ตอนที่ 4   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4
จางลี่ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นฮุยอินเดินไปหยุดที่หน้าระเบียง นางเหลือบมองลงไปยังวังน้ำใต้ตำหนักตามสายตาของบุตรสาวพระอาจารย์วั่งซูที่จ้องมองลงไป น้ำเบื้องล่างใสแจ๋วและมีกอดอกไม้ลอยชูช่อบานเบ่งกระทั่งฮุยอินดึงดอกไม้ประดับผมของนางโยนลงไป “ว๊าย!” หลินเจินเป็นคนร้องออกมาเมื่อจู่ ๆ น้ำไหวกระเพื่อมรุนแรงและปรากฏจระเข้ตัวใหญ่โผล่หัวของมันขึ้นมางับดอกไม้ก่อนดำดิ่งหายไปแต่ก็หาใช่เพียงตัวเดียวไม่เพราะไม่ถึงชั่วลมหายใจก็มีจรเข้อีกสี่ห้าตัวโผล่ขึ้นมาจากน้ำแหวกว่ายไปมาในน้ำใต้ตำหนักร้อยไม้อันลือชื่อว่างามหนักหนายังความตระหนกแก่ทั้งจางลี่และนางกำนัลผู้ติดตาม หลินเจินลืมตัวเข้าไปจับมือเย็บเฉียบของนายหญิงด้วยความหวาดกลัว ฮุยอินหันกลับมาเห็นองค์ชายาหน้าซีดหากนางกลับเหยียดยิ้ม “ต้องขออภัยที่ท่านพ่อของข้ามิได้ทูลให้พระธิดาได้ทราบว่าตำหนักร้อยไหมนี้นอกจากความงามวิจิตรอันเลือเลื่องแล้วก็ยังมีความน่ากลัวพอกัน” “นี่มันหมายความว่าอย่างไร” หลินเจินตั้งสติได้จึงถามขึ้น “เหตุใดองค์ชายจึงให้พระชายาประทับอยู่ในสถานที่น่ากลัวเช่นนี้” “ข้ามิรู้ดอกเพราะนั่นเป็นประสงค์ขององค์ชายหลี่เจี๋ย แต่ก็อยากให้องค์ชายาได้รับรู้ไว้เท่านั้นว่าหากมิมีความจำเป็นอันใดก็อย่าได้ลงไปเล่นน้ำใต้ตำหนักแห่งนี้” พอฮุยอินกล่าวจบก็มีทหารเกือบสิบนายถืออาวุธเดินเรียงแถวเข้ามาแล้วยืนเรียงแถวบนสะพานทอดข้ามจากแผ่นดินเข้ามายังตำหนักร้อยไหม ดูแล้วเหมือนว่ามาถวายการดุแลความปลอดภัยหากแต่จางลี่กลับมิได้รู้สึกดั่งนั้นเลย นางเหลือบมองจระเข้ที่ว่ายวนในน้ำเพิ่มมากขึ้นอีกหลายสิบตัวก่อนหันกลับไปยังฮุยอิน “จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องให้ทหารของหลู่อ๋องมาอารักขาข้ามากมายเช่นนี้เพราะข้าก็มีคนของข้าติดตามมาด้วย” “ข้ามิอาจตอบเรื่องนี้ได้ ท่านควรถามองค์ชายหลี่เจี๋ยเพื่อความกระจ่างใจควรจะดีกว่า...ข้าขอตัวก่อน” กล่าวจบนางก็หันหลังเดินจากไป ฮุยอินเดินกลับไปหาบิดาของนางที่นั่งรอบนเกี้ยวด้วยรอยยิ้ม นางขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวของวั่งซูก่อนพระอาจารย์เป็นฝ่ายถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้างฮุยอิน?” “อะไรหรือคะท่านพ่อ...ถ้าหากเป็นองค์ชายาของหลู่อ๋องแล้วล่ะก็ความจริงท่านน่าจะให้ทหารของเราจับพวกนางโยนลงไปให้จระเข้ใต้ตำหนักร้อยไหมกินเสียให้สิ้นซาก” “อย่าเพิ่งวู่วาม คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง พ่อบอกเจ้าหลายหนแล้วว่าการกระทำสิ่งใดเราต้องสงบจิตสงบใจและรอจังหวะเวลาอันเหมาะสม” “นี่หรือคือเวลาเหมาะสม? ไหนท่านพ่อเคยสัญญาว่าจะผลักดันให้ข้าเป็นองค์ชายาขององค์ชาย แล้วเหตุใดเล่าท่านจึงเห็นดีเห็นงามเมื่อฉีหวนกงยกธิดาให้เป็นราชินีแคว้นหลู่” “ใจเย็นไว้ฮุยอิน อย่าลืมว่าฉีหวนกงมีศักดิ์เป็นถึงพระปิตุลาขององค์ชายหลี่เจี๋ย” “ทั้งที่อ๋องแคว้นฉีสั่งฆ่าพี่ชายตัวเองกระนั้นหรือ” “นั่นนับเป็นโอกาสอันดี อย่าลืมว่าความแค้นนั้นเป็นของหวาน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วองค์ชายย่อมเก็บความเดือดแค้นไว้ รอวันสะสาง และเมื่อฉีหวนกงเสนอยกธิดาให้เพื่อกระชับสัมพันธ์ระหว่างแคว้นเจ้าคิดหรือว่ามันจะช่วยผ่อนเบาสิ่งที่เคยทำไว้กับหลานตัวเองได้ องค์ชายหลี่เจี๋ยเป็นถึงอ๋องแคว้นหลู่ เจ้าคิดหรือว่าผู้เป็นกษัตริย์นั้นจะทำสิ่งใดโดยมิคิดตรึกตรอง" “ท่านพ่อกำลังจะบอกอะไรข้า” “มิต้องเอ่ยตอนนี้ ต่อไปเจ้าจะเข้าใจสิ่งที่พ่อคิด ขออย่างเดียวเจ้าอย่าวู่วาม อย่าเอาแต่ใจ พ่อรู้ว่าเจ้าผูกใจรักองค์ชายมากเพียงไหน แต่เจ้าต้องยอมสูญเสียบางอย่างไปเพื่อผลประโยนช์ในภายภาคหน้า” ฮุยอินรับฟังแต่หัวใจของนางรุ่มร้อนมากขึ้นทุกที ความหวังที่จะได้เป็นชายาขององค์ชายหลี่เจี๋ยต้องพังลงตรงหน้า นางผูกใจรักอ๋องแห่งแคว้นหลู่มาแต่ไหนแต่ไร กลายกลับเป็นหญิงต่างเมืองเข้ามาครอบครองตำแหน่งแทนที่ ค่ำลงที่ตำหนักร้อยไหม หลินเจินเดินไปเดินมาภายในห้องอันงามวิจิตขณะพระธิดาจางลี่นั่งครุ่นคิดด้วยสีหน้าเป็นกังวล สักครู่หลินเจินก็เข้ามาคุกเข่าลงตรงหน้าและดึงมือเรียวบางของนายหญิงไปกุมไว้
已经是最新一章了
加载中