ตอนที่ 340เป็นห่วงมากจริงๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 340เป็นห่วงมากจริงๆ
ตอนที่ 340 เป็นห่วงมากจริงๆ “ไม่มีค่ะ แค่ฉันคนเดียว” เอาทุกอย่างมาแบกไว้กับตัวอย่างสบายๆ เธอแค่รู้สึกว่ามันน่าขำ ก็เพราะว่าไม่อยากจะค้ายา ดังนั้น เธอกับนภนต์เลยทนลำบากมาสามปี แต่ไม่คิดเลย ว่าจะถูกกล่าวหาด้วยข้อกล่าวหานี้ โลกใบนี้จริงๆแล้วไม่มีความยุติธรรมใดๆ และแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีความสมเหตุสมผล “คุณหัวเราะทำไมครับ?” “รู้สึกว่ามันน่าขำเลยขำน่ะค่ะ ทำไม แม้แต่หัวเราะฉันก็ไม่มีสิทธิ์เลยหรอคะ?” “คุณเพ็ญนีติ์ คุณสารภาพมาซะดีๆ พวกของคุณมีใครบ้าง เครื่องมือและลู่ทางในการค้ายาคืออะไรยังไงบ้าง?” “ฉันก็บอกไปแล้วไง ว่ามีฉันแค่คนเดียว” “คุณเพ็ญนีติ์ครับ ในโรงสต็อกสินค้าของบริษัทคุณมียาบ้าเยอะขนาดนั้น จะมีแค่คุณคนเดียวขนเข้าไปได้ยังไง? คุณไม่มีแรงเยอะขนาดนั้นหรอก” “แล้วยังไงคะ ฉันปิดบังพวกนั้นไว้ ถ้ามองจากภายนอกก็เป็นแค่ลังไม้ธรรมดามองยังไงก็มองไม่ออกหรอก ทีนี้ก็ไม่มีใครรู้แล้วข้างในนั้นคืออะไร ฉันก็เลยจ้างคนงานขนของขนเข้าไปให้ แล้วคุณจะคิดว่าคนงานคนนั้นค้ายาด้วยหรือเปล่าล่ะ?” ถ้อยคำที่กล่าวออกมาอย่างลื่นไหลของเธอทำให้ตำรวจสามนายที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้แต่มองกันไปมา อยู่ๆก็ไม่รู้จะโต้แย้งคำพูดเธอยังไง งงงันอยู่ชั่วขณะถึงได้พูดขึ้น “แล้วสินค้าส่งมาจากไหนครับ?” “อูข่าน” “ใครคือผู้ค้ารายใหญ่ครับ?” “คนที่ชื่อณภัทรค่ะ เหอะ ทำไมคะ พวกคุณถามละเอียดขนาดนี้จะไปจับเขาหรอคะ?” “มันเป็นเรื่องของพวกเราครับ คุณมีหน้าที่แค่ตอบคำถามตามจริงก็พอ” “งั้นก็หมดแล้วล่ะค่ะ ฉันก็มีแค่นี้” “คุณเพ็ญนีติ์ ในโรงสต็อกสินค้าพวกคุณมียาบ้าเยอะขนาดนั้น คุณไม่กลัวหรือไง สวรรค์มีความยุติธรรม ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษนะ” “ฉันไม่ได้ขายหนิ ไม่ได้ขายเลยสักนิด และฉันก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดบาปด้วย ฉันไม่ทำอะไรให้สวรรค์และนรกผิดหวังหรอกน่า” สามปีก่อนที่อูข่าน เธอบอกกับนภนต์ว่า ถ้ากลับมา จะทำธุรกิจขายส่งไม้แปรรูปด้วยกัน หาเงินให้ได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะว่า เรื่องที่นภนต์ทำกำไรให้บริษัทได้ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเพ็ญนีติ์แล้ว เพราะตอนนั้นเงินที่นภนต์หามาได้เป็นเงินที่ได้มาจากการขายยาบ้า แต่ว่าหลังจากนั้น ยาบ้าพวกนั้นพวกเขาก็ไม่ได้กลับไปแตะต้องอีกแล้ว ยิ่งนำไปขายยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เพราะนี่เป็นเรื่องที่ทั้งสองตัดสินใจร่วมกันแล้ว สามปีมานี้พวกเขาเลยต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อบริษัท เขาและเธอไม่ได้ค้ายา ตรงกันข้ามกลับช่วยขัดขวางการนำยาเสพติดล็อตใหญ่เข้ามาในประเทศอีกด้วย เธอไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อฟ้าดินสักนิด “คุณเพ็ญนีติ์ คุณกำลังจะบอกว่าคุณไม่มีความผิดงั้นหรอ?” “ฉันคิดแบบนั้น แต่ก็เห็นๆอยู่ว่าพวกคุณไม่ได้คิดแบบฉัน พวกคุณคิดว่าฉันค้ายา แต่พวกคุณก็เอาแต่ถามเอาๆ แล้วเห็นยาบ้าในมือฉันสักกรัมไหมล่ะ?” น้ำเสียงของเธอเริ่มห้วนขึ้น เรื่องทั้งหมดก็เพราะความลำบากในระหว่างสามปีที่ผ่านมา ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำก็เพื่อคำสัญญาพวกนั้น สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นข้อหาค้ายาบ้านี่นะ “แล้วทำไมต้องมียาบ้าของณภัทรอยู่ในครอบครอง แล้วทำไมต้องเก็บสินค้าเขาไว้ด้วยล่ะครับ” เธอแสยะยิ้มออกมาจางๆ “ก็เพราะว่าฉันอยากรักษาชีวิตฉันไว้ไง ถ้าฉันไม่เก็บยาพวกนั้นไว้ เขาไม่เก็บครอบครัวฉันไว้แน่ ฉันมีทั้งพ่อแม่ไหนจะลูกสาวอีกสองคน คิดว่าฉันจะทนเห็นพวกเขาต้องตายเพราะฉันไปต่อหน้าต่อตาหรอ? พวกคุณคิดว่า ฉันทำได้หรือไง?” “ณภัทรบีบบังคับคุณงั้นหรอ?” “ใช่ เขาบอกว่าถ้าฉันไม่ขาย เขาจะกำจัดคนในครอบครัวของฉัน” “แต่ฉันไม่ได้อยากค้ายา เพราะงั้นฉันเลยหาเงินแทบเป็นแทบตาย เพื่อเอาเงินพวกนั้นไปให้ณภัทร แต่สิ่งที่ฉันได้กลับมาก็คือผงแป้งขาวๆที่ไร้ประโยชน์พวกนั้น ฉันไม่ได้อยากทำ ไม่ได้อยากทำเลยสักนิด” “เพ็ญนีติ์ คุณกำลังเล่นลิ้น นี่ไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิด” “ฮ่าๆ เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณเลย งั้นก็พอแค่นี้นะ สิ่งที่ควรจะพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว ฉันเหนื่อย อยากพักแล้วล่ะ” เธอเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ สมัยนี้คิดจะออกนอกประเทศ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้ว หรือแม้แต่ในสถานีตำรวจนี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะออกไปได้ไหม “ทำไมคุณไม่แจ้งความล่ะคะ?” ตำรวจหญิงหนึ่งในสามคนนั้นถามขึ้นเสียงหนัก “แจ้งความแล้วจะมีประโยชน์อะไร?”เธอหัวเราะเยาะ คำพูดเริ่มไม่ดี “ต้องมีอยู่แล้วสิคะ” “งั้นคุณบอกมาสิ ว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ค้ารายใหญ่คือใคร พวกคุณจับเขาได้ไหม? ถ้าจับได้ ฉันคงไม่ต้องทนลำบากหาเงินมาตลอดสามปีหรอก พึ่งพาพวกคุณไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก” เธอพูดขึ้นเสียงเย็น จากนั้นก็เหยียดกายลุกขึ้นอย่างหนักหน่วง บนข้อมือมีกุญแจมือ บนข้อเท้าถูกโซ่ตรวนเอาไว้ ร่างกายเธอหนักอึ้งทำให้แต่ละก้าวเดินเต็มไปด้วยความลำบาก ปุริม จะรู้หรือยังนะ? ปุริม จะออกมาไหม? เอนกายพิงกับผนังอันเย็นเฉียบในห้อง ท้องฟ้ามืดลงแล้ว เธอกลับไม่รู้สึกง่วงแต่อย่างใด ข้างนอกเป็นอย่างไรเธอก็ไม่รู้ แต่ว่าลางสังหรณ์บอกว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ เมื่อพูดสิ่งที่ควรพูดหมดแล้ว เธอก็ไม่ได้ตอบคำถามการไต่สวนใดๆอีก เมื่อคำนวณเวลาแล้ว เข้ามาในนี้เป็นเวลาเกือบวันแล้ว นอกจากตำรวจที่นี้เธอก็ไม่ได้เจอใครอีก แม่ต้องเป็นห่วงเธอมากแน่ๆ กลัวแต่โรคหัวใจของแม่จะกำเริบขึ้นมา แต่ว่าถึงจะอยู่ในเมืองเดียวกัน แต่ในตอนนี้เธอกลับไม่มีอิสระได้ไปหาเลย ข่าวคราวอะไรก็ไม่มี ทั้งห้องมืดไปหมด เธอไม่ได้กินอะไรแม้แต่คำเดียวมาสองวันแล้ว การอดอาหารแบบนี้เหมือนเป็นการประท้วงเงียบๆ ความอ่อนระโหยโรยแรงกลับโจมตีเธอในทุกๆคืน ทำให้เธอหลับไปอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็มักจะสะดุ้งตื่น แต่เมื่อตื่นขึ้นมา รอบๆตัวก็ยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม ในห้องนี้นอกจากเตียงหลังนี้ก็ไม่มีอะไรอีกเลย วันที่สี่แล้ว เป็นตัวเลขที่เธอไม่ชอบที่สุด เพราะตามความเชื่อของคนจีนมันเป็นตัวเลขที่ทำให้ทุกคนต้องหวาดกลัวกับชะตากรรมที่ถูกลิขิตไว้แล้ว ฟ้าสว่างได้ไม่นาน อากาศที่สดชื่นก็พัดผ่านเข้ามาทางลวดเหล็กที่ไม่มีกระจกกั้น เธอเหม่อมองฟ้าทะลุผ่านมุมหน้าต่างออกไป เวลานี้อ้อยกับส้มน่าจะกำลังไปโรงเรียน เด็กๆคงรู้แล้วว่าแม่ไม่อยู่ เด็กๆในตอนนี้จะร้องไห้ไหมนะ? เป็นห่วงจริงๆเลย
已经是最新一章了
加载中