บทนำ   1/    
已经是第一章了
บทนำ
คฤหาสน์หรูตระกูลเบอร์ตัน ออสเตรเลีย “อะไรนะครับคุณพ่อ จะให้ผมไปดูแลกิจการโรงแรมที่ประเทศไทย ผมหูฝาดไปหรือเปล่าครับ” เสียงค่อนข้างดังที่ถามกลับไปช้าๆ อย่างกับว่าต้องการบังคับให้คนพูดปฏิเสธ บอกว่าตัวเองฟังผิดไปนั้นทำให้สาวใช้บริเวณศาลาริมน้ำซึ่งเข้ามาดูแลความเรียบร้อยต่างหวาดหวั่น แม้รู้ว่าเจ้านายน้อยมิได้พูดกับพวกตนแต่ทุกคนต่างคิดตรงกันว่าวันพักผ่อนของเจ้านายวันนี้ คงต้องห่างเจ้านายไว้จะดีที่สุด ดังนั้นเมื่อความสะอาดทั่วบริเวณไม่มีที่ให้ติได้อีกการสลายตัวออกจากบริเวณส่วนตัวของเจ้านายก็เกิดขึ้นทันทีทันใด วินนี่ เบอร์ตัน วรกานต์ เจ้าของน้ำเสียงที่ทำให้คนในบ้านเบอร์ตันกริ่งเกรง คือเจ้าของดวงตาสีถ่านคมเข้มที่ฉายแววเย็นชาอยู่เป็นนิจ บุคลิกแสนขรึมและค่อนข้างเก็บตัว ท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึกของชายหนุ่มนั้นทำให้บรรดานักธุรกิจด้วยกันเดาใจเขายากยิ่งแต่สำหรับลูกน้องทั้งหลายนั้นแสนเกรงกลัวกันทั่วหน้า สำหรับผู้หญิงไม่มีใครที่ไม่อยากลองเล่นกับไฟอย่างวินนี่ พวกเธอทั้งหลายยอมทนกับบุคลิกพวกนี้เพราะถ้าลองว่าทำสำเร็จ ผลตอบแทนที่จะได้ช่างคุ้มค่านัก ดังนั้นสาวๆ ทุกรุ่น ทุกวงสังคมต่างต้องการเป็นเจ้าของคุณชายอย่างวินนี่แทบทุกคนแน่นอนปัจจัยแรกที่ผู้หญิงเหล่านั้นมองก็คือเงินตัวเดียว นอกจากความหล่อเหลาเกินจะห้ามใจวินนี่มีความสูง 185 เซนติเมตร วงหน้าคมเข้ม จมูกโด่งคมสันและริมฝีปากได้รูป เขาเป็นชายหนุ่มเลือดผสม ออสเตรเลีย-ไทย อายุ 28 ปี เป็นทายาทคนเดียวของ นิค เบอร์ตัน มหาเศรษฐีเจ้าของ บีที กรุ๊ปซึ่งมีธุรกิจด้านการโรงแรมและบริษัททัวร์กระจายไปทั่วหลายประเทศ หลังจากจบการศึกษาปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ วินนี่เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทต่อจากบิดา ชายหนุ่มทุ่มเทกับบริษัทอย่างเต็มที่ ผลจากการทุ่มเทของเขาทำให้ชายหนุ่มประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่หลายคนต่างจับตามองยังเป็นความภาคภูมิใจของผู้เป็นบิดา แต่ชีวิตที่ค่อนข้างเก็บเงียบ ไม่ออกสื่อ ไม่ชอบให้ใครตามเก็บภาพ สิ่งนี้เป็นเรื่องเดียว ที่ นิค เบอร์ตันผู้เป็นบิดาไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะถ้าหากลูกชายหลบหลีกเรื่องแบบนี้มากเท่าไหร่ นิคยิ่งเหนื่อยกับการตอบคำถามแทนลูกชายมากเท่านั้น ยิ่งช่วงปีที่ผ่านธุรกิจในเครือบีทีกรุ๊ป ทะยานตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ มีการร่วมหุ้นกับหลายๆ ประเทศ นิค เบอร์ตัน ต้องเดินทางดูแลธุรกิจมากขึ้น และการส่งงานให้ลูกชายก็ดูจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และวันนี้เขาต้องร้องขอให้ลูกช่วยในส่วนที่ลูกไม่ต้องการ นั่นคือเดินทางไปดูงานที่ประเทศไทย นิคไม่เคยรู้ว่าทำไมวินนี่ถึงไม่อยากกลับบ้านเกิดของผู้เป็นมารดา เคยคิดว่าลูกอาจจะชินกับอากาศเมืองหนาวก็เป็นได้ เพราะในช่วงแรกที่วินนี่โตเป็นวัยรุ่น ลูกชายเขาพร่ำพูดเสมอว่าจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดของมารดา จะกลับไปดูแลธุรกิจทางโซนเอเชียเอง แต่เมื่อเรียนจบวินนี่ก็เปลี่ยนไป ลูกไม่เคยบอกเหตุผล คำเดียวสั้นๆ ที่จำได้ในวันแรกที่เข้ามาทำงาน วินนี่พูดเสียงหนักแน่นว่า จะไม่ไปเหยียบเด็ดขาดคือประเทศไทย “ใช่ วินแล้วทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้น” นิค เบอร์ตัน ถอนหายใจ… ทุกปีตนจะเดินทางดูแลธุรกิจโรงแรมทางโซนเอเชียเองทั้งหมด แต่คราวนี้เขาเองก็มีงานด่วนคือต้องไปตรวจสาขาที่ประเทศญี่ปุ่นหลายวันหากโงรแรมทางประเทศไทยก็รอไม่ได้เช่นกัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องฝืนใจลูกแต่จะให้ลูกน้องคนอื่นไปก็ไม่ไว้วางใจว่างานที่ออกมาจะถูกใจตน “ฟังให้ดีนะวินคราวนี้ มันจำเป็นจริงๆ” พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ วินนี่นั้นเริ่มรู้สึกตัวว่าตนเองอาจพูดขึ้นเสียงกับบิดาออกไป สีหน้าขึ้งขังคลายลง หากดวงตาคมเข้มก็หลับลงช้าๆระงับอาการต่อต้านนั้น ยังก่อนยังไม่ใช่ตอนนี้และที่สำคัญไม่ใช่ทางโทรศัพท์ “โอเคครับ แต่ผมเชื่อแน่ว่าคุณพ่อต้องมีเหตุผลที่ดีแต่คุณพ่อคงไม่ลืมคำขอของผมก่อนหน้านี้หรอกใช่ไหม แค่นี้ก่อนนะครับแล้วค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที” “โอเค แต่อย่าช้าเกินไปนะวิน” หนุ่มจอมขรึมล้มตัวลงนอนบนโซฟาเมื่อบิดารับปาก มือแกร่งเอื้อมหยิบหนังสือเล่มโปรดบนโต๊ะใกล้ๆ มากางทับใบหน้า หัวใจล่องลอยกลับสู่อดีต อดีตที่เขาสงสัยยิ่งนักว่าจะลืมมันได้หรือไม่ ย้อนหลัง 2 ปี ลอนดอนประเทศอังกฤษ นนท์ นนท์เศรษฐ์ ภิรมย์ภักษ์นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองลอนดอน เอ่ยเรียกบัดดี้เป็นครั้ง ที่ 5 ด้วยความตื่นเต้น “วิน แกแต่งตัวเสร็จรึยัง เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวไปช้าสาวๆ งอนแย่นะ แกจะหล่อไปถึงไหนเห็นแกเคยบอกว่าหัวใจมีคนจองแล้ว ฉันว่าหล่อพอประมาณก็พอ เพราะไม่ต้องอวดสาวหลายคน ไม่เหมือนฉัน ยังโสด ต้องเต็มเหนี่ยวไปเลย” คนที่ถูกล้อ ยิ้มอย่างสุขใจ เขายอมรับหัวใจเขามีเจ้าของครบทั้ง 4 ห้องแล้ว และคืนนี่เขาจะขอหมั้นหญิงสาวไว้ก่อน เพราะอีกเทอมเดียวตนจะสำเร็จการศึกษา “ยิ้มอะไรอยู่คนเดียววะวิน” นนท์ ถามเพื่อนออกไป “โอ้โฮ้ ไหนดูสิแกหล่อบาดใจจริงๆ” เอ่ยพลางเดินวนรอบตัวเพื่อน “แต่ฉันว่านายแต่งตัวไม่เหมาะสมกับฐานะของนายเลยว่ะ” “หมายความว่ายังไง” “ก็…” นนท์อ้าปากจะตอบ หากสายตาไม่หยุดที่จะสำรวจเรือนร่างสมาร์ตของเพื่อนรัก “ก็วันนี้นายหล่อเกินไป ช่างสวนทางกับฐานะของนายนะสิ” วินนี่ก้มดูการแต่งกายของตัวเองและเริ่มเข้าใจในคำพูดของเพื่อนเพราะเขาอยู่ในชุดสูทเนื้อดีสีขาวดูแปลกตาจากเดิมมากมาย ทรงผมยาวประไหล่ที่เคยปล่อยยาวเรียกสายตาจากสาวๆ บัดนี้ถูกรวบไว้บนศีรษะได้รูปเพื่อให้เข้ากับชุดที่สวมใส่ สูทสีขาวขับให้วงหน้าคมเข้มดูน่าหลงใหลมากขึ้นแต่ความคมคายไม่ได้น้อยลงสักเท่าไหร่แม้จะไร้ซึ่งหนวดเคราอย่างทุกวัน “นายดูหล่อยังกับเจ้าชายหลุดมาจากเทพนิยาย อะไรจะหล่อขนาดนี้ อยู่มหาลัยนายเป็นหนุ่มเซอร์ แต่งเสื้อยืด กางเกงยีนสาวๆ ยังกรี๊ดกันตรึมแต่วันนี้หนุ่มเซอร์แปลงร่างเป็นเจ้าชายกบ ตามหาเจ้าหญิงจะกรี๊ดดังกว่าเก่าขนาดไหน… ว่าแต่คุณน้องหญิงในดวงใจแกนี่น้าเป็นเจ้าหญิงที่โชคดีจริงๆ อิจฉาฮ้า…” เพื่อนรักทำท่าแต๋วแตกจนวินนี่อดขำไม่ได้ “ไปกันได้แล้วแกช่างพูดมากจริง” ในค่ำคืนที่คิดว่ามีความสุขที่สุดเขาก้าวย่างขึ้นรถด้วยหัวใจที่แช่มชื่น รถสปอร์ตคันหรูใหม่เอี่ยม ซึ่งนนท์เจ้าของรถนั้นได้เป็นสารถีให้ก่อนเมื่อแรกเริ่มเดินทาง แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีชายหนุ่มยังจำค่ำคืนนั้นได้เป็นอย่างดี ค่ำคืนที่เขาวาดหวังว่าจะหวานชื่น หลังจากเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆ จึงออกมาตามหาหัวใจตนเองต่อ รถคันหรูของนนท์เคลื่อนตัวช้าๆ นำพาตัวและหัวใจของตนไปหาหญิงที่รัก…เธอเป็นนักศึกษาสาวน้อยจากประเทศไทยมีชื่อว่า แพรวา กัญญาพรรณ…1 ปีกว่าที่รู้จักกัน แม้เวลาอาจจะไม่นานแต่วินนี่คิดว่าตนรู้จักเธอมากทีเดียว สาวผมดำ ตัวเล็ก นัยน์ตาเจ้าหล่อนคมเข้ม ม่านขนตาเป็นแพยาวดูช่างเหมาะเจาะกับแนวคิ้วดำที่ยาวเรียว ทั้งสองสิ่งนั้น ขับให้ดวงหน้าเธอยิ่งดูอ่อนหวานและน่ามองมากยิ่งขึ้น รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งดูแล้วสะดุดตายิ่งนักเมื่อเธอเหยียบย่างในถิ่นของสาวๆ ไซด์ x ที่มีเรือนผมสีบรอนด์ รวมทั้งหญิงสาวที่มีนัยน์ตาสีฟ้าเป็นส่วนมาก แต่เธอรู้จักเขาน้อยมาก รู้เพียงว่าวินนี่หนุ่มมาดเซอร์เป็นนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งที่มาจากออสเตรเลีย วันเวลาหนึ่งปีที่ชิดใกล้กัน วินนี่ชื่นชมกับการวางตัวที่เรียบง่ายของเธอยิ่งนักและสิ่งที่ทำให้เขาตามติดเธอไม่ยอมห่าง ตั้งแต่รู้จักกันวินนี่ชื่นชมความเห็นอกเห็นใจที่เธอหยิบยื่นให้คนรอบข้างเสมอ ทุกครั้งที่เขาได้คุยกันชายหนุ่มจะรู้สึกสบายใจ จากเพียงต้องตาจึงกลายเป็นต้องใจ ทั้งสองมีช่วงเวลาดีๆให้แก่กันและช่วงเวลาที่ลึกซึ้งของเขาและเธอได้เกิดขึ้นเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา วินนี่รู้ว่าตนนั้นดูเหมือนผู้ชายเห็นแก่ตัว แต่ที่ทำไปเพราะคำว่ารัก และชายหนุ่มรู้ดีว่าตนไม่มีทางทิ้งขว้างผู้หญิงคนนี้ ชีวิตคุณชายอย่างเขาแปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มติดดิน เฝ้ารอวันคืนที่จะพาเธอกลับไปสร้างครอบครัวด้วยกัน 4 ทุ่มกว่าในคืนนั้นสปอร์ตคันหรูชะลอตัวช้าๆ หน้าริมฟุตบาทอพาร์ทเมนท์ซึ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดี…ยังจำได้ไม่ลืมหัวใจเขาเหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดแน่นด้วยแรงลม มันจึงออกอาการจะลอยขึ้นสู่ที่สูงตลอดเวลา อ้อมแขนแกร่งมีดอกไม้พร้อมของขวัญพิเศษเพื่อคนที่รักและวันนั้นเป็นวันเซอร์ไพรส์ การมาของชายหนุ่มจึงถูกปิดเป็นความลับ ร่างสูงหล่อเหลาที่แสนจะอารมณ์ดีเดินผิวปากเบา เบา อย่างมีความสุขสุดแสน ขายาวทรงพลังก้าวขึ้นอพาร์ทเมนท์กลางเก่ากลางใหม่ชานเมืองลอนดอน แถวนี้เป็นเขตที่พักอาศัยไม่ใช่ย่านธุรกิจ ทำให้แถวนี้ดูเงียบสงบกว่าแถวที่เขาพักอยู่ อีก 3 ก้าวจะได้พบหน้าคนที่คิดถึงมาตลอดทั้งวัน เสียงเอะอะโวยวายที่ดังขึ้น เล็ดลอดออกมา ทำให้วินนี่เสียมารยาทเดินเข้าไปฟังเพราะเขาจำน้ำเสียงหวานนั้นได้ดี มันคือเสียงของคนรัก “แพรไม่กลับนะพี่พราว พี่ภพช่วยพูดกับคุณป้าให้แพรด้วยนะคะและแพรจะไม่แต่งงานพี่ๆ อย่าบังคับแพรเลยนะ” เสียงพูดค่อนข้างดังเจือด้วยเสียงสะอื้นฉุดให้ขายาวไร้การเคลื่อนไหว “อะไรกันยายแพร แกจะเป็นคนอกตัญญูใช่ไหม แกจะผิดคำพูดที่แกเคยพูดไว้” เสียงขุ่นมัวที่โต้กลับอย่างขุ่นเคือง ดังขึ้น “แพรไม่เคยตกลงรับคำเลยนะคะ และถึงแพรยอมมันจะไม่มีเรื่องแบบนี้รวมอยู่ด้วย” “ไม่รู้ล่ะ ไม่ต้องมาบอกฉัน แกต้องบอกคุณแม่เอง” ‘ใครกัน?’ วินนี่ไม่คุ้นเคยกับเสียงนี้เลย จะเป็นเพื่อนก็ไม่น่าจะใช่เพราะตนรู้จักเพื่อนของคนรักแทบทุกคนแต่เรื่องที่แพรวาคุยกับใครไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าแพรวาจะไปไหนต่างหาก จะกลับบ้านแต่เธอยังเรียนไม่จบ “หรือว่าที่หัวแข็งกับฉันเพราะแกมีใครอยู่ที่นี่ใช่หรือเปล่า! ฉันถามว่าใช่ไหม!” เสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดดังมากขึ้น มากขึ้น “ดูสิพี่ภพยายแพรน้องที่พี่ชมนักชมหนาว่าดีแสนดี มาอยู่ได้ไม่เท่าไหร่ก็ทำเรื่องน่าอายซะแล้ว คงเป็นหนุ่มเซอร์คนที่แกต้อยๆ ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา คนนั้นล่ะสิ ยายแพรแกอย่ามั่วให้มากนักล่ะ แกต้องกลับไปแต่งงานนะ ว่าที่เจ้าบ่าวแกเขาจะว่าอย่างไรถ้ารู้ว่าแกมั่วไม่เลือก” “ทำไมพี่พราวต้องพูดต่อว่ากันแบบนี้ด้วยคะ” วินนี่แทบก้าวขาต่อไปไม่ไหวเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ชายหนุ่มผลักประตูห้องที่เจ้าของห้องไม่สนใจจะล็อก ลืมสิ้นคำว่ามารยาท “เจ้านาย โทรศัพท์ครับ” เสียงเรียกจาก ทัค เลขาหนุ่ม ทำให้เรือนร่างกำยำดีดตัวจากโซฟา หลุดออกมาจากเรื่องราวน้ำเน่าของเด็กหนุ่มผู้บูชาความรัก
已经是最新一章了
加载中