ตอนที่ 8   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 8
อิสลินได้แต่ตะโกนเสียงแหบแห้งเมื่อเลียมพุ่งหมัดลงไปบนใบหน้าของคนหมดทางตอบโต้อีกหลายครั้ง หญิงสาวหัวใจแทบขาดออกจากกันเมื่อเห็นเซอร์เรนัล์ฟถูกทั้งหมัดและเข่าจากบอดี้การ์ดของบิดาจนอ่อนยวบ “ไคลน์!” เจ้าของเสียงร้องดังได้ก็แค่ต้องมองภาพของชายที่รักถูกทำร้ายโดยเธอไม่อาจช่วยเหลืออะไรเขาได้เลย ร่างสูงต้องบอบช้ำอย่างหนัก เบ้าตาและโหนกแก้มแตกเป็นแผลยับจนเลือดอาบใบหน้า ริมฝีปากถูกหมัดพุ่งใส่จนโลหิตกบและหยดลงบนเสื้อจนแดงไปหมด เซอร์เรนัล์ฟหอบหายใจแผ่วขณะร่างกายนั้นอ่อนเปลี้ย เขาหมดแรงลงทีละน้อยจนทรุดลงบนฟองคลื่น “อีฟ” ชายหนุ่มขานชื่อหญิงสาวเสียงแห้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะคว่ำหน้าลงในน้ำ ดวงตาคู่งามเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าพวกบอดี้การ์ดหิ้วปีกร่างไร้สติออกไปในทะเลก่อนจะโยนเซอร์เรนัล์ฟให้ลอยไปตามแรงคลื่น “ทำไมทำกันถึงขนาดนี้! เลียม...ไคลน์ไม่ผิดอะไร พวกคุณฆ่าเขา พวกฆาตกร!” “คุณหนูครับ” เลียมกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาเยือกเย็น “ต้องขอโทษด้วย นี่เป็นคำสั่งของคุณอาร์โนล ผมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอย่างเคร่งครัด” “แต่คุณพ่อสั่งให้พวกคุณฆ่าคน...โอ! ไม่...ปล่อยฉัน ฉันจะไปช่วยไคลน์!” อิสลินร้องไห้อย่างสิ้นหวังเมื่อการดิ้นรนไม่สัมฤทธิ์ผล เธอได้แต่มองร่างที่ถูกคลื่นพัดห่างจากชายฝั่งค่อย ๆ หายไปในความมืด หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าคืนแห่งรักจะกลับกลายเป็นคืนวิปโยคและเป็นค่ำคืนสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าเซอร์เรนัล์ฟ “ปล่อยฉัน!...พวกฆาตกร...พวกฆาตกร!” เสียงกรีดร้องนั้นค่อย ๆ ห่างออกไปจากชายหาดเปลี่ยวที่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวผ่านมาเมื่อร่างบางออกแรงดิ้นถูกลากกลับไปยังรถลีมูซีนที่จอดรออยู่ไม่ไกล ทิ้งไว้แต่ภาพความทรงจำเศร้าสลดแก่หญิงสาวที่ร่ำร้องด้วยความรวดร้าวแทบขาดใจ “แกกล้ามาก อีฟ ที่แอบหนีไปอยู่กับไอ้หนุ่มอเมริกันกระจอกนั่นไกลถึงโมนาโก แกช่างไม่รักษาหน้าของพ่อแกบ้างเลย!” เสียงดุดันดังขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์เบอร์กแทรนช์ซึ่งชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่เดินเอามือไพล่หลังไปมาต่อหน้าร่างเล็กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตานั่งรับฟังผู้เป็นบิดาก่นว่าตั้งแต่กลับมาถึง อาร์โนลไล่บอดี้การ์ดและแม่บ้านทุกคนออกจากห้องนั้นเหลือเพียงเขาและบุตรสาวหัวรั้นที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง อิสลินยังคงนั่งเงียบ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่มีเสียงและไม่ยอมพูดอะไรนอกจากกัดปากตัวเองจนห้อเลือด “แกขัดคำสั่งพ่อมาหลายหน บอกแล้วอย่างไรว่าพ่อไม่อยากให้แกไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้ผู้ชายคนนั้น!” “เรารักกันค่ะ คุณพ่อ! เหตุผลอะไรที่คุณพ่อต้องมากีดกันหนูกับไคลน์แบบนี้!” คำโต้เถียงแรกหลุดจากปากของหญิงสาวและทำให้ชายวัยกลางคนตาวาวด้วยความเดือดดาล “เหตุผลอย่างนั้นหรือ...เพราะมันเป็นคนไม่มีอะไร แกได้ยินชัดมั้ย อีฟ!...มันเลี้ยงดูแกให้อยู่สุขสบายเหมือนที่อยู่กับพ่อของแกไม่ได้หรอก!” “คุณพ่อก็เลยให้พวกบอดี้การ์ดทำร้ายเขา คุณพ่อรู้มั้ยคะว่าฆาตกรพวกนั้นฆ่าไคลน์เมื่อคืนนี้!” หญิงสาวกรีดเสียงแหลมโต้ตอบไม่ลดละในขณะที่อาร์โนลเป็นฝ่ายเงียบไปพักใหญ่ เขามองดูบุตรสาวหลั่งน้ำตาและทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นหลายต่อหลายครั้ง ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ทว่าใบหน้ายังมีเค้าความคมคายภายใต้เรือนผมสีดอกเลาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจมือทองของเกาะอังกฤษส่ายหน้าไปมาอย่างนึกระอาในหัวใจ เขาเป็นคนส่งบอดี้การ์ดไปมอนติคาร์โลทันทีที่สืบรู้ว่าอิสลินเดินทางไปไหนเพราะนึกสงสัยอยู่แล้วว่าบุตรสาวต้องโกหกเขาเพื่อแอบหนีไปอยู่กับคนรัก “อีฟ...พ่อมีลูกคนเดียว ในเมื่อแม่ของแกก็จากไปแล้ว ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้แกก็คงไปกับผู้ชายคนนั้นไกลแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นหนูจะกลับเมืองไทย กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับญาติของคุณแม่ที่เมืองไทย หนูไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว!” คำกล่าวตัดเยื่อใยนั้นทำให้อาร์โนลดวงตาวาวโรจน์
已经是最新一章了
加载中