บทที่ 4 ถ้าใครกล้าบังคับให้นายพูด ก็เอาเงินฟาดมันให้ตายเลย
1/
บทที่ 4 ถ้าใครกล้าบังคับให้นายพูด ก็เอาเงินฟาดมันให้ตายเลย
Mummy คุณแม่สุดสวยของหน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 4 ถ้าใครกล้าบังคับให้นายพูด ก็เอาเงินฟาดมันให้ตายเลย
บทที่ 4 ถ้าใครกล้าบังคับให้นายพูด ก็เอาเงินฟาดมันให้ตายเลย ตั้งแต่ที่เสี่ยวเป่าขึ้นรถมาก็เอาแต่ก้มหน้า ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย สีหน้าขาวซีดของเห้ออี้ลั่วที่กำลังขับรถ เห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังโกรธ ไม่รู้ว่ากำลังโกรธเสี่ยวเป่าที่หนีออกจากบ้านไป หรือว่าโกรธเรื่องของผู้หญิงคนนั้น รถเลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าวิลล่าแห่งหนึ่ง เพิ่งจอดนึ่ง ประตูรถด้านหลังก็ถูกคนเหวี่ยงใส่ ร่างเล็กๆ ก็พุ่งตรงเข้าไปในวิลล่าอย่างรวดเร็ว เหวี่ยงประตูใหญ่ซะจนสั่นสะเทือนไปทั้งบ้าน เห้ออี้ลั่วลงจากรถมาอย่างหน้าดำ คุณพ่อบ้านรีบตามออกมาดู: “คุณชายครับ คุณชายเล็กเขา… …” “เรื่องของวันนี้ คราวหลังอย่าให้เกิดขึ้นอีก” เห้ออี้ลั่วพูด ร่างกายของคุณพ่อบ้านสั่นเทา “แต่ว่าคุณชายเล็กเขาชอบคุณหมอเฉียวมากนะครับ” “ดังนั้น เขาก็สามารถไปรบกวนชีวิตคนอื่นได้อย่างนั้นหรอ?” เห้ออี้ลั่วถามกลับอย่างเย็นชา “คุณชายครับ สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้คุณอาจจะไม่อยากฟัง แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นคุณชายเล็กถึงจะหนีออกจากบ้านไป และคุณหมอเฉียวก็เป็นคนแรกที่เขายอมใกล้ชิดด้วย ผมคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีนะครับ” “ถ้าหากว่าคุณคิดแบบนั้นละก็ กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ ด้านคุณชายเล็กผมจะหาคนอื่นมาดูแลเอง” เห้ออี้ลั่วมองพ่อบ้านเบาๆหนึ่งครั้ง แล้วเข้าไปในห้องหนังสือบนชั้นสอง คุณพ่อบ้านมองไปที่แผ่นหลังของเห้ออี้ลั่ว แล้วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พอเห้ออี้ลั่วเพิ่งจะนั่งลงในห้องหนังสือ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระยะ และยังมีเสียงขว้างสิ่งของอีก เห้ออี้ลั่วหลับตาลง และเปิดประตูห้องหนังสือออก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ห้องรับแขกที่เคยสะอาดเรียบร้อย ก็กลายเป็นที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่ สิ่งของที่สามารถขว้างได้ก็โดนขว่างแตกจนหมด เสี่ยวเป่าเดินเท้าเปล่าไปตามพรมที่เต็มไปด้วยเศษแก้วที่แตกออก คุณพ่อบ้าน แม่นม และสาวใช้ตามอยู่ด้านหลังเขา แต่กลับไม่มีใครกล้าห้ามเขาเลย เห้ออี้ลั่วยืนมองเสี่ยวเป่าอาละวาดอย่างไม่มีเหตุผลอยู่บนระเบียงทางเดินชั้นสองด้วยใบหน้าที่เย็นชา จนกระทั่งเท้าที่ขาวเนียนของเสี่ยวเป่าโดนเศษแก้วชิ้นหนึ่งบาดเข้า เขาถึงเอ่ยปาก “เห้อเวยเฟย ถึงจะอาละวาดต่อไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นกับตัวเธอ!” เห้ออี้ลั่วจะเรียกชื่อเต็มของเขาเฉพาะเวลาที่โกรธ ร่างเล็กตัวสั่นเทา จากนั้นเขาก็ผลักแจกันโบราณที่สูงกว่าตัวเองจนล้มลงบนพื้น เครื่องลายครามที่เปราะบางกับพื้นที่แข็งทำให้เกิดเสียงแก้วแตกเพร้งดังขึ้น แจกันโบราณที่มีมูลค่ากว่าสิบล้านแตกละเอียดในทันที เสี่ยวเป่ายืนอยู่กลางพื้นที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าเล็กๆที่ดื้อรั้นและยังไม่บรรลุนิติภาวะของเสี่ยวเป่าเงยขึ้นไปมองเห้ออี้ลั่วอย่างท้าทาย เห้ออี้ลั่วขมวดคิ้วแน่น และเดินลงบันไดมาทีละก้าว เสี่ยวเป่ายังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ปล่อยให้เลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่เท้า แต่ยังไม่มีสีหน้าที่อ่อนแอเล็ดลอดออกมา เห้ออี้ลั่วค่อยๆเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วโบกมือให้พ่อบ้าน แม่นมและสาวใช้ ไม่นานห้องโถงขนาดใหญ่ก็เหลือแค่เพียงคนสองคน เห้ออี้ลั่วยังคงไม่สนใจแผลตรงเท้าของเขาที่กำลังมีเลือดไหลออกมา “บอกมาสิว่านายอยากจะทำอะไร?” เสี่ยวเป่าหยิบมินิแท็บเล็ตออกมาอย่างไม่พอใจ พิมพ์ตัวอักษรหนึ่งบรรทัด “เธอไม่ต้องการผม!” “เธอไม่ได้เสียสติสักหน่อย จะต้องการเด็กที่น่ารำคาญอย่างนายไปทำไมกัน?! ถ้านายไม่ใช่ลูกฉัน ฉันก็ไม่เอานายหรอก!” ทันทีที่สิ้นเสียงของเห้ออี้ลั่ว ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูดังขึ้น เห้ออี้ลั่วปิดริมฝีปาก แล้วยื่นมือออกไปยกเสี่ยวเป่ามาไว้ที่ตัก เสี่ยวเป่าขัดขืน เห้ออี้ลั่วเหลือบมองเขาด้วยหางตา พูดอย่างเย็นชา: “ก่อนที่จะเจรจากับฉัน ควรนับเบี้ยของตัวเองซะก่อน” หลังจากพูดจบ เสี่ยวเป่าก็เหมือนกับว่าโดนปิดเครื่อง ยอมให้เห้ออี้ลั่วอุ้มโดยไม่ส่งเสียงใดๆอีก เห้ออี้ลั่วยกเท้าอ้วนๆเล็กๆของเขาขึ้นมาอย่างไม่อ่อนโยนเลยสักนิด เมื่อเห็นบาดแผลก็ขมวดคิ้วแล้วยื่นมือไปดึงเศษแก้วออกมาจากเท้าอ้วนๆของเขา ต่อมาก็หยิบกล่องประถมพยาบาลออกมาจากลิ้นชักด้านข้าง แล้วทำแผลให้เขา หลังจากทำแผลเสร็จ ก็โยนเสี่ยวเป่าไปที่โซฟาด้านข้างอย่างโกรธเคือง มือสองข้างกอดอกแล้วมองไปที่เขา เสี่ยวเป่าก็เบิกตากว้างมองเห้ออี้ลั่วโดยไม่พูดอะไร ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอยู่สักพัก เห้ออี้ลั่วกรอกตาท่าทางโกรธ “พ่อนักรบ นายช่วยเข้าใจถึงความลำบากของพ่อบ้างได้ไหม? การประชุมนานาชาติของฉันเพิ่งจะได้เริ่มขึ้น ก็โดนคนอื่นเขาโทรมาตามให้รีบออกไปแก้ปัญหาเรื่องของนาย หลังจากนั้นนายก็อาละวาดซะ นายคิดว่าสิ่งเดียวที่พ่อของนาย ฉันคนนี้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้นายหรอ?” เสี่ยวเป่าไม่สนใจเห้ออี้ลั่ว แม้แต่แท็บเล็ตก็ไม่อยากจะพิมพ์ เห้ออี้ลั่วรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ “นายมีอะไรจะขอก็รีบพูดมาให้ชัดเจน อย่าปล่อยให้พลาดโอกาสเจรจาที่ดีแบบนี้ไป แล้วนายก็มาทำลายข้าวของอีก ไม่มีใครมีภาระหน้าที่ที่จะต้องมาคอยเอาใจนายหรอกนะ พ่อนาย ฉันก็ไม่มีข้อต่อรองที่สูงมาก ก่อนที่นายจะขออะไรจากฉัน ก็เตรียมใจที่จะตอบคำถามฉันไว้ก็พอ หากนายไม่คิดจะต่อรอง รบกวนนายช่วยขึ้นไปคิดไตร่ตรองข้างบน” ใบหน้าเล็กของเสี่ยวเป่าก็เกิดประกายความคิดออกมา เห้ออี้ลั่วนั่งพิงโซฟารอปฏิกิริยาตอบรับจากเขา นิ้วเล็กๆของเสี่ยวเป่ารีบจิ้มไปที่มินิแท็บเล็ตอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ปีนข้ามโซฟามาอยู่ข้างๆเห้ออี้ลั่ว แล้วส่งมินิแท็บเล็ตไปให้เห้ออี้ลั่ว เห้ออี้ลั่วเหลือบมอง บนหน้าจอเขียนไว้ว่า: ผมอยากให้หมอเฉียวอยู่กับผม “เงื่อนไขที่สัญญากับฉันหละ?” ใบหน้าเสียวเป่าแสดงออกถึงความลำบากใจ สุดท้ายก็กัดฟันแล้วแกว่งเท้า พิมพ์อักษรอีกบรรทัดลงบนจอ “ผมจะไปโรงเรียน” เห้ออี้ลั่วมองอักษรบนหน้าจออย่างเงียบๆ “ด้วยไอคิวของนาย ถ้าให้ไปเรียนอนุบาลละก็เสียเวลาเปล่าๆ แถมนายก็ไม่ยอมพูด ไปเรียนอนุบาลก็ไม่มีประโยชน์” เสี่ยวเป่าได้ยินอย่างนั้นดวงตาสีดำแปลงประกายมองไปที่เห้ออี้ลั่วอย่างเงียบๆ รอคำตอบของเห้ออี้ลั่ว “ต้องพูดคุยกับฉันสามประโยคต่อวัน แต่ละประโยคจะต้องไม่น้อยกว่าสิบคำ” เสี่ยวเป่าก้มหน้าลง มือเล็กๆขยี้ชุดนอนตัวเล็ก อย่างลำบากใจ เห้ออี้ลั่วมองไปที่สมองแตงโมของเขา ถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง: “ชาติที่แล้วฉันไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษนาย หรือไปเผาบ้านของบรรพบุรุษนายหรอ ถึงได้ส่งนายมาทรมานฉันแบบนี้ คนอื่นเขาเลี้ยงลูกหมียังสามารถได้ยินคำว่าพ่อ ส่วนฉันก็ได้บวบที่ไม่ยอมพูดบวกกับความไม่เชื่อฟัง น่ารำคาญและยังชอบก่อปัญหาอีก” เสี่ยวเป่ามองเห้ออี้ลั่ว ใบหน้าบูดเบี้ยวเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เห้ออี้ลั่วเอื้อมมือไปขยี้หัวที่เต็มไปด้วยเส้นผมของเขา “ได้แล้ว ยังไงฉันก็จะไม่บังคับนาย นายอยากเป็นเด็กหมี ก็ตามใจนาย ฉันจะพยายามหาเงินมาเก็บไว้ในตอนที่ยังอายุน้อย อีกหน่อยก็ให้นายสืบทอด ใครกล้าสั่งให้นายพูดก็เขาเงินฟาดมันให้ตายเลย!” พูดจบ เห้ออี้ลั่วปัดเข่าของตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินจากไป เสี่ยวเป่านั่งซึมอยู่ที่โซฟา โดยที่คำพูดของพ่อเขานั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย ** หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เฉียวเมิ่งเยว่ก็ใช้เวลาไปกับงานที่ยุ่ง ในหนึ่งวันก็จะมีเคสที่ต้องผ่าตัดสองเคสขึ้นไป วันวันก็ยุ่งเหมือนหมา เธอคิดว่าจะต้องเป็นสัปดาห์ที่ผ่านไปอย่างยากลำบาก แต่ก็ผ่านมันไปได้พร้อมกับงานที่ยุ่ง วันศุกร์ ในตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่กำลังออกมาจากห้องผ่าตัด เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดเข้าไปในวีแชท ในนั้นมีข้อความมากกว่าสิบข้อความที่คนอื่นได้ส่งถึงเธอ ในนั้นของหยางเสว่หลินเยอะที่สุด เฉียวเมิ่งเยว่เปิดดูข้อความจากหยางเสว่หลิน “เมิ่งเมิ่ง เธอจะมาไหม?” “ฉันว่าเธอไม่ต้องมาจะดีกว่า โจวจื่อหยางกับเย่ชิงสุนัขชายหญิงสองคนนั้นน่ารำคาญสุดๆ เย่ชิงแสดงความรักต่อหน้าพวกเรา โจวจื่อหยางยังพอเอาหน้าอยู่ไม่ค่อยยอมร่วมมือกับเธอเท่าไหร่นัก” “เย่ชิงยังพยายามล้วงข้อมูลของเธอจากฉันอีก แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเธอ ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นๆจะพูดหรือเปล่า” “ได้ยินว่าพวกเขาเข้าไปแผนกศัลยกรรมสมองของโรงพยาบาลเยว่เฉิงด้วยกัน พอเข้าไปก็ได้เป็นรองหัวหน้าแพทย์เลยโธ่เอ๊ย คนไร้ยางอายสองคนนี้ เกือบทำฉันบ้าตาย!” “… …”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 4 ถ้าใครกล้าบังคับให้นายพูด ก็เอาเงินฟาดมันให้ตายเลย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A