ตอนที่ 3
มษยาเดินทางมาถึงนอร์ธเทิร์นซี อิงค์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทที่รับเธอเข้าทำงานก่อนเวลาที่ได้รับแจ้งทางจดหมายประมาณครึ่งชั่วโมง หญิงสาวร่างเล็กบอบบางอยู่ในชุดกระโปรงสีหวานสวมทับด้วยเสื้อสูทเพื่อให้ดูเรียบร้อยสะพายกระเป๋าพร้อมถือซองเอกสารก้าวเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเดินขวักไขว่ไปมา เธอรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ก้าวขึ้นรถแท็กซี่กระทั่งมาถึงและก้าวเข้ามาภายในตึกสูงกว่าแปดสิบชั้นซึ่งตั้งอยู่ใจกลางมหานครนางฟ้า เธอเงยหน้าขึ้นมองการตกแต่งอย่างอลังการภายในตึกขนาดใหญ่และยังนึกดีใจที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่โตถึงขนาดนี้ ร่างบอบบางยืนหันซ้ายหันขวาสักครู่ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปถามที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“เอ้อ...สวัสดีค่ะ”
มษยากล่าวทักพนักงานสาวสวยที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ?”
“คือว่า...ฉันได้รับการติดต่อจากบริษัทให้มารายงานตัวเพื่อทำงานที่นี่วันนี้น่ะค่ะ”
“มีเอกสารมาด้วยหรือเปล่าคะ”
“นี่ค่ะ”
หญิงสาวยื่นซองเอกสารให้พนักงานสาวรับไปเปิดดูสักครู่ก่อนจะยื่นกลับมาให้พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นว่า
“เชิญที่แผนกบุคคล ชั้นที่สามสิบนะคะ...ลิฟท์อยู่ทางด้านนั้นนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวชาวไทยรับเอกสารเอาไว้ก่อนจะเดินไปอีกด้านเพื่อขึ้นลิฟท์ตามที่พนักงานประชาสัมพันธ์บอก มษยากุมสายสะพายกระเป๋าไว้แน่นและก้มลงมองซองเอกสารที่เธอกดมันไว้แนบอกกับความรู้สึกตื่นเต้นมากเกินบรรยาย แม้ตำแหน่งที่เธอได้เข้าทำงานที่นี่จะไม่ใหญ่โตอะไร เป็นเพียงพนักงานบัญชีเล็ก ๆ แต่การได้รับเลือกให้มาทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ก็ทำให้หญิงสาวทั้งภูมิใจและตื่นเต้นไม่ใช่น้อย
หญิงสาวยิ้มกับตัวเองก่อนจะเงยหน้าและต้องหยุดชะงักพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่คลี่ออกเป็นรอยยิ้มคลายลงจนเป็นราบเรียบเมื่อสายตาคู่นั้นเลื่อนไปหยุดที่ด้านหน้าของลิฟท์และเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น มษยาหยุดนิ่งอยู่กับที่และจ้องมองร่างสูงใหญ่กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรที่แม้ตอนนี้จะอยู่ในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่คัตติ้งเนี๊ยบกริบซึ่งแตกต่างจากวันวานที่เธอเคยเห็น เขา หากทว่าแม้เพียงเสี้ยวหน้าอันคมคายหล่อเหลานั้นหญิงสาวก็ยังคงจดจำได้ดี
“เคน...”
เสียงเบาหวิวลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสั่นระริกพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วรัว และเมื่อเขาหันกลับมาหญิงสาวก็รีบหลบเข้าไปแอบที่ด้านหลังแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ มษยายืนชิดผนังและลอบมองผ่านช่องกิ่งก้านดอกไม้ก็เห็นว่า เขา คนนั้นยังคงจ้องมองมาก่อนจะหันกลับไปเมื่อประตูลิฟท์เปิดออก ใบหน้าคร้ามเข้มของหนุ่มอเมริกันผิวสีแทนเข้มหันมาอีกครั้งก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟท์ มษยาซึ่งยืนหลังชิดฝาเอามือปิดปากตัวเองพร้อมกับหยาดน้ำรื้นขึ้นมากบเบ้าตา
“เคน...คุณจริง ๆ ด้วย...คุณมาทำอะไรที่นี่”
หญิงสาวพูดกับตัวเองเบา ๆ และรู้สึกเหมือนมีแรงเหวี่ยงอันหนักหน่วงเข้ามากระทบความรู้สึกที่ถูกเก็บกลั้นเอาไว้เนิ่นนานข้างใน มษยายืนอยู่ตรงนั้นสักครู่ก่อนจะนึกได้ว่าเธอมาที่นี่ก็ไม่ใช่ด้วยจุดประสงค์อื่นใด นี่อาจเป็นเรื่องบังเอิญที่เธอได้พบกับ เขา คนนั้นโดยไม่คาดฝันในเมื่อเรื่องระหว่างเธอกับเขากลายเป็นเถ้าธุลีไปในอดีตแล้ว
ร่างบางยืดตัวยืนหลังตรงและกลอกตามองสูงเพื่อบังคับให้หยาดน้ำรอบเบ้าตาซึมกลับลงไปกับความคิดที่ว่าเธอต้องเข้มแข็งแม้เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังเล็ก ๆ ว่าอาจจะพบเขาอีกครั้งก็เป็นได้ หญิงสาวรีบเดินตรงดิ่งไปที่ลิฟท์ซึ่งมีสามตัวและก้าวเข้าไปในลิฟท์ตัวที่สามโดยไม่ทันได้สังเกตว่าลิฟท์ตัวแรกที่เธอเห็น เขาคนนั้น ก้าวเข้าไปมีป้ายระบุไว้ด้านหน้าว่า
Senior executive managing director
(สำหรับประธานกรรมการผู้บริหารระดับสูง)