ตอนที่ 5
อิสลินราวถูกปลุกจากห้วงแห่งความเคลิบเคลิ้มเมื่อเรียวขาเนียนถูกแยกห่างจากกัน แม้เขาไม่เร่งรีบทว่าก็ยังน่าตระหนกไม่น้อยสำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยประสบพบเจอประสบการณ์เช่นนี้ เซอร์เรนัล์ฟเหมือนจะเข้าใจซึ่งเขารู้ดีว่าเมื่อใดที่เขาสามารถปลดปล่อยความเร่าร้อนที่แอบซ่อนอยู่ในส่วนลึกของสาวน้อยขี้อาย เมื่อนั้นอิสลินก็จะกลายเป็นไฟซ่อนเชื้อที่พร้อมจุดเพลิงพิศวาสได้ทุกเวลา
“อีฟ...ผมอยากบอกคุณเหมือนที่ผมเคยบอกทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน”
“คุณบอกฉันตั้งหลายอย่างนะคะ ไคลน์ ฉันจำไม่ได้แล้วว่า...”
“ผมรักคุณ...ผมบอกคุณทุกครั้งที่เราเจอกันว่า...ผมรักคุณ”
ร่างนุ่มเป็นสีชมพูเข้มขึ้นด้วยความเขินอาย เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาดจากคำที่ได้ยิน “ฉันก็รักคุณค่ะ ไคลน์”
อิสลินไม่รู้ตัวเลยว่าแยกเรียวขารับการแทรกผ่านจากเซอร์เรนัล์ฟตอนไหน รู้แต่หัวใจของเธออาบด้วยความตื้นตันจากคำ ๆ นั้นจากปากของเขา ทว่ากลับมารู้สึกตัวอีกทีและต้องนิ่วหน้าเมื่อความคับแน่นไม่ยอมเปิดกว้างไปได้ทั้งหมด แม้จะรู้สึกถึงความเสียวซ่านทว่าความทรมานก็มีมากพอกัน
“ไคลน์คะ...ฉัน...”
ร่างเล็กทำทีจะผลักไสแต่กลับถูกอ้อมแขนใหญ่กอดเกี่ยวกระหวัดแน่น เซอร์เรนัล์ฟประกบจูบจนกลีบปากนุ่มบวมแดงกระทั่งเขาพาตัวตนลึกเข้าไปเรื่อย ๆ และชายหนุ่มก็ได้ค้นพบสิ่งที่เขารอคอย ค้นพบว่าเขาคือผู้ชายคนแรกของอิสลิน
“อีฟ...คุณเป็นของผมแล้วนะ คุณเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น”
ร่างแน่งน้อยจิกปลายเล็บลงบนหัวไหล่ของร่างสูงจนเป็นรอยลึกเมื่อความเจ็บปวดที่แกนกายเพิ่มมากทวีคูณ ทว่าอิสลินก็ค้นพบว่าในเปลวเพลิงพิศวาสที่เผาไหม้กลับมีความอบอุ่นสว่างไสวอยู่ตรงใจกลางนั้น หญิงสาวเริ่มคลายความอึดอัดเมื่อการหลอมรวมสนิทแน่นและสิ่งที่ดีที่สุดในห้วงเวลานี้คือกอดเขาไว้เพื่อซึมซับเอาลมหายใจร้อนก่อนกระซิบตอบกลับไปแผ่วเบา
“ไคลน์คะ...ฉันรักคุณนะคะ ฉันเป็นของคุณแล้ว อย่าทิ้งฉันไปไหนนะคะ”
เสียงนั้นสั่นพร่าพร้อมกับหยาดน้ำซึมที่หางตาเมื่อชายหนุ่มกระชับอ้อมกอด ราตรีนั้นเงียบสงัดยินเพียงเสียงคลื่นขับกล่อมเป็นลำนำแสนหวาน อิสลินรู้สึกสุขใจมากกว่าสิ่งใดเมื่อได้มอบสิ่งที่หวงแหนไว้แก่ชายที่รัก และเซอร์เรนัล์ฟก็รู้สึกเช่นเดียวกันคือเขาได้ครอบครองสิ่งมีค่าและจะถนอมไว้ชั่วชีวิต
“ผมจะทิ้งคุณไปได้อย่างไร...อีฟ”
ชายหนุ่มกระซิบและขยับสะโพกนุ่มนวลราวเกรงความบอบบางจะบอบช้ำ
“ผมสัญญาว่าผมจะรักคุณแบบนี้ และจะไม่มีวันทอดทิ้งคุณ...ไม่มีวัน”
คำยืนยันนั้นหนักแน่นพอ ๆ กับจังหวะรักที่เริ่มกระชั้นถี่ หญิงสาวค่อย ๆ คลายอาการเกร็งและรับรู้ถึงความร้อนตรงใจกลางร่างงามกำลังแผ่ซ่านไปหมดทั้งเนื้อตัว เธอเรียนรู้ที่จะสนองตอบเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบไม่รู้สึกถึงความทรมานที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ระหว่างกายเปลือยเปล่าที่แนบสนิทมีแต่สัมผัสจากทั้งผิวที่บดเบียดและสายตาที่ต่างสบประสานเพื่อส่งผ่านความเข้าใจ
เซอร์เรนัล์ฟนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืดและยังไม่ยอมขยับตัวด้วยกลัวร่างนุ่มในอ้อมแขนที่กำลังหลับสนิทจะรู้สึกตัวขึ้นมาเสียก่อน ชายหนุ่มนอนฟังเสียงคลื่นที่ดังภายนอกและเสียงลมหายใจเบา ๆ ของผู้อยู่ในอ้อมกอด นาฬิกาบนหัวเตียงบอกเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อย
ใบหน้าคร้ามเข้มเพียงแนบจมูกลงสูดเอากลิ่นหอมที่กำจายออกมาจากเรือนผมสลวยเรียบตรงผสานกลิ่นกุหลาบปรินเซส เดอ โมนาโก ที่กลีบสีชมพูหวานยังทิ้งรอยตามหลังไหล่เปลือยของอิสลิน นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกอย่างอุบัติขึ้นจากความรักที่เขาและเธอสั่งสมมาเนิ่นนานนับปี