ตอนที่ 5
ผู้ช่วยสาวยิ้มให้โดโรธีซึ่งยังนั่งจ้องมองเอกสารบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิดแม้จะยังรู้สึกตงิด ๆ กับสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในที่ทำงานก็ตาม
“เชิญด้านในเลยนะคะ มิสดารินทรา”
พนักงานสาวสวยของบริษัทหันมาเอ่ยกับมษยาเมื่อพาหญิงสาวชาวไทยซึ่งมีฐานะเป็นพนักงานใหม่มาหยุดที่หน้าบานประตูห้องหนึ่งบนชั้นที่หกสิบของตึกนอร์ธเทิร์นซี งหญิงสาวชาวไทยยิ้มให้อย่างประหม่าก่อนผลักประตูห้องเข้าไปเบา ๆ และก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ที่เธอถึงกับตกตะลึงในความโอ่โถงและอลังการของการตกแต่งสมกับเป็นห้องของท่านประธานเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ราวกับนี่เป็นห้องพักส่วนตัวมากกว่าจะเป็นที่ทำงานด้วยซ้ำ ภายในนั้นไม่มีตู้เอกสาร มีแต่โต๊ะทำงานซึ่งมีแลปท็อปเพียงเครื่องเดียว ด้านหลังมีชั้นวางโมเดลรูปเรือหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้หญิงสาวเผลอมองอยู่นานกระทั่งเธอได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อรุณสวัสดิ์...มิสดารินทรา”
มษยาชะงักกึกเมื่อสดับน้ำเสียงที่เธอเหมือนจะคุ้นเคยกับมันมาก่อน น้ำเสียงห้าวลุ่มลึกและเต็มไปด้วยความหนักแน่นที่ดังอยู่ข้างหลัง และเธอก็ไม่เคยลืมเลือนน้ำเสียงนั้นตลอดระยะเวลาเนิ่นนานหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปหากได้ยินเสียงฝีเท้าสืบเข้ามาใกล้ขณะร่างบอบบางยืนนิ่งและประสานมือไว้เบื้องหน้าด้วยปลายนิ้วกดเกร็ง เธอเกือบจะกลั้นหายใจกับความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายก่อนค่อย ๆ หันกลับไปเบื้องหลัง
“เคน...”
ริมฝีปากอิ่มระริกสั่นเปล่งเสียงลอดผ่านออกมาเบาแสนเบาพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างเล็กน้อย บุรุษร่างสูงสง่าในชุดสูทตรงหน้าคือคนคนเดียวกันที่เธอเห็นหน้าลิฟท์ซึ่งก็คือเขาจริง ๆ
เคน คลิฟตัน
“เคน...”
“อรุณสวัสดิ์ครับ มิสดารินทรา”
ชายหนุ่มเอ่ยประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง แม้เขาจะเรียกขานชื่อเธอไม่เหมือนดังเก่าทว่าน้ำเสียงที่เธอเคยได้ยินไม่แปลกเปลี่ยน ใบหน้าคร้ามเข้มภายใต้เรือนผมดกหนาสีบรูเน็ตเข้มขลับที่เธอเคยเห็นเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำเงินดุจท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรนั้นเปล่งประกายลุ่มลึกบนใบหน้าคมคายโหนกแก้มสูงรับจมูกโด่งยาวและริมฝีปากหยักหนาได้รูป เขาหล่อเหลาและดูภูมิฐานขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แตกต่างไปจากเมื่อก่อนซึ่งเขาเคยเป็นเด็กหนุ่มที่มักมีรอยยิ้มให้เธอเสมอ มษยาเกิดความคิดขึ้นมากมายแต่แล้วเมื่อตั้งสติได้และกำลังจะอ้าปากถามก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียก่อนว่า