ตอนที่ 7
แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้น้ำตาของหญิงสาวไหลหยดลงบนแก้ม นี่หรือคืองานแต่งในฝันของเธอที่ปราศจากงานเลี้ยงและการได้สวมชุดแต่งงานอย่างที่ผู้หญิงทุกคนไฝ่ฝันถึง ไม่มีเพื่อนเจ้าสาวและคำอวยพรจากบาทหลวง มีแค่กระดาษแผ่นเดียวที่เธอเซ็นชื่อลงไปเมื่อไหร่มันก็จะกลายเป็นกรงขังและโซ่เหล็กพันธนาการเธอไว้กับเจ้าบ่าวไร้หัวใจและแข็งกระด้างผู้เป็นประจักษ์พยานที่ไม่ต่างจากจอมซาตานผู้พร้อมสูบวิญญาณของเธอ
และนี่หรือคือการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวโดยมีชีวิตของคนที่เธอรักเป็นเดิมพัน ลลิลปวดร้าวแค่ไหนก็จำต้องเก็บความทุกข์ระทมไว้ก่อนจับปากกาด้วยมือสั่นเทาและค่อย ๆ จรดลมันลงในช่องว่างเหนือชื่อและนามสกุลของเธอทุกหน้ากระดาษที่มี
“คุณอา...จะยังให้ลิลอยู่ที่บ้านหลังนี้ใช่ไหมคะ?”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถามหลังเซ็นชื่อของเธอลงในปึกเอกสารไม่เว้นแม้แต่หน้าเดียว ร่างบางกุมเอกสารนั้นไว้ในมือตั้งบนเข่าทั้งสองที่แนบชิด บรรยากาศรอบตัวเธอและสามีตามกฎหมายเต็มไปด้วยความอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลลิลยังจำได้ว่าเวลาพบหน้าหุ้นส่วนใหญ่ของบิดาแทบทุกครั้งจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและการพูดคุยแม้ไม่มากระหว่างเธอและประธานบริหารล็อค ซาย แฟรคซิทรอนหากก็เป็นบรรยากาศที่อยู่ในความทรงจำของหญิงสาวเสมอ พัลเลเดียมเป็นผู้ใหญ่แม้อายุห่างกับบิดาของเธอนับสิบปีและห่างกับเธอหลายปีเช่นกันทว่าบัดนี้ราวกับมีกำแพงสูงใหญ่ขวางกั้นความผูกพันที่ไม่มีวันเหมือนเดิม
“ฉันจะขายบ้านหลังนี้ทอดตลาด”
เขาตอบสั้น ๆ แต่ทำให้หญิงสาวตาเบิกกว้าง
“คุณอาจะขายบ้านหลังนี้ แต่ว่า...”
“ถึงเธอจะไม่ได้อ่านสัญญานั่นแต่ก็ควรรู้ว่านับแต่นี้เธอเป็นเมียฉันและทรัพย์สินทุกอย่างก็จะตกเป็นสินสมรสของผัวกับเมียโดยอัตโนมัติ”
ลลิลทำสีหน้าไม่ถูก เธอได้แต่อึ้งด้วยวุฒิภาวะอันเยาว์ทำให้สาวน้อยวัยสิบแปดอันเป็นวัยที่พึ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยและยิ่งมาอยู่ต่อหน้าผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่างพัลเลเดียมด้วยแล้วยิ่งทำให้เธอเหมือนลูกนกอ่อนแอในเงื้อมเงากรงเล็บพญาอินทรีที่พร้อมขย้ำให้ตายได้ทุกเมื่อ
“เธอไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรทั้งนั้น เพราะนี่เป็นสิทธิ์ขาดโดยสมบูรณ์ของคนที่เธอยินยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาโดยไม่มีเงื่อนไข”
ชายหนุ่มยิ่งตอกย้ำขณะลลิลวางเอกสารทั้งหมดพร้อมน้ำตาหยดลงบนแก้ม เธอเก็บเสียงสะอื้นไว้ข้างในเพราะถึงร้องไห้ออกมาก็คงไม่ทำให้บุรุษตรงหน้านึกสงสาร
“นี่ก็แสดงว่าลิลไม่มีที่อยู่แล้วสินะคะ”
“ฉันจะให้เธอไปอยู่ที่เพนท์เฮาส์ของแพต พี่สาวของฉัน”