ตอนที่ 3
“มิต้องกังวลไปดอกราชองครักษ์ จักมิมีภยันตรายใดต่อองค์ชายาของท่านอ๋อง ในเมื่อนางก็ได้มาอยู่บนผืนแผ่นดินหลู่ซึ่งนับได้ว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับแคว้นฉีและในบัดนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นก็ยิ่งแนบแน่นมากขึ้นไปอีก นี่เป็นพระประสงค์ของหลู่อ๋องที่จะให้พระธิดาได้พักในตำหนักอันถือว่าวิจิตรงดงามยิ่ง พระองค์จะทรงมอบตำหนักร้อยไหมเป็นของขวัญอันล้ำค่าแก่องค์ชายา พระธิดาของฉีหวนกง พระปิตุลาขององค์ชายนั่นอย่างไร”
“แล้วเหล่าทหารกับข้าราชบริภารของพระธิดาเล่า พวกท่านจะให้เราอยู่ที่ใด” เจียนเจ้าถาม
“ข้าได้จัดที่พักไว้สำหรับพวกท่าน มิต้องเป็นกังวลอันใด แคว้นหลู่ยินดีต้อนรับคนจากแคว้นฉีเสมอ”
ราชองค์รักษ์จำต้องทำตามที่วั่งซูบอก ปล่อยให้คนขององค์ชายหลี่เจี๋ยนำพระธิดาจางลี่และนางกำนัลคนสนิทขึ้นเกี้ยวที่ได้เตรียมไว้ไปยังตำหนักร้อยไหมซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของวังหลวง ขณะนั้นหลินเจินซึ่งเดินตามขบวนไปไม่ห่างก็ให้เกิดความพะวักพะวงอย่างประหลาด ทุกอย่างดูไม่เหมาะเจาะแม้แต่น้อย
องค์ชายหลี่เจี๋ยรู้ว่าวันนี้องค์ชายาจะเดินทางมาถึงแต่กลับไม่ออกมาต้อนรับอ้างว่ามีภารกิจสำคัญทั้งที่เรื่องนี้ควรสำคัญกว่าเรื่องทั้งปวง แม้จางลี่จะเป็นธิดาของสนมปลายแถวแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นพระธิดาของฉีหวนกง ผู้ปกครองแคว้นฉีที่ใครต่างยำเกรง หากแต่นางก็พยายามสงบปากคำเอาไว้กระทั่งไปถึงวังน้ำขนาดใหญ่กว้างขวางสุดลูกตา มีสะพานทอดยาวไปยังตำหนักหินอ่อนอาบแสงแดดเป็นประกายระยับตรงกลางวังน้ำ เพียงวั่งซูและบุตรสาวเดินนำพระธิดาจางลี่และหลินเจินกระทั่งไปถึงตำหนัก หลินเจินถึงกับอ้าปากค้าง
“โอ...ท่านหญิง...ที่นี่ช่างงดงามยิ่งนัก ข้ามิเคยเห็นตำหนักใดงดงามเช่นที่นี้มาก่อน”
“ข้าดีใจที่พวกท่านคิดเช่นนั้น”
ฮุยอินเป็นผู้เอ่ยขึ้น น้ำเสียงของนางนั้นระรื่นหูและก้องกังวานใสดุจระฆังหากสายตากลับคมวาววับยามจับจ้องไปยังพระธิดาโฉมงามผู้มาเป็นองค์ชายาปาอ๋องแห่งแคว้นหลู่ จางลี่มัวแต่มองไปรอบ ๆ ตำหนักใหญ่โตกว้างขวางและโดดเด่นด้วยการตกแต่งอันวิจิตร วั่งซูยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเดิม
“พระธิดา...ตำหนักนี้ต่อไปข้างหน้าถือว่ามันจะตกเป็นสมบัติของท่านมันเป็นตำหนักที่องค์ชายหลี่เจี๋ยทรงมีรับสั่งให้สร้างขึ้นเพื่อได้ชมภาพความงดงามของสายน้ำ ดอกไม้นานาชนิด มีเพียงผู้แทนการค้าจากต่างแคว้นที่ได้เข้ามาชื่นชมความงามหากองค์ชายมิเคยมีพระบรมราชานุญาติให้ผู้ใดมานอนพักผ่อนแม้เพียงชั่วยามของราตรี ขอให้ท่านได้รื่นรมย์กับความงามนี้ก่อนที่องค์ชายจะเสด็จมาถึง ส่วนตัวข้าขอตัวกลับไปยังวังหลวง ต้องขออภัยด้วยหากมีสิ่งใดที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ”
“ขอบใจมาก ท่านวั่งซู มิมีสิ่งใดที่ข้าจะไม่สบายใจ แค่นี้ก็ถือว่าพวกท่านได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว”
จางลี่กล่าวก่อนหันไปชื่นชมภาพสายน้ำและไม้ดอกเมื่อวั่งซูเดินออกไปจากตำหนัก แต่แล้วกลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงก้องหวานใส
“ตำหนักนี้สร้างขึ้นเพื่อประสงค์ขององค์ชายที่จะได้ชมภาพความงามของสายน้ำและดอกไม้ หากก็หาได้มีไว้เพื่อประสงค์เดียวไม่”
“ฮุยอิน...”
จางลี่หันกลับมาเห็นบุตรสาวของพระอาจารย์ยังยืนยู่ นางจ้องมองมายังพระธิดาผู้งดงามของฉีหวนกงและนางผู้ติดตามด้วยสายตาคมวับ รอยยิ้มเล็ก ๆ แต่น่ากลัวผุดขึ้นบนมุมปากอาบสีแดงชาด
“ท่านอยากรู้หรือไม่เล่าว่าองค์ชายสร้างตำหนักร้อยไหมขึ้นมาเพื่อประสงค์อื่นใดนอกจากที่ท่านพ่อของข้าบอกไป”
“ฮุยอิน...”