บทที่ 7 นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7 นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก
บทที่ 7 นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก หลังจากที่ทั้งสามคนคุยกันได้สักพัก เห้ออี้ลั่วก็วางแก้วชาลง “คุณลุงคุณป้าครับนี่ก็ดึกมากแล้ว ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของพวกคุณแล้ว ผมขอลากลับก่อนนะครับ” ลั่วหมิงเม่ยรีบพูดด้วยรอยยิ้ม: “ให้เฉียวเมิ่งเยว่ไปส่งนะ ถนนในหมู่บ้านเราแถวนี้เวลากลางคืนนั้นหลงทางได้ง่าย” “ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องรบกวนด้วยนะครับ” เฉียวเมิ่งเยว่แอบหยิกลั่วหมิงเม่ยไปเบาๆ กัดฟันหยิบคีย์การ์ดแล้วเดินออกไป ถนนในชุมชนของพวกเขาซับซ้อนกว่าตอนกลางวัน หากเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยอาจจะหลงทางได้ง่าย เฉียวเมิ่งเยว่เดินห่างจากหลังของเห้ออี้ลั่วประมาณสามก้าว บางครั้งก็มองที่แผ่นหลังของเห้ออี้ลั่ว ผ่านโคมไฟสลัวบนถนน ไม่รู้ว่าฟ้าลำเอียงหรือเปล่าแม้แต่แผ่นหลังและเงาด้านหลังของเขาก็ยังดูดีกว่าคนอื่น เห้ออี้ลั่วที่เดินอยู่ด้านหน้าก็หยุดเดินกะทันหัน แววตาที่ลึกนั้นมองมาที่เฉียวเมิ่งเยว่ ยืนอย่างมั่นคงภายใต้แสงไฟบนถนนดูสวยคล้ายกับเป็นภาพวาดในทันที เห็นอย่างนั้นเฉียวเมิ่งเยว่ก็หยุดลงด้วย เห้ออี้ลั่วเลิกคิ้ว “คุณผู้หญิง อย่าฝืนอีกเลย แต่งงานกับผมดีแค่ไหน” “เหตุผล?” เฉียวเมิ่งเยว่เพิ่งถูกแม่ของเธอยุยงมา พอได้ยินเห้ออี้ลั่วพูดแบบนี้อีก สีหน้าก็ไม่ตกใจอีกแล้ว “นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก!” “คุณกลับไปได้แล้ว” นอกจากเห้ออี้ลั่วจะไม่ไปแล้วเขายังเดินมาทางเฉียวเมิ่งเยว่อีกด้วย เฉียวเมิ่งเยว่เดินถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว เห้ออี้ลั่วเดินไปหยุดยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าเฉียวเมิ่งเยว่ เขาเป็นคนที่หน้าตาแจ่มใสมาก แต่คำพูดนั้นไม่แจ่มใสเหมือนหน้าตาเลย “ผมทั้งหล่อ และมีเงินมากขนาดนี้ แล้วยังมาตามจีบคุณอีก หากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ผมสามารถยกทุกอย่างของบริษัทเห้อซื่อทั้งหมดให้คุณได้นะ ทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยได้ภายในไม่กี่วินาทีเลย เรื่องดีๆแบบนี้ คุณจะไปหาที่ไหนได้อีก?” เฉียวเมิ่งเยว่จ้องไปที่เขาอย่างเหลืออด รู้สึกว่าเห้ออี้ลั่วคนนี้กับเห้ออี้ลั่วคนที่เจอกันเมื่อสองครั้งก่อนแตกต่างกันราวกับเป็นคนละคนกัน เธอเคยได้ยินเสี่ยวอันบอกว่า เห้ออี้ลั่วเวลาเซ็นสัญญากับคนอื่นนั้น เห้ออี้ลั่วจะทำหน้าเย็นชา แล้วโยนสัญญาไปให้อีกฝ่าย “หกต่อสี่ ผมหกคุณสี่ จะเซ็นไหม?” สุดท้าย สัญญาหลายพันล้านก็เซ็นจบไปแบบนี้ ผลการประเมินเห้ออี้ลั่วของสื่อออนไลน์ ก็ออกมาเป็น “เย็นชา และเงียบขรึม” เวลาประชุมก็ไม่ค่อยพูด มักจะเงียบขรึม ในการประชุมก็มักจะเป็น “เริ่มได้!” “จบการประชุม” นอกเหนือจากนี้ก็ไม่พูดอะไรอีก แต่เห้ออี้ลั่วที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ไม่เหมือนกับในข่าวลือเลยสักนิด เฉียวเมิ่งเยว่มองไปที่ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจสาวของเขาแล้วพูดขึ้น: “เรื่องดีๆแบบนี้ คุณหาคนอื่นก็ได้ ทำไมต้องเป็นฉัน?” “ใครใช้ใช้เด็กน่ารำคาญของบ้านฉันคนนั้นชอบเธอหละ คนเป็นพ่อก็ต้องยอมเสียสละไง” เฉียวเมิ่งเยว่พยายามอดทนไว้ แต่ก็ทนไม่ไหว “กลับไปซะ!” เห้ออี้ลั่วฉวยโอกาสตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่กำลังโกรธ รีบหอมแก้มเธอไปสองที ก่อนที่เฉียวเมิ่งเยว่จะรู้ตัว ก็เดินจากไปแล้ว เดินไปด้วยพูดไปด้วยว่า: “พรุ่งนี้ผมจะให้คนตัดชุดแต่งงานให้คุณเลย เมื่อชุดแต่งงานตัดเสร็จ คุณก็แต่งงานกับผมเลย” เฉียวเมิ่งเยว่ก็ถูกเห้ออี้ลั่วที่ไร้ยางอายทำให้รู้สึกท้อแท้อีก เธอก็เป็นแค่แพทย์ประจำบ้านธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมถึงไปดึงดูดสายตาของผู้ชายที่เป็นที่หมายปองของผู้หญิงทุกคนในเมืองเยว่เฉิงได้ยังไง ** หลังจากที่พ่อกับแม่กลับมา คุณภาพชีวิตของเฉียวเมิ่งเยว่ก็พุ่งสูงขึ้นทันที ก่อนที่แม่ของเธอจะแต่งงาน เธอเป็นแม่ครัวร้านขนมเค้ก หลังจากแต่งงานก็ไม่ทำงานอีก คอยอยู่บ้านทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ดูแลชีวิตประจำวันของเฉียวเมิ่งเยว่ ก่อนที่เฉียวเมิ่งเยว่จะบรรลุนิติภาวะ แม่ของเธอก็ได้ฝากชีวิตไว้กับพ่อของเธอแล้ว พ่อของเธอเป็นวิศวกรก่อสร้าง และมักจะเดินทางอยู่บ่อยๆ ทั้งสองมักจะเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางเลย ออกไปทีก็ประมาณสามสีเดือน หรือไม่ก็ครึ่งปี จนเฉียวเมิ่งเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา หลังจากได้รับการดูแลจากแม่มาสองวัน สีหน้าของเฉียวเมิ่งเยว่ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พอไปทำงานในวันจันทร์ เสียวอันก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเธอ “พี่เฉียว พลังแห่งความรักนี่ช่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ?” “คิดไปถึงไหนกัน แม่ฉันกลับมาแล้วต่างหาก” เฉียวเมิ่งเยว่พูดไป แล้วโดนถุงขนมและกล่องนมไปบนโต๊ะของเสี่ยวอัน “ฝากขอบคุณคุณป้าด้วยนะคะ” ดวงตาทั้งคู่ของเสี่ยวอันมองไปที่ขนม กินมันทีละคำทีละชิ้น พูดไปด้วยและพูดไปด้วย: “นั่นอะไรหรอ ความสัมพันธ์ของประธานเห้อของฉันกับคุณเป็นยังไงกันแน่ สงสัยจังสงสัยจัง” “เรื่องที่นอกเหนือจากเรื่องงานไม่ต้องมาถามฉัน!” “คนอื่นก็แค่สงสัยเอง ได้ยินมาว่าประธานเห้อของฉันไม่ใกล้ชิดกับผู้หญิง เว็บออนไลน์พวกนี้ก็ไม่เคยถ่ายรูปของประธานเห้อเวลาอยู่กับผู้หญิงได้สำเร็จเลย แต่อยู่ดีๆเขาก็จับมือกับพี่ จะไม่ให้สงสัยได้ยังไง!” “ตอนที่เขาจับมือกันเขาต้องบอกเธอด้วยหรอ? รีบไปเตรียมเอกสารเลย” “รับทราบรับทราบ” เสี่ยวอันพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “อ้อ ใช่แล้ว เกือบลืมไปแล้วศาสตราจารย์หลินบอกว่าถ้าคุณมาแล้วให้ไปพบเขาที่ห้องทำงานด้วย” “ได้บอกหรือเปล่าว่ามีเรื่องอะไร?” “ไม่มี ฉันเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับหัวข้อที่เขาจะพูด” “ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวตามไป” “อืมอืม” เฉียวเมิ่งเยว่วางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ ก็ที่ไปห้องทำงานของศาสตราจารย์หลินเลย ศาสตราจารย์หลินชื่อจริงคือหลินจื้อ ปีนี้อายุสามสิบสอง เขาเป็นนักศึกษาปริญญาเอก หลังจากจบปริญญาเอกจากต่างประเทศกลับมาเขาก็เข้าทำงานที่โรงพยาบาลหย่าเต๋อ และได้ทำวิจัยเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและสมอง ด้วยโครงการที่หลินจื้อเคยวิจัยทั้งในและต่างประเทศแล้ว เขาสามารถไปทำงานในโรงพยาบาลที่ใหญ่และดีกว่า แต่เขากลับเลือกที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลหย่าเต๋อ หลายปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลหย่าเต๋อก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น เพราะว่ามีเขาเข้ารวมด้วย และดึงดูดบุคลากรทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมหลายคนเป็นกำลังสำรองของโรงพยาบาล เฉียวเมิ่งเยว่เคาะประตูห้องทำงานของหลินจื้อ “สวัสดีค่ะศาสตราจารย์หลิน ฉันคือเฉียวเมิ่งเยว่” “คุณหมอเฉียวเชิญครับ” เฉียวเมิ่งเยว่ผลักประตูเข้าไป หลินซื่อกำลังยืนหันหลังจัดเอกสารบนชั้นหนังสือให้เฉียวเมิ่งเยว่ “เชิญคุณนั่งลงก่อน ผมหาเอกสารสักครู่” เฉียวเมิ่งเยว่นั่งลงบนโซฟา รอให้ หลินจื้อเสร็จเรื่องในมือของเขาก่อน ผ่านไปสักพัก หลินจื้อก็เดินมา เขาเป็นผู้ชายที่สุขุมและอบอุ่นคนหนึ่ง ในมือหลินจื้อถือหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม “คุณลองเอาหนังสือเล่มนี้กลับไปอ่านดู” “นี่คือ… …” เฉียวเมิ่งเยว่เหลียวมองก็รู้แล้วว่าคือหนังสือวรรณกรรมการแพทย์ภาษาอังกฤษ “นี่เป็นเล่มล่าสุดที่เป็นแนวคิดเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองมันเป็นหัวข้อที่ฉันจะพูดในวันพุธนี้ ในสองสามวันนี้ฉันต้องคัดแยกเอกสารและวัสดุอื่นๆ ทางด้านการแปลฉันต้องขอรบกวนคุณช่วยเหลือหน่อย คุณมีปัญหาอะไรไหม?” “ปัญหานั้นไม่มีหรอก แต่รอบตัวคุณ ก็มีทีมแพทย์และผู้ช่วยจาก บริษัท อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ อยู่แล้วไม่ใช้หรอคะ? เรื่องการแปลพวกเขาคงจะทำได้ดีกว่าฉันอยู่แล้ว” “พูดตามตรง ตอนนี้ฉันไม่ค่อยพอใจกับการทำงานของคนรอบตัวฉันเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ส่งพวกเขากลับไป ก็จะมีคนใหม่ส่งมาอีก คนใหม่ที่ส่งมาอาจจะทำงานได้แย่กว่าคนเก่าก็ได้ ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะรับความเสี่ยงนี้หรอก” เฉียวเมิ่งเยว่คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื้อจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้ ยิ้มตอบ: “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ขอถอนตัวแล้วนะคะ ฉันกำลังคิดอยากจะศึกษาแนวคิดใหม่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองอยู่พอดี” “ถ้ามีหัวข้อและการประชุมเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองอีกฉันจะพาคุณไปเข้าร่วมด้วย ในเครือข่ายนี้ได้มีการขยายตัวและเทคโนโลยีก็ยิ่งง่ายต่อการเรียนรู้”
已经是最新一章了
加载中