ตอนที่ 7
หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้างกับคำบริภาษรุนแรงจากบุรุษตรงหน้า นุชนาถสั่นไปทั้งตัว ถึงจะรู้ว่าเมมฟิสยังเข้าใจผิดเรื่องที่น้องสาวของเขาฆ่าตัวตายเพราะเธอเป็นมือที่สามแต่หญิงสาวก็แทบกระอักเมื่อได้ยินคำหยาบร้ายที่หลุดออกมาจากปากของเขา ร่างแน่งน้อยตัดสินใจลุกขึ้นอย่างเหลืออดทั้งไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาที่คอยแต่จะล้นออกมาให้อับอายได้
“ฉันจะไม่พูดกับคนที่ไม่มีเหตุผลอย่างคุณ เรื่องทุกอย่างจบลงแล้วและฉันก็ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง”
“มันยังไม่จบแค่นี้หรอกรีส และผมก็จะไม่มีวันเชื่อน้ำหน้าดาราใจทรามอย่างคุณเป็นอันขาด!”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด คุณมาที่นี่เพื่อจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยคะ ถ้าหมดธุระแล้วฉันก็จะได้กลับไปทำงานของฉันซะที”
“คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น รีส เบคเลอร์!”
คำพูดสุดท้ายนั้นทำให้ร่างบอบบางที่กำลังจะหันหลังให้ต้องหยุดชะงัก เธอจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่แท้แล้วราวกับมีเงาซาตานครอบงำ เมมฟิสเหยียดริมฝีปากออกและสืบเท้าเข้ามาใกล้ นัยน์ตาข้นขุ่นจ้องนุชนาถเหมือนอยากฉีกทึ้งตัวเธอให้หลุดออกเป็นล้านชิ้น ร่างเล็กในชุดราตรีเกาะอกถอยกรูดไปด้านหลังแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือหนาที่เปรอะเปื้อนหยาดเลือดเอื้อมมาคว้าไหล่เปลือยไว้แน่น หญิงสาวปากสั่นระริก
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉัน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นได้หรอกนะคะเมมฟิส”
“ทำไมจะไม่ได้ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของคุณเป็นของผมแล้ว”
“ว่ายังไงนะคะ...โอ๊ย!”
เธอร้องเสียงหลงเมื่อมืออีกข้างของเขาตวัดรัดเอวบางแล้วดันร่างน้อยเข้าหาตัวก่อนจะก้มหน้าลงไปหา นุชนาถพยายามดันหน้าอกแกร่งยิ่งกว่าหินศิลาด้วยมือทั้งสองข้างแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทำให้ชายหนุ่มสะทกสะท้านใด ๆ เลย
“คุณต้องไปฝรั่งเศสกับผมคืนนี้!”
“ปล่อยฉันนะเมมฟิส!...คุณบ้าไปแล้ว ฉันจะไปได้ยังไงในเมื่อคืนนี้ฉันต้อง...”
“ชีวิตซูเปอร์สตาร์ของคุณจบลงที่นี่ คืนนี้แล้วรีส เบคเลอร์”
“เมมฟิส...ปล่อยฉัน!”
นุชนาถพยายามส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกับความกักขฬะของเมมฟิสที่จู่โจมและคุกคามอย่างไร้เหตุผล ทว่ายิ่งขัดขืนดิ้นรนก็เหมือนยิ่งยุให้เขากอดรัดร่างบอบบางแน่นขึ้นจนเธออึดอัดหายใจแทบไม่ออก
“ทำไมฉันจะต้องไปกับคุณ!...ถ้าไม่ยอมปล่อยฉันจะเรียกผู้จัดการส่วนตัวมาที่นี่ ให้เขาพาตำรวจมาจับคุณข้อหาพยายามบังคับฉัน”
“ก็เอา!...ไปเรียกมาเลย” เขาเค้นเสียงและพ่นลมหายใจร้อนใส่แก้มนวลสีแดงเข้ม “ถ้าไม่อยากให้คุณยายของคุณต้องเดือดร้อนก็เชิญเรียกมาได้เลย!”
คำพูดนั้นทำให้นุชนาถถึงกับตาเบิกกว้าง หญิงสาวนิ่งอึ้งเหมือนอยู่ท่ามกลางพายุหมุนที่โหมกระหน่ำ ยิ่งตกใจใบหน้าสวยก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้นไปอีก
“เมมฟิส...นะ...นี่คุณพูดเรื่องอะไร คุณยายของฉัน...ทำไม”
“ผมก็แค่พา อาเคมิ คุณยายของคุณไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมก็เท่านั้น”
“คุณโกหกใช่มั้ย...เมมฟิส...คุณโกหกฉัน คุณทำอย่างนั้นไม่ได้แน่ๆ”
“คนอย่างผมทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ ถ้าคุณไม่เชื่อก็มาดูนี่!”
เมมฟิสกระชากร่างบางลงไปนั่งทั้งที่ยังกอดเธอไว้แน่นบนเก้าอี้รับแขกแล้วหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท มันเป็นสมาร์ทโฟนที่เขาเปิดโหมดวีดีโอก่อนพลิกจอมอนิเตอร์ให้นุชนาถดูด้วยหัวใจระทึก หญิงสาวแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อเห็นคลิปภาพในห้อง ๆ หนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคย มันเป็นห้องโล่งกว้างและเห็นวิวทะเลจากหน้าต่างห้อง
แต่สิ่งที่หญิงสาวจดจำได้เป็นอย่างดีคือหญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าร่างเล็กผิวขาวเหมือนหยวกและใบหน้ารูปไข่ใต้กรอบเรือนผมสีดอกเลาถูกมุ่นมวยไว้ด้านหลังมีปิ่นรูปผีเสื้อตัวเล็กปักไว้ หญิงสูงวัยอยู่ในชุดกิโมโนนั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมในห้องนั้นด้วยท่าทีสบาย ๆ ทว่าภาพนั้นกลับทำให้หัวใจของนุชนาถแทบแตกเป็นเสี่ยง