ตอนที่ 2
“พ่อคงต้องเดินทางคืนนี้ ที่ให้ลูกมาที่นี่ก็เพราะพ่ออยากจะพาลูกไปเลี้ยงอาหารมื้อเย็นก่อนเดินทางไปโมนาโก”
“ค่ะ...คุณพ่อ”
“ถ้ายังไงเย็นนี้จะให้โธมัสพาลูกไปที่ภัตตาคาร...แล้วค่อยพบกันตอนดินเนอร์”
“ค่ะ”
ดาราวดีก้มหน้าขณะเฟอร์นันโดจูบบนเรือนผมเป็นคลื่นเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้มอย่างทะนุถนอมก่อนก้าวออกไปจากห้องนั้น ถึงแม้เธอจะเป็นลูกบุญธรรมของเขาแต่ชายผู้นี้คือแสงสว่างในชีวิตของเธอเสมอ เขารักเธอเหมือนลูกแท้ ๆ และทุกการแสดงออกก็ทำให้หญิงสาวไว้วางใจโดยปราศจากความเคลือบแคลงในรักที่บิดามอบให้ และภาพความห่วงใยระหว่างสองพ่อลูกก็อยู่ในสายตาของผู้พิทักษ์คนใหม่ซึ่งจ้องมองแน่วนิ่ง ประกายบางอย่างวาบขึ้นมาในดวงตาสีน้ำตาลเทาเข้มชั่วครู่ก่อนมันจะจมลึกและหายไปเหลือไว้เพียงความเยือกเย็นและสงบเงียบยิ่งกว่ามหาสมุทรไร้คลื่น
“ไม่ทราบว่าคุณยูบีอาอยากจะออกไปไหนหรือเปล่าครับ?”
คำถามจากน้ำเสียงทุ้มห้าวทว่าลุ่มลึกที่ดังขึ้นทำให้ดาราวดีที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาบุหนังเหลือบมองบอดี้การ์ดคนใหม่ของเธออีกครั้ง ตอนนี้ภายในห้องกว้างมีเพียงเธอและเขาเท่านั้น โดยปกติหญิงสาวจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนซึ่งเฟอร์นันโดจัดมาเพื่อคอยติดตามดูแลไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนหรือเดินทางไปที่ใด หากแต่วันนี้หญิงสาวกลับรู้สึกแปลกเปลี่ยนมากกว่าที่เคย อาจเป็นเพราะเธอยังไม่ชินกับผู้อารักขาคนใหม่กระมัง ดาราวดีทำสีหน้าเหมือนครุ่นคิดชั่วอึดใจ เธอเลื่อนสายตากลับไปยังบอดี้การ์ดร่างสูงสง่า ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและออกจะเครียดขรึมด้วยซ้ำ ยิ่งประกายตาสีน้ำตาลอมเทาเข้มคู่นั้นยิ่งขับความคมคร้ามของใบหน้าหล่อเหลาชัดเจน
“อืม...ฉันอยากไปร้านหนังสือน่ะค่ะ คุณรู้หรือเปล่าคะว่าในนิวยอร์คมีร้านหนังสือดี ๆ ที่ไหนบ้าง”
“ผมจะพาคุณยูบีอาไปครับ”
ชายหนุ่มตอบก่อนจะหันหลังให้และเปิดประตูออกขณะยืนรอหญิงสาว ดาราวดีรู้สึกแปลกใจในท่าทีของเขา ดูเหมือนโธมัสแทบไม่ต้องใช้เวลาคิดนานในการให้คำตอบ ร่างบางลุกจากที่นั่งและเดินตามบอดี้การ์ดของเธอตรงไปยังลิฟท์ความเร็วสูงเพื่อไปยังลานจอดรถของตึกไดมอนด์ เฟอร์รี่ โธมัสมีหน้าที่เป็นคนขับรถเมอร์เซเดส เบนซ์ กันกระสุนพาลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่อย่างเฟอร์นันโดออกสู่ถนนที่การจราจรคับคั่งในเขตควีนส์ กรุงนิวยอร์คซิตี้ เมื่อรถแล่นไปได้สักพักดาราวดีซึ่งนั่งอยู่บนเบาะด้านหลังจึงเอ่ยขึ้น
“โธมัส...คุณเป็นชาวนิวยอร์คหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ครับ...ผมมาจากกรีซ”
หญิงสาวเลิกคิ้ว “จริงเหรอคะ? คุณเป็นชาวกรีก อย่างนั้นเหรอคะ?”
“ครับ...บ้านของผมอยู่บนเกาะครีต”
“แล้วทำไมคุณถึงมาทำงานถึงที่นี่ล่ะคะ”
โธมัสชะลอความเร็วรถเล็กน้อย ชายหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวร่างบอบบางที่นั่งอยู่ด้านหลังผ่านทางกระจกหน้า เธอกำลังจ้องเขาอยู่ด้วยแววตาแสดงความอยากรู้
“ผมอยากทำงานที่ท้าทาย นิวยอร์คเป็นสถานที่ที่ท้าทายสำหรับผม”
“คุณคิดถึงบ้านบ้างหรือเปล่าคะ...เอ้อ...ขอโทษทีนะคะที่ซักไซ้คุณแบบนี้”
“ไม่เป็นไรครับ...คุณถามและผมมีหน้าที่ตอบ”
“จริง ๆ แล้วฉันมีแพลนว่าจะไปเรียนต่อที่นั่นปีนี้ค่ะ...แต่พอคิดดูอีกทีฉันรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม”
ดาราวดีกล่าวออกมาเหมือนพูดกับตัวเองลอย ๆ ขณะดวงตาคู่งามจ้องมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถที่มีแต่ยานพาหนะเต็มท้องถนน ดวงหน้าสวยหวานใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลเป็นคลื่นอ่อนงดงามยามแสงแดดบางเบาลอดฟิล์มกระจกหน้าต่างเข้ามาอาบไล้ เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทุกอิริยาบถอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่เหลือบมองในแทบทุกวินาทีที่เธอเผลอไผล หญิงสาวไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอมเทาเป็นประกายทุกครั้งที่สะท้อนภาพความงามเปล่งประกายนั้นไว้ สันกรามแกร่งบนใบหน้าคมคายนูนขึ้นเล็กน้อย