ตอนที่ 10
“ฮัลโหล...”
“คุณยาย...คุณยายคะ นี่หนูเองนะคะ”
“หนู?”
“นูจังไงคะ...นุชนาถไงคะคุณยาย”
“อ้าว...นี่ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์ของหนูนี่นา”
“เอ้อ...หนูพึ่งเปลี่ยนเครื่องใหม่น่ะค่ะ เครื่องเก่าของหนูมันเสีย”
“นั่นสิ...ถึงว่า...เพราะเมื่อเช้ายายพยายามโทรหาหนูก็ไม่มีใครรับสายเพราะหนูไม่ได้ใช้เครื่องเก่านี่เอง”
นุชนาถเจ็บจี๊ดในอกเมื่อได้ยินเสียงยายของเธอ เธอยอมรับว่าผิดเองที่เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเพราะต้องรีบมาเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงสำคัญโดยลืมไปสนิทว่าคุณยายของเธออาจติดต่อมาหา นี่ถ้าเธอได้รับโทรศัพท์จากอาเคมิตั้งแต่เมื่อเช้าก็คงไม่ต้อง...
“นูจัง...”
“คะ...เอ้อ...คุณยายเป็นไงบ้างคะ?”
“ก็...แปลก ๆ นิดหน่อย เมื่อเช้านี้ยายตกใจมากรู้มั้ยที่จู่ ๆ ก็มีคนมาที่บ้านตั้งสี่ห้าคน ตอนแรกยายนึกว่าเป็นคนจากกองถ่ายแต่พอเขาบอกว่าหนูให้มารับไปอยู่ที่ไหม่ใครก็ไม่รู้ทำไมหนูจะให้ยายย้ายมาอยู่ที่อยู่ใหม่ไม่เห็นบอกล่วงหน้ากันเลย”
คำถามนั้นทำให้นุชนาถน้ำตาไหล หากแต่เธอก็ต้องบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติเพราะกลัวว่าอาเคมิจะไม่สบายใจ
“หนูขอโทษนะคะที่ต้องให้คุณยายย้ายที่อยู่กะทันหัน คือว่า...หนูอยากให้คุณยายได้อยู่ในที่ที่...สบายน่ะค่ะเพราะว่าหนูจะต้อง...”
“มีอะไรเหรอนูจัง บอกยายมาสิลูก”
“หนูต้องเดินทางไปฝรั่งเศสคืนนี้ค่ะและต้องไปอยู่ที่นั่นหนึ่งปี”
เสียงอีกฝั่งเงียบไปชั่วอึดใจแต่เป็นห้วงเวลาที่นุชนาถรอคอยราวกับชั่วชีวิต แต่แล้วก็มีเสียงแหบแห้งตอบกลับมา
“หนูกำลังจะเดินทางไปฝรั่งเศส โอ...แล้วนี่หนูจะไม่กลับมาหายายก่อนหรอกหรือ”
“มันเป็นเรื่องด่วนมากค่ะ หนูปฏิเสธงานที่รับปากเขาเอาไว้ไม่ได้จริงๆ”
“แย่จัง...อืม...แต่ไม่เป็นไรหรอก ไปเถอะลูกเพราะตอนนี้หนูก็เป็นดาราดังแล้วนะ ยายอยู่คนเดียวได้ แค่หนึ่งปีถ้ามันจะดีต่ออนาคตของหนู”
“คุณยายขา...หนูจะ...โทรหาคุณยายทุกวันนะคะ”
“ได้ซีลูก...นูจังไปอยู่ไกลต้องรักษาตัวเองนะ”
“หนูรักคุณยายมากนะคะ”
“ยายก็รักหนู”
“คุณยาย...” นุชนาถกลั้นก้อนสะอื้นก่อนกรอกเสียงลงไปอีกครั้ง “หนูต้องไปแล้วนะคะ”
เสียงนั้นเบาหวิวก่อนหญิงสาวจะวางสายและเม้มปากเข้าหากันแต่แล้วเธอก็ต้องตระหนกเมื่อคางเรียวถูกนิ้วแกร่งบีบไว้แน่น เมมฟิสโน้มใบหน้าลงมาเกือบชิดและเค้นเสียงหนักหน่วง
“โทรไปบอกผู้จัดการของคุณด้วยว่าคืนนี้คุณจะไม่ไปงานพรมแดงและจะเดินทางไปฝรั่งเศสไม่มีกำหนดกลับ”
“เมมฟิส...”
นุชนาถน้ำตาไหลพราก ใบหน้าซีดสะบัดไปเล็กน้อยเมื่อเขาคลายนิ้วที่กดบนคางของเธอให้เป็นอิสระ
“คุณทำเกินไปแล้วนะคะ คุณบังคับฉันแบบนี้ไม่ได้”
“ผมทำได้!” เขากระแทกเสียงขณะเลิกคิ้วพร้อมทั้งขบกรามแน่น “คุณหนีผมไม่พ้นหรอกรีสเพราะสิ่งที่คุณก่อไว้มันเลวร้ายมากเกินกว่าจะให้อภัย”
“ฆ่าฉันสิคะ! ถ้าเกลียดฉันนักคุณก็ฆ่าฉันเสียเลย”
“ไม่!” เขาคำรามลึกและจ้องนัยน์ตาคู่งามที่มีน้ำหลั่งล้น “ให้คุณตายผมก็ยังไม่ได้ความสะใจ ผมจะให้คุณอยู่ชดใช้ความผิดอย่างทุกข์ทรมานจนแทบกระอักเลือดตายไปเลย!”
“ปล่อยฉันนะ”
“ทำตามที่ผมบอก! โทรไปหาผู้จัดการส่วนตัวของคุณเดี๋ยวนี้ บอกว่าคุณจะไม่รับงานใด ๆ ทั้งสิ้นนับจากนี้เป็นต้นไป”