ตอนที่ 6
เขาตัดสินใจพาเธอมาไกลถึงโมนาโกก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นใดนอกจากการแสดงออกซึ่งความรักล้นหัวใจที่มีต่อลูกสาวนักธุรกิจใหญ่นั่นเอง ชายหนุ่มผู้จบทางด้านวิศกรรมการบินได้พบอิสลินครั้งแรกตอนเธอเดินทางไปอเมริกาที่จัตุรัสไทม์สแควร์หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในอังกฤษเพื่อชมคอนเสิร์ตกลางแจ้งของศิลปินสาวเซ็กซี่ระดับโลก
กามเทพแผลงศรให้เขารักหญิงสาวลูกครึ่งไทย อังกฤษร่างเล็กผิวขาวนัยน์ตากลมโตเข้าอย่างจังซึ่งเธอก็แสดงออกว่ารู้สึกไม่แตกต่างกันกับเขา ทว่าเซอร์เรนัล์ฟมารับรู้ภายหลังว่าเอเวอร์ลีนเป็นลูกสาวของนักธุรกิจหรูระยับระดับเฟิร์สคลาสอย่างอาร์โนลทุกอย่างก็ดูเหมือนเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะอุปสรรคนั้นคือความไม่เท่าเทียม นักธุรกิจใหญ่มักให้บอดี้การ์ดตามติดอิสลินเสมอแต่เธอก็จะหาทางแอบมาเจอเขาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งดูเหมือนคราวนี้เขาพาเธอออกมาไกลบ้านและทำให้ความสัมพันธ์ของชายหนุ่มหญิงสาวก้าวข้ามจากการเป็นแค่คนรัก
“อืม...เช้าแล้วหรือคะ ไคลน์?”
ร่างอรชรเริ่มงัวเงียขณะเบียดลำตัวเข้าหาคนตัวโตที่พลิกตะแคงมากอดเธอไว้
“ยังเที่ยงคืนอยู่เลย คุณหิวแล้วหรือ อีฟ?”
คำกระเซ้าของชายนุ่มทำให้ใบหน้าหวานที่เพิ่งปรือตาตื่นแดงซ่านขึ้นมาอีกหน
“ไคลน์...คุณนี่จริง ๆ เลยนะคะ ดึกแบบนี้ใครจะหิวอยู่ได้”
“ผมนี่ไง ผมเริ่มหิวคุณอีกแล้ว”
เซอร์เรนัล์ฟพลิกตัวขึ้นทาบทับร่างเล็กและกดริมฝีปากหนาได้รูปลงบนกลีบปากละมุนที่ยังบวมแดงน้อย ๆ จากการที่เขาตระโบมจูบเธอแทบไม่หยุดพัก อิสลินยอมรับความวาบหวามนั้นแต่โดยดีก่อนกระซิบเสียงสั่นพร่าพอเขาถอนริมฝีปากออก
“ไคลน์คะ...คุณจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะชวนคุณออกไปเดินเล่นที่ชายหาด”
“ดึกๆ แบบนี้นี่นะ”
“ค่ะ...ก็ฉันไม่เคยมาที่นี่ มีคนบอกว่าหาดมอนติคาร์โลสวยมาก ฉันเลยอยากเห็นทะเลใต้แสงจันทร์ตอนเที่ยงคืน”
“คุณเดินไหวหรือ อีฟ?”
ชายหนุ่มกระเซ้าด้วยแววตากรุ้มกริ่ม อิสลินรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไรเพราะรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งเริ่มดุนดันอยู่บนต้นขา เซอร์เรนัล์ฟคงอยากรักเธออีกครั้งแต่หญิงสาวอยากเก็บแบบฝึกหัดอันวาบหวามไว้หลังจากนี้จึงออดอ้อนกลับไปอย่างน่ารักน่าใคร่
“ไหวสิคะ ไคลน์...แต่เราอาจค้นพบอะไรใหม่ ๆ ริมชายหาดอีกก็ได้นะคะ”
“อีฟ...คุณกำลังทำให้ผมคลั่งตายรู้มั้ย”
ใบหน้าคมคายโน้มลงไปดูดดื่มความหวานจากเรียวปากจิ้มลิ้มอีกครั้งและต่างลูบไล้เรือนร่างเปลือยเปล่าของกันและกันเนิ่นนานก่อนจะสวมใส่เสื้อผ้าและพากันออกไปจากบ้านพักตากอากาศเพื่อเดินเล่นบนชายหาที่มีแต่ทรายและน้ำอาบแสงสีเงินใต้ท้องฟ้ากระจ่างด้วยพระจันทร์เต็มดวง
“กลับไปคราวนี้คุณคงต้องหาข้อแก้ตัวไม่ให้พ่อของคุณจับได้ว่ามาพบกับผมที่มอนติคาร์โล”
เซอร์เรนัล์ฟในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนถึงข้อศอกและกางเกงสแล็คพับขาขึ้นมาถึงเข่ากล่าวขึ้นขณะโอบไหล่ของอิสลินและเดินลุยฟองคลื่นไปบนหาดอันเงียบสงบในยามดึกสงัดที่แสงเงินยวงสาดกระทบริ้วน้ำในท้องทะเลกว้างใหญ่
“เรื่องนั้นฉันไม่กังวลหรอกค่ะ แต่สิ่งที่ฉันเป็นกังวลคือเมื่อไหร่ฉันกับคุณจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีก”
“แต่การหนีไปด้วยกันคงไม่ใช่คำตอบ”
ร่างสูงหยุดลงและหมุนร่างเล็กในอ้อมแขนให้หันมาสบตาเขา เซอร์เรนัล์ฟเกลี่ยปอยผมที่ลมพัดจนตกลงมาปรกผิวแก้มใสราวกำลังสัมผัสตุ๊กตาแสนสวยด้วยความรัก
“อีฟ คุณอาจต้องรออีกหน่อย ผมจะสร้างตัวให้พ่อของคุณยอมรับในสักวัน”
“ฉันไม่เคยไปไหนนะคะ ไคลน์”
อิสลินโอบผิวแก้มที่มีขนเคราบาง ๆ ไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสอง ความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซ็นต์ทำให้ร่างอรชรเล็กไปถนัดใจเมื่อยืนเทียบกับคนตัวโต
“ต่อให้ฉันต้องรอคุณไปอีกกี่ปีฉันก็จะรอ ก็ฉันรักคุณนี่คะ และที่สำคัญฉันเป็นของคุณ...ไคลน์คะ ฉันจะรักผู้ชายคนใหม่ได้ก็ต่อเมื่อฉันตายไปแล้วเท่านั้น”