ตอนที่ 360 สามารถแต่งงานกับฉันได้ในไม่ช้าแล้วละ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 360 สามารถแต่งงานกับฉันได้ในไม่ช้าแล้วละ
ตอนที่ 360 สามารถแต่งงานกับฉันได้ในไม่ช้าแล้วละ เขารีบพุ่งไปยังที่หน้าประตู ปิดประตูก่อนเลยละ จากนั้นยืนอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่ขยับ “ทำไม จะสู้กันด้วยท่าทางที่เงียบหรอ ปุริม นายไปเหมือนคนวิ่งรอบแม่น้ำตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” “เข้ามาซี” เขาพุงเข้าไปในทิศทางของเธอพร้อมกวักมือไปมา “จะมาดีดีไหม ไม่งั้น ถ้าฉันจับกดคุณทันทีเลยนะ” ท่าทางของเขานั้นยืนยันเลยละ แน่นอนว่าไม่ใช่การล้อเล่น “ปุริม นั่นคือการบังคับ กลางวันแสกๆแบบนี้ ฉันไม่ยอมหรอนะ” “งั้นเมื่อวันละ” เขาถามกลับมาแบบนี้ หน้าเธอแดงขึ้นมาอย่างทันที “ฉันไปละ ฉันไม่อยากเล่นกับนายแล้ว” “ไม่เอารางวัลแล้วหรอ”เขาถามกลับมาอย่างทันที เธอก็นึกได้ว่าเขายังไม่ได้ตอบตกลงเธอเลยที่จะให้รางวัลกับสิ่งที่เธออยากจะได้ “งั้นนายจะให้หรือไม่ละ” “ให้ซี เธออยากได้อะไรฉันให้หมดเธอเลยละ” เขาก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า ซึ่งได้เข้าใกล้เธอมากขึ้นไปอีก แต่เธอกลับไม่ตื่นตระหนักเลยละ และยังยืนอยู่ที่เดิม “จริงหรอ ฉันอยากได้อะไรนายจะให้หมดเลยหรอ” “อืม ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น” “ได้เลย งั้นนายตอบตกลงกับฉันไว้หมดแล้วแบบนี้ และฉันก็คงไม่ต้องบอกนายแล้วละ” “ไม่ได้นะ”เขาตะโกน ยื่นมือออกไปก็จับเธอได้อย่างรวดเร็วเลยละ ทำไมถึงได้แน่นขนาดนี้ละ เหมือนกับว่าเธอนั้นมองเห็นทุกอย่างเลยละ เขาได้เริ่มจักจี้เธอ เธอหัวเราะดังมาก แต่ก็กลับไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยละ ทันใดนั้น ในหิ้งนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แสบแก้วหูจนทำให้ทั้งสองที่อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงนั้นตกให้ขึ้นมาทันที เธอจับโทรศัพท์ขึ้นมา หัวเราะพร้อมพูดว่า “คุณแม่โทรมา” รับโทรศัพท์ “คุณแม่คะ จะไปกันแล้วหรือคะ” “เพ็ญนีติ์ แม่กับพ่อออกจากที่นั่นมานานแล้วนะ คุณน้าษาก็ได้ออกมากับแม่และพ่อแล้วนะ คืนนี้ก็ไปทานข้าวที่บ้านของพวกเรานะ แม่ถามลูกนะ ลูกกับปุริมจะกลับมาทานข้าวพร้อมกันไหม” เธอหันไปถามเขา “คุณน้าษาไปที่บ้านฉันพร้อมกับพ่อแม่ฉันแล้วละ แม่ฉันถามฉันว่า นายกับฉันจะคืนนี้จะกลับไปกินข้าวด้วยกันไหม” “เปลี่ยนคำเรียกซี เรียกแม่ ฉันก็จะตกลงไปกับเธอ “เฮ้ จริงจังอยู่นะ แม่ฉันรอคำตอบจากฉันอยู่นะ”เธอพูดเสียงเบาและต่ำมาก และเอามือปิดเอาไว้ที่ลำโพงของโทรศัพท์ “เปลี่ยนคำเรียกฉันก็จะไป” เขาพูดงอแงแบบเด็กใส่เธอ เธอยิ้ม และพูดกับคุณแม่จีรพรว่า “ กลับไปอยู่ค่ะ เขาคิดถึงอ้อยและส้มมากเลยละ” “ไอยะ ลูกพูดแบบนี้ทำให้แม่นึกขึ้นมาได้เลยละ ทำไมถึงได้ลืมอ้อยกับส้มไปได้ละเนี่ย และยังไม่ได้ไปรับพวกเขาเลยละ งั้นก็นะ แม่และพ่อ แล้วคุณน้าษาจะรีบไปรับพวกเด็กพร้อมกันเลยละ” โทรศัพท์วางสายลง ในห้องก็เงียบขึ้นมาอย่างทันที “ปุริม พวกเราก็ไปกันเถอะ รีบกลับไปจะได้ไปช่วยแม่ของฉันด้วย ไม่งั้น ทั้งโต๊ะจะเต็มไปด้วยผักเลยละ” คิดๆดูเขาจากเธอไปนานขนานนี้ มีบางครั้งที่มันไม่แฟร์เลยละ แต่พอรู้ว่าเป็นเพราะความเกลียดของเมนิลาแล้วและก็เพราะตาของเขาแล้ว เธอก็เลยไม่สามารถที่จะโกรธเขาขึ้นมาได้เลยละ “ไม่เอา ฉันมองอะไรไม่เห็น เลยช่วยอะไรไม่ได้เลยละ พวกเราไว้ค่อยกลับก็ได้”เขากอดเธอไม่ยอมปล่อยเลยละ สามปีแล้ว เมื่อวานแค่ทำไปเพียงรอบเดียว และอยู่ในที่ด้านนอกที่ในป่า เขาไม่ค่อยพอใจมากเท่าไหร่นัก สูดดมลมหายใจของเธอ พอรู้ว่าคุณแม่นั้นก็ไปแล้วอีกด้วย ร่างกายของเขาก็ได้ตอบสนองขึ้นมาอย่างทันทีเลยด้วย “เพ็ญนีติ์….” “อย่า….”เธอผลักเขาออก แต่กลับเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงเลยละ “สามปีแล้ว เธอไม่คิดถึงฉันเลยหรอ” น้ำเสียงของเขาเหมือนจะไม่พอใจและดังขึ้นมาเล็กน้อย “ฉัน….” “เธอลังเลนะ งั้นฉันก็คิดว่าคิดถึงแล้วกัน” “ไม่เลยละ” เธอได้หลบเขาอีกครั้งหนึ่ง เขากดเธอเอาไว้แน่นจนไม่ยอมคลายออก “สามปีนี้ ในบางครั้งที่ฉันคิดถึงเธอ ฉันคิดถึงเธอจนจะเป็นบ้าไปแล้วละ ไม่ได้นะ เธอต้องให้กับฉันในตอนนี้ เขากอดเธอล้มลงภายใต้แสงแดดในห้องที่ปูพรมเอาไว้ พรมที่นุ่มนิ้มนั้นก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของทั้งสองอย่างรวดเร็ว…, แสงแดดในยามเย็น เธอเหนื่อยจนลืมตาแทบไม่ขึ้น และกลับถูกเขาใช้แรงผลักจนกลับไปนอนอยู่ที่อ้อมแขนที่แกร่งเขาเหมือนเดิม “เพ็ญนีติ์ ฉันยังอยาก…. “อยากอะไรอีกไอบ้า นายนี่ยังมีพลังเหลือเฟือเลยนะ” เธอเหนื่อยจนไม่สามารถที่จะขยับตัวได้เลยละ “เพ็ญนีติ์ นี่คือความผิดของเธอนะ เธอรีบมาช่วยฉันเลยนะ” “อืม”เธอเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นความเจ็บปวดที่เต็มใบหน้าของเขา “เป็นไรหรือเปล่า” “ฉัน….ฉันทนไม่ไหวแล้ว”เขากัดฟันและกระทืบเท้าพร้อมพูดออกมา “ตาหรอ”เธอคิดไม่ออกว่าเป็นที่ไหนเลย สายตาหล่นไปมองที่ดวงตาของเขา “ไม่ใช่หรอ” “แล้วที่ไหนกันละ” ได้ยินเสียงของเธอที่ใสแจ๋วนั้น นึกถึงริมฝีปากที่แดงของเธอ ปุริมจับหัวของเธอกดลงต่ำ หลังจากนั้น…. “ปุริม ไอ่บ้า” เธอนั่งหงุดหงิดและตบหัวของเขาเบาๆ เขาโกรธขึ้นมา กัดฟันพูดไม่ค่อยชัดว่า “นี่แหละถึงจะค่อยเหมือนภรรยาของฉัน” “ไม่นะ ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับนายเลยนะ” “ก็คงจะแต่งในเร็วๆนี้แหละ”เขาหัวเราะ ในเสียงนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในตอนที่นั่นสองกำลังกอดกันอย่างแนบกันอยู่นั้น เสียงมือถือก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง ปุริมก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากเพ็ญนีติ์ “ดูเหมือนว่าจะเป็นโทรศัพท์ของฉันนะ เธอช่วยดูให้หน่อย ว่าใครเป็นคนโทรศัพท์มาหาฉัน ถ้าหากเป็นสายที่ไม่สำคัญโทรเข้ามาก็กดวางสายเลยนะ” เธอยื่นมือออกไปรับ และกวาดสายตาไปมองแวบเดียว ดูเหมือนจะเป็นรานาโทรมา “ปุริม นาราโทรมา” “วางสายไปเลย”เขาไม่ลังเลเลยสักนิเดียว และพูดออกมาอย่างตรงๆเลย แต่ว่าพึ่งวางสายไปโทรก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ดังไปแล้วสองถึงสามครั้ง ปุริมรู้สึกลำคานแล้วละ รีบแย่งโทรศัพท์มาจากมือของเพ็ญนีติ์อย่างเร็ว “เปมิกา คุณจะต้องการอะไรกันแน่” เลยนะ มิฉะนั้น ฉันจะคืนศพของเด็กแสบทั้งสองคนนี้ให้กับนาย” “อ้อย….” “ส้ม….” ปุริมและเพ็ญนีติ์เรียกชื่อลูกออกมาพร้อมกัน ####ตอนที่ 361 ลูกตกอยู่ในอันตราย ตอนที่ 361 ลูกตกอยู่ในอันตราย “ก็ได้ งั้นฉันจะฟังพวกแกได้ฟังเสียงลูกสาวที่รักของพวกแกแล้วกัน เจ้าเด็กบ้า พูดซิ” “คุณแม่คะ เธอเป็นคนร้าย พวกท่านไม่ต้องฟังเขานะ….” “พอแล้ว ไอ่เด็กแสบ กล้าดียังไงมาบอกว่าฉันเป็นคนร้าย เดียวฉันจะสั่งสอนซะให้เข็ดเลยนะเจ้าเด็กบ้า” พูดเสร็จ นาราก็หันมาคุยกับปุริมต่อ “พูดมาซิ ว่านายจะมาถึงตอนไหน” ปุริมกุมมือของเพ็ญนีต์เอาไว้ พูดอย่างเศร้าๆว่า “อีกหนึ่งชั่วโมงถึง” นาราก็กดวางสายทันทีเลย เพ็ญนีติ์ซุกลงไปที่แผงอกของปุริม ตอนนี้เขามองไม่เห็น แล้วเขาจะเผชิญหน้ากับนาราได้ยังไงกันละ เธอเริ่มกังวลขึ้นมาทันที และเรื่องมันก็เกี่ยวข้องกับอ้อยและส้มอีกด้วย เลยทำให้เธอนั้นยิ่งกังวลมากขึ้นอีกด้วย “ปุริม ทำไงดีอะ” โทรศัพท์ ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เป็นคุณแม่จีรพร และก็คุณพ่อตรัณแล้วก็เมนิษา เธอไม่อยากจะรับ เธอคาดเดาได้ว่าคุณแม่นั้นจะพูดอะไร เธอไม่รู้ว่าจะปลอบคุณแม่ยังไงดี ความรักที่คุณพ่อคุณแม่มีต่ออ้อยและส้มไม่น้อยไปจากเธอเลยละ “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน” เหมือนปุริมจะเดาความคิดของเธอออกเลยพูดด้วยเสียงที่แหบ แล้ว เพ็ญนีติ์ยื่นโทรศัพท์ไปให้กับเขา “คุณแม่โทรมานะ” “อืม ฉันรู้แล้ว” “คุณแม่ครับ เพ็ญนีติ์เข้าห้องน้ำอยู่ครับ พวกเรากำลังจะออกไปแล้วนะครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”เขาไม่กล้าพูดถึงเรื่องของเด็กๆเลยละ ถ้าหากพูดถึง ก็จะทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่าพวกเขานั้นได้รู้เรื่องนี้แล้ว และมันจะอันตรายมาก และอาจทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงมากเกินไปอีกด้วย “ปุริม อ้อยและส้มหายตัวไป เราหาในโรงเรียนหลายรอบแล้วก็ยังไม่เจอเลยแม้แต่เงาเลยละ พวกคุณครูและนักเรียนเราก็ถามหมดแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าอ้อยและส้มไปที่ไหนกัน ปุริม ทำไงดีละ”ท่านดูจะเป็นกังวลมาก การหาเด็กๆไม่เจอนั้นก็เหมือนกับว่าในหัวใจถูกตัดเนื้อออกไปแล้วชิ้นหนึ่ง ทั้งกังวลและทั้งเจ็บปวด “แม่ครับ ไม่แน่เจ้าเด็กแสบทั้งสองอาจจะแอบหนีไปที่วิลลาของผมก็ได้นะครับ เมื่อก่อน ตอนที่พวกเขาทั้งสองยังไม่ได้เข้าเรียนก็จะไปที่นั่นตลอดเลยนะครับ จะทำให้เพ็ญนีติ์ตกใจอยู่เรื่อยเลยละครับ แม่วางใจได้เลยนะครับ ผมสัญญาเลยนะครับว่าจะส่งพวกเขาทั้งสองกลับไปอย่างปลอดภัยให้กับท่าน” เสียงของเขานั้นสงบและใจเย็นมาก เหมือนกับไม่เคยรับโทรศัพท์จากนาราเลยละ ไม่รู้จริงๆว่าทำไมเขาทำไมเขาถึงเย็นและสงบได้มากขนาดนี้ พอเขาวางสายแล้ว เพ็ญนีติ์ถามเขาว่า “ปุริม นายบอกว่านายเคยทำงานอะไรในเมื่อก่อนนะ นายยังมีเรื่องอะไรที่ยังปิดบังฉันอีกหรอ” เขากอดเธอให้แนบลงหาตัวของเขา เหมือนกำลังปลอบให้เธอหายจากการตื่นตระหนักกลัวด้วยการตบหลังเธอเบาๆ จากนั้นยิ้มออกมาด้วยความลี้ลับ “สามีเธอนั้นไม่ใช่คนธรรมดานะ วางใจเถอะ จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับอ้อยและส้มแน่นอน รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า ไม่อย่างงั้น ฉันไม่รับรองว่าจะไม่จับกดเธออีกครั้งนะ”เขาแกล้งพูดปรับบรรยากาศให้เธอนั้นผ่อนคลาย เพียงเพราะไม่อยากให้เธอนั้นกังวลมากจนเกินไป เขานั้นคุ้นเคยกับที่พักของนาราเป็นอย่างมากเลยละ ในมือของนรวรนั้นยังมีแผนที่อยู่เลย เพราะฉะนั้น เขาเลยไม่กลัวเลยละ เธอหน้าแดงแล้วละ นี่พึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นไม่ได้ใส่อะไรไว้เลยละ ทั้งสองคนรีบสวมใส่เสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าเพ็ญนีติ์ขับรถ และปุริมนั้นนั่งอยู่ข้างๆของเธอ เขาได้ยกโทรศัพท์กดโทรหานรวร “นรวร ช่วงนี้นารานั้นได้ติดต่อกับใครบ้างอะ” “อืม โอเค ฉันรู้แล้วละ ตอนนี้นายรีบส่งคนไปล้อมรอบที่คฤหาสน์ของนาราเลยนะ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด” หลังจากสั่งการกับนรวรเสร็จ เขาก็ได้โทรหาณัฏฐพล “ณัฏฐพล นำเฮลิคอปเตอร์ของนายมาให้ฉันยืมหน่อยนะ” แต่ในครั้งนี้ เพ็ญนีติ์กลับพูดว่า “ปุริม ตอนนี้นายยังสามารถขับเฮลิคอปเตอร์ได้อยู่หรอ” เขาเพียงแค่ยิ้ม มือตบลงที่มือของเพ็ญนีติ์อย่างเบาๆ และพูดว่า “ณัฏฐพล คนขับต้องเป็นนายนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเปิดแผ่และแฉนายให้หมดเลยนะ และพูดอีกไม่กี่ประโยค คิดว่าณัฏฐพลนั้นคงตกลงเขาแล้วละ เขาถึงได้ถอนหายใจออกมา “ใกล้จะถึงหรือยังอะ” “อืมใกล้จะถึงแล้วละ” “อย่าพึ่งรีบร้อนเข้าไปที่คฤหาสน์ของนาราละ ไปถึงที่นั่นก็หาสถานที่ที่รกร้างก่อน และไปรวมตัวกับคนของพวกเราก่อน ฉันจะต้องคุยกับลูกน้องของนรวรก่อน” เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วละ “ปุริม หรือว่านายก็เคยเป็นหัวหน้าคณะอะไรแบบนี้มาก่อนหรอ” ทำไมเขาถึงได้คุ้นชินกับเรื่องการวางแผนแบบนี้ละ และยังมีความรู้ความแม่นยำในปืนอีกด้วย แล้วยังมีเรื่องลิ่มอีกด้วย แล้วยังมีอีกเรื่องคือเขาขับเครื่องบินเป็นด้วย ในหัวของเขานึกถึงสิ่งที่เขาทำมันเป็นภาพวดและการเคลื่อนไหวที่ดูดีมาก เป็นครั้งแรกที่เธออดไม่ได้ที่จะมีความเคารพเล็กน้อยและมองไปยังที่ปุริม เธอรอให้เขาติบถามคำอยู่ แต่ว่า ปุริมยังไม่ทันได้ตอบคำถามอะไรเลย เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากนรวร และนรวรก็ได้บอกว่าอยู่ไม่ห่างจากที่เขาอยู่มากนะ เขาให้เพ็ญนีติ์รถของนรวรให้ได้ก่อน ตอนนี้เป็นเวลาที่เร่งรีบม่กๆ เพราะปัญหาต่างๆในสมองของเขานั้นมีแต่เรื่องที่จะช่วยอ้อยและส้มกลับมาได้ยังไง “เพ็ญนีติ์ ถ้าพบรถของนรวรก็จอดรถเลยนะ” “ออ ได้ๆ” ถึงแล้ว นรวรขึ้นรถของเขาแล้ว ปุริมก็ได้โทรหาณัฏฐพลอีกครั้ง เฮลิคอปเตอร์ทางด้านนั้นก็เคลื่อนตัวออกมาแล้ว ทั้งหมด เตรียมพร้อมหมดแล้ว “ณัฏฐพล นายขับจากบนลงมาข้างล่างเลยนะ ฉันจากเดินจากล่างขึ้นบนเอง พอเจอตัวร่องรอยของเด็กๆก็รีบแจ้งมาทันทีเลยนะ ระวัง อ้อยกับส้มอาจจะถูกซ่อนตัวเอาไว้ที่ห้องที่ถูกเพ็ญนีติ์เคยเข้าไปช่วยในครั้งที่แล้วก็ได้นะ และได้พูดอะไรอีกมากมาย ทั้งหมด ถูกเตรียมเอาไว้จนเกือบหมดแล้วละ เพ็ญนีติ์ก็ฟังอยู่ด้วย การวางแผนนี้ไม่สามารถที่จะหาช่องโหว่ได้เลยละ ทุกสิ่งที่สามารถคิดออกนั้นเขาก็ได้คิดดักเอาไว้หมดแล้ว จากนั้นเขาก็ลงรถไปเลย เพ็ญนีติ์วิ่งไล่ตามออกไป “ปุริม ฉันจะไปกับนายนะ” เขามองไปเห็น เธอนั้นไม่วางใจมากเลยละ “ไม่ได้นะ นาราต้องการให้ฉันไปแค่คนเดียว ถ้าหากเธอไป ก็จะทำให้นารานั้นสงสัยได้นะ” “นายคิดว่าตอนนี้เธอก็ไม่สงสัยอะไรเลยหรอ”
已经是最新一章了
加载中