ตอนที่ 5
กำหนดการเดินทางไปยังประเทศโมนาโกที่เร็วขึ้นทำให้ดาราวดีต้องรีบเดินทางไปยังภัตตาคารเพื่อทานอาหารมื้อเย็นกับเฟอร์นันโดซึ่งเขารออยู่ก่อนแล้ว สำรับอย่างดีถูกเสิร์ฟภายในห้องอาหารพิเศษของภัตตาคารหรูใจกลางเขตควีนส์ กรุงนิวยอร์คและภายในห้องนั้นนอกเหนือจากเจ้าพ่อค้าหุ้นระดับโลกและบุตรสาวบุญธรรมก็มีเพียงบุคคลที่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะเท่านั้นที่เข้าไปได้ซึ่งนั่นก็หมายถึงบอดี้การ์ดคนใหม่ของดาราวดี เขายืนนิ่งเงียบในท่าทีสำรวมอยู่มุมหนึ่งภายในห้องอาหารที่แอร์เย็นฉ่ำขณะสองพ่อลูกนั่งทานอาหารที่โต๊ะและคุยกันท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนแสนสุข
“พ่อจะไปอยู่โมนาโกหลายวัน ลูกอยากได้อะไรบ้างไหม?”
ดาราวดีส่ายหน้า “ไม่ค่ะ...แต่คุณพ่อสัญญากับหนูได้ไหมคะว่าถ้าคุณพ่อกลับมาจะพาหนูไปกรีซ”
เฟอร์นันโดเงียบไปและขณะที่เขานิ่งเงียบนั้นทุกท่าทีอยู่ในสายตาของบอดี้การ์ดคนใหม่ตลอดเวลา มหาเศรษฐีติดอันดับโลกวัยกลางคนยกแก้วไวน์ขึ้นจิบก่อนจะกล่าวว่า
“แต่หนูก็จะไม่ไปเรียนที่นั่นแล้วนี่ไม่ใช่หรือ พ่อคิดว่าหนูล้มเลิกความตั้งใจจะไปที่นั่นแล้ว”
“ก็คุณพ่อบอกหนูเองนี่คะว่าคุณพ่อไม่ชอบที่นั่น หนูเลยไม่อยากขัดใจ แต่จริง ๆ แล้วหนูอยากไปสักครั้ง...คุณพ่อบอกว่าหนูเกิดที่นั่นไม่ใช่หรือคะ”
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เฟอร์นันโดบอกกล่าวแก่หญิงสาวตั้งแต่วัยเด็ก ดาราวดีรู้เพียงว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นชาวไทยให้กำเนิดเธอที่นั่นและเสียชีวิตที่นั่น...เกาะยูบีอา ประเทศกรีซ แต่พ่อบุญธรรมของเธอมักบ่ายเบี่ยงที่จะรับรู้เจตจำนงของเธอในการเดินทางไปยังสถานที่ฝังศพของมารดาเสมอ ตั้งแต่เล็กเธอไม่เคยขัดความประสงค์ของเฟอร์นันโด นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่หญิงสาวตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อยังประเทศอันเป็นที่กำเนิดของเธอเพราะรู้ว่าพ่อบุญธรรมไม่ชอบที่นั่นหากลึก ๆ แล้วเธอก็ยังใฝ่ฝันอยากไปเยือนสุสานของมารดาสักหน
“พ่อยังไม่รับปาก”
ใบหน้าของเฟอร์นันโดมีร่องรอยเคร่งเครียดขึ้นมาในฉับพลัน เขาหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปากขณะมองบุตรสาวบุญธรรมด้วยแววตาสื่อความหมายอะไรบางอย่าง
“ยูบีอา...หนูเป็นเด็กดีสำหรับพ่อเสมอมา และจะเชื่อฟังพ่อเสมอไปใช่มั้ย”
คำพูดแกมสั่งทำให้หญิงสาวต้องกลืนเอาสิ่งที่อยากพูดกลับเข้าไป ดาราวดีได้แต่พยักหน้ารับ
“ค่ะ...คุณพ่อ”
ไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้นนอกจากความเงียบเข้ามาแทนที่ ดาราวดีกินอาหารในจานของเธอต่อไปขณะที่เฟอร์นันโดตรวจเช็คตารางงานจากสมาร์ทโฟนของเขาที่มีเสียงเตือนของข้อความไม่หยุดหย่อนกระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องเดินทาง หญิงสาวเพียงกล่าวลาบิดาบุญธรรมที่หน้าภัตตาคารก่อนแยกจากกันที่ตรงนั้นขึ้นรถกลับบ้านโดยมีบอดี้การ์ดคนใหม่เป็นสารถี
“คุณยูบีอาไม่เคยไปประเทศกรีซหรือครับ?”
บอดี้การ์ดหนุ่มตั้งคำถามกับหญิงสาวที่นั่งบนเบาะหลังขณะรถแล่นออกมาไกลในช่วงเวลาที่แสงมะลังเมลืองแผ่ลงมาอาบยอดตึกสูงในมหานครที่การจราจรคับคั่ง
“ฉันเกิดที่นั่นค่ะ...ขอโทษด้วยนะคะที่ฉันไม่ได้บอกคุณ”
“ไม่เป็นไรครับ...แต่ท่าทางเหมือนพ่อของคุณจะไม่ชอบที่นั่น”
“ฉันเกิดที่เกาะยูบีอาและแม่ของฉันถูกฝังใว้ที่นั่น...พ่อบอกฉันแค่นั้น และท่านก็ไม่เคยบอกอะไรมากกว่าที่เคยบอกฉัน”
“คุณยูบีอาอยากไปที่นั่นหรือครับ?”