได้รับการกระทบกระเทือนจนโกรธจัด ก็โพสต์ความเคลื่อนไหวใหม่ทันที “กล้ายอมรับหรือไม่ ว่าตอนนั้นคุณไม่ได้ไปรอฉันที่หน้าว่าการอำเภอ” เพียงประโยคเดียว เรื่องราวก็ดุเดือดขึ้นอีกครั้ง แต่เค.เอฟยังคงไร้การตอบโต้ จิรภาสเองก็เอาแต่อยู่ที่กองถ่ายทำกับจิดาภา นักข่าวต่างมารุมล้อมRickอย่างบ้าคลั่ง เขาจึงหมดหนทาง จึงได้แต่ยอมให้นักข่าวสัมภาษณ์ตนที่หน้าประตูทางออก เพียงแค่ท่าทางของเขานั้นดูเอื่อยเฉื่อย ดูเหมือนว่าจะไม่นับว่านี่คือการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ “ท่านรองประธานRick ขอถาม...” “ผมรู้ว่าพวกคุณจะถามอะไร” Rickอยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด จึงเอ่ยแทรกคำถามของนักข่าวซะ “เป็นเพราะทางนั้นที่ดูอยากจะได้คำตอบซะเหลือเกิน เช่นนั้นพวกเราจะให้คำตอบแก่เธอเอง หากผัดวันไปเรื่อยๆ พนักงานและศิลปินภายในบริษัทของเราคงไม่ได้ทำงานกันอย่างเป็นสุข” “ยอมรับครับ ว่าท่านประธานจิรภาสไปรอคุณจันทนีที่หน้าว่าการอำเภอ” นักข่าวต่างชะงักกันไป ต่างสงสัยกันว่าเป็นจิรภาสที่ทอดทิ้งจันทนีจริงๆ อย่างนั้นหรือ ไมโครโฟนถูกยื่นไปข้างหน้า และถ่ายรูปของRickอย่างไม่หยุดมือ “แต่เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิด ในตอนที่ท่านประธานแจ้งให้คุณจันทนีไปจดทะเบียนสมรสที่ว่าการอำเภอด้วยกัน พวกเขายังไม่เคยพบหน้ากัน ท่านประธานถูกทางครอบครัวบังคับมา จึงได้สุ่มเลือกมาคนหนึ่งจากรูปภาพ แต่เดิมคิดอยากจะนัดพบ เพื่ออธิบายให้เข้าใจในส่วนที่ต้องการให้เธอช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าอีกฝั่งจะไม่ไป” “ดังนั้นทุกคนไม่ต้องคาดเดากันอีกแล้ว จิดาภาไม่ใช่มือที่สาม ท่านประธานจิรภาสและจันทนีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน” “เป็นคุณท่านที่ใช้วิธีต่างๆ มากดดันท่านประธานจิรภาส ท่านประธานที่จนใจจึงต้องทำเช่นนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าคุณจันทนีจะไม่ไปตามนัด เรื่องราวก็จบลงโดยที่ไม่มีอะไร คิดไม่ถึงว่าจะต้องนำมาพูดในเวลานี้” นั่นหมายความว่าท่านประธานจิรภาสได้อธิบายในที่นี้แล้ว เป็นจันทนีที่นึกคิดไปเอง “เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้แหละครับ ผมว่าผมอธิบายอย่างชัดเจนแล้วนะใช่ไหมครับ” สุ่มเลือก... จะให้นับเป็นโชคชะตาก็ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ พวกเขาสองคนเป็นคนแปลกหน้าต่อกันอย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจิรภาสถึงไม่แยแส เรื่องราวมันใสสะอาด จะให้ออกมายืนยันอะไร แต่เดิมนักข่าวต่างคิดว่าคงเป็นเรื่องรักสามเส้าที่น่าตื่นตาตื่นใจ... จันทนีคนนั้นไม่ดูน่าตลกไปหรือ