ตอนที่ 353 ป่วยทางจิต   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 353 ป่วยทางจิต
ตอนที่ 353 ป่วยทางจิต เด็กๆไปแล้ว เขายังนั่งนิ่งๆอยู่เหมือนเดิม รอให้พวกเด็กๆเดินไปออกไปไกลๆก่อน เขาถึงจะไป นานพอสมควร เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจเหล่านั้นของเด็กๆก็ค่อยๆหายไป ทั้งในและนอกโรงเรียนกลับมาเงียบอีกครั้ง ท้องฟ้าข้างนอกมืดลงเรื่อยๆแล้ว เพ็ญนีติ์ถึงได้พูดขึ้น “ปุริม เราไปกันเถอะ” คืนนั้น เธอส่งเขากลับบ้านมองดูเขาลงจากรถเดินไปยังประตูหน้าบ้านพักตากอากาศของเขา เธอจึงรีบกลับบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้ว เด็กๆอาจจะเป็นห่วงเธอ ลมในตอนกลางคืนช่างหนาวเหน็บ เธอขับรถกลับบ้านคนเดียว จู่ๆก็นึกถึงปริศนาในใจขึ้นมา เขายังไม่บอกเธอเลย แต่ก็ไม่สำคัญละ การปรากฏตัวของเขา จูบของเขา ทุกเรื่องเขาบอกเธอด้วยภาษากายแล้ว เธอก็ควรจะเชื่อเขา เพราะงั้น แค่รอเขาเลือกเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยบอกเธอทีละเรื่องก็ได้ ทันทีที่ฟ้าสว่างเธอก็ตื่นขึ้นมา บนเตียงโล่งๆมีแค่ตัวเธอ แม้เพิ่งจะห่างกันแค่คืนเดียว แต่เธอกลับคิดถึงเขาอย่างช่วยไม่ได้ กดโทรออกหาเขาตามใจคิด เธออยากบอกเขาว่า “อรุณสวัสดิ์” เพราะนั่นคือโทรศัพท์ของเขา ดังนั้น ทันทีที่เขารับเธอก็พูดขึ้นอย่างยั้งไว้ไม่ได้ว่า “ปุริม อรุณสวัสดิ์” แต่กลับมีแค่ความเงียบ แล้วก็เงียบ ต่อมาก็เป็นเสียงที่ทำให้เธอหายใจติดขัด เสียงนั้นทำให้เธอกังวลขึ้นมาทันที เธอเปล่งเสียงออกไปอย่างสับสน “ปุริม ใช่คุณไหม” เสียงหายใจดังขึ้นเบาๆในสาย จากนั้นก็ยิ่งแรงมากขึ้น เสียงนั้นเหมือนไม่ใช่เสียงของปุริม “เพ็ญนีติ์ เธอเองสินะ?” ในที่สุดก็มีผู้หญิงแผดเสียงขึ้นมา ราวกับจะใช้เสียงนั้นฉีกกระชากร่างเธอ ทำให้ร่างเธอสั่นทั้งร่าง ทันใดนั้น เพ็ญนีติ์ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เมนิษาก็ตะโกนเข้ามาในสายต่อเนื่องทันที “แม่เป็นยังไงลูกก็คงอย่างนั้น หน้าไม่อายจริงๆ ปุริมลูกฉันไม่สนใจเธอ เธอถึงโทรมาอ่อยเขาเองแบบนี้ เธอบอกมา เธอตั้งใจจะทำอะไร? พวกเธอสองแม่ลูกไม่ใช่ว่านอกจากใจง่ายอะไรก็คงทำไม่เป็นนะ....” เมนิษายังคงพูดต่อไปอีกเยอะแยะ มือของเพ็ญนีติ์สั่นอยู่ตลอด เธอฟังทุกคำทุกประโยคตั้งแต่เริ่มต้นจนเริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมาแล้ว รีมปีปากซีดขาว เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งด่าได้เจ็บแสบขนาดนี้ และผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ของปุริม เธออยากจะพูด อยากจะโต้ตอบ แต่เหมือนกับว่าโดนเสียงโกรธๆของผู้หญิงที่ถือสายอยู่ทำให้เกรงกลัว จึงไม่รู้ว่าจะตอบไปยังไงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง นานพอควร โทรศัพท์ในมือก็ตกลงกับพื้นดัง “ตุบ” เสียงที่ดังขึ้นมา ทำให้จีรพรที่อยู่ในห้องนั่งเล่นรีบไปวิ่งหาเป็นคนแรก “เพ็ญนีติ์ เป็นอะไรไป?” จีรพรเคาะประตู ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล เธอคิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับเพ็ญนีติ์แน่ๆ หรือเสียงที่ดังขึ้นนั้นจะเป็นเสียงเธอล้ม? แต่เพ็ญนีติ์กลับไม่ได้ยินอะไรเลย ในหูมีแต่คำพูดที่ราวกับเกลียดเข้ากระดูกดำและคำพูดถากถางของเมนิษา ทุกคำทุกประโยคทำให้เธออับอายและแทบบ้า “ไม่จริง แม่ไม่ใช่คนแบบนั้น....” เธอยืนอยู่ตรงหน้าต่าง พูดซ้ำๆกับแสงสว่างนอกหน้าต่าง แต่ในใจกลับมืดมนไปหมด เธอไม่เคยคิดว่าเมนิษาจะเกลียดเธอและแม่ขนาดนี้ เกลียดแม่เพราะแต่ก่อนแม่เคยไปแย่งผู้ชายของเธอ เกลียดเธอเพราะเธอไปแย่งความรักของปุริมมา “เพ็ญนีติ์ เธอทำไมไม่พูด ต่อไปนี้เธอห้ามมาเจอปุริมอีก ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาก็คงไม่ตาบอดแบบนี้หรอก เป็นเพราะตัวซวยอย่างเธอ นังตัวซวย....” ราวกับเมนิษาหาที่ระบายอารมณ์ที่หามานานเจอ จึงตะโกนออกมาเสียงสั่น ในตอนนั้นเองที่ประตูถูกตรัณพังเข้ามา “เพ็ญนีติ์ ทำไมไม่เปิดประตู?” ตรัณเป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามา แต่สิ่งที่เห็นคือเพ็ญนีติ์ที่หน้าขาวซีดสวมชุดนอนยืนเท้าเปล่าอยู่บนพื้นเย็นๆ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด ตรัณกวาดสายตามองรอบๆห้อง ถึงได้พบกับความผิดปกติ นั่นก็คือโทรศัพท์ของเพ็ญนีติ์มีเสียงผู้หญิงตะโกนออกมาตามสายอยู่ตลอด ทั้งยังดังขึ้นไม่หยุด เขาค่อยๆก้มลงไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “เพ็ญนีติ์ เขาเป็นใคร? ให้พ่อกดวางสายให้ไหม?” เขาคิดว่าต้องเป็นสายโทรศัพท์นี้แน่ๆที่ก่อกวนเพ็ญนีติ์ ถึงได้ทำให้อารมณ์เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้ ตามสัญชาตญาณปกป้องลูกของพ่อทำให้สิ่งแรกที่เขาทำคือปิดโทรศัพท์นั้นซะ และแน่นอน เขาต้องถามความเห็นจากเพ็ญนีติ์ก่อนตามมารยาท แต่ในตอนนั้นเอง ที่ในสายมีชื่อของเขาลอยออกมา “คุณตรัณ ฮ่าๆๆ คุณยังอยู่อีกหรอ คุณบอกมาซิ ว่าคุณยังใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาใจแตกอยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ล่ะก็ คุณนี่ก็ทนเก่งจริงๆ รับได้แม้กระทั่งผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่เคยผ่านมือสามีฉันมาแล้ว......” ไม่รู้ว่าเมนิษากำลังพ่นอะไรออกมา เธอเอ่ยแต่ละประโยคออกมาโดยที่ไม่ได้ปกปิดไม่ได้ปิดปังเหมือนอยากพูดอะไรก็พูด ในตอนนี้ ไม่ใช่แค่เพ็ญนีติ์แล้วที่หน้าซีด ยังมีจีรพรอีกคน “ฉัน.....” บนหน้าของตรัณไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมาแม้แต่นิด ถึงขนาดที่มองไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เพ็ญนีติ์คิดขึ้นมาได้ทันทีว่าคนที่จะเจ็บปวดที่สุดเมื่อได้ยินคำเหล่านั้นก็คือพ่อ ดังนั้น เธอจึงรีบแย่งโทรศัพท์ในมือของพ่อมาทันที แล้วก็ก็ปิดเครื่องลง จากนั้นก็ซบหน้าอยู่กับไหล่ของพ่อ น้ำตาไหลออกมาทันที “ไม่ใช่อย่างนั้น ต้องไม่ใช่อย่างนั้น เธอพูดไร้สาระ แม่ไม่ใช่อย่างนั้นแน่ๆ” ตรัณไม่เอ่ยเสียงใด ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่อย่างนั้น ปล่อยให้เพ็ญนีติ์ซบอยู่บนร่าง จีรพรมองสองพ่อลูกสักครู่ จากนั้นก็หันหลังกลับ ก้าวยาวๆออกไปจากห้อง เพ็ญนีติ์คิดว่าแม่แค่วิ่งออกไปจากห้องเพราะโกรธ แต่ไม่ทันไร เธอก็ได้ยินเสียงข้างนอกประตูบ้าน เหมือนเสียงปิดประตู “แม่....” เธอเงยหน้าจากไหล่ของพ่อแล้ววิ่งออกไป ในห้องนั่งเล่น ในห้องของแม่ ที่ไหนก็ไม่มีร่องรอยของแม่ แม่ไปแล้ว
已经是最新一章了
加载中