ตอนที่ 7 เสียการควบคุม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 7 เสียการควบคุม
ตอนที่ 7 เสียการควบคุม ทันทีที่คำพูดของตุงคินหลุดออกมา ทุกคนในห้องยกเว้นแก้วใจก็รู้สึกโกรธจนหน้าดำ เงินสองร้อยห้าสิบบาทกับห้าสิบล้านถ้าเอามาเปรียบกันก็ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ใครจะโง่พอที่จะยอมเสียเมล็ดแตงโมและเลือกเมล็ดงากัน ชนัดดามองดูเงินสองร้อยห้าสิบบาทบนโต๊ะชา มุมปากของเธอกระตุกขึ้นมา “อัยการตุงคิน คุณอย่าล้อเล่นกับพวกเราเลย วันนี้เป็นวันดีของหลานสาวเราและคุณเทพทัต สองร้อยห้าสิบบาทนี้ถือว่าเป็นของขวัญจากคุณก็แล้วกัน แล้วอย่าลืมมางานแต่งด้วยนะคะ” ชนัดดาประดิษฐ์คำพูดออกมาอย่างสวยงาม นอกจากจะปลอบคุณเทพทัตแล้ว ยังบอกเป็นนัยว่าตุงคินไม่สามารถนำเงินสองร้อยห้าสิบบาทมาปล้นการแต่งงานไปได้ คำพูดเมื่อสักครู่พวกเขาจะถือว่าไม่ได้ยินก็แล้วกัน ตุงคินยิ้มออกมาอย่างเงียบๆ เขาเบะปากเล็กน้อย “คุณนายชนัดดา คุณกำลังพูดเล่นกับผมหรอ เธอ ผมจองแล้ว” “คุณอัยการ คุณอย่าใช้อำนาจรังแกคนอื่นนะ” ธนชาตด่าออกมาอย่างขุ่นเคือง ”วันนี้หลานสาวผมแต่งงาน คุณตั้งใจจะมาก่อกวนใช่ไหม” “ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาก่อกวน ผมเป็นของเธอตั้งนานแล้ว” ใบหน้าของตุนคินเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ชี้ไปยังแก้วใจ ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง ในห้องนั่งเล่นมีสายตาหลายคู่มองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ แก้วใจยิ้มอย่างขมขื่น ใครช่างให้ความกล้าของเขามามากขนาดนี้กัน เขาบอกว่าเธอเป็นคนของเขา จะให้เธออธิบายว่าอย่างไร เธอชั่งน้ำหนักอยู่ครู่หนึ่ง ในนี้มีเพียงตุงคินที่สามารถช่วยเธอได้ ถ้าเธอไม่สู้ เธอก็ต้องแต่งงานกับเทพทัต เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ใช่ เขาเป็นคนของฉัน” “ยัยเด็กสมควรตาย เธอจะทำลายบ้านทองพิทักษ์จนย่อยยับเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ” ชนัดดาด่าออกมาอย่างโมโหและยกมือขึ้นหมายจะตบเธอ แก้วใจกดคอลงและหลับตาลงอย่างหวาดกลัว แต่หลังจากรอไปครู่หนึ่งเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น ตุงคินยืนอยู่ข้างหน้าเธอและจับข้อมือของชนัดดาไว้ “ผมจะคอยดูว่าวันนี้ใครจะกล้าตบเธอ” เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แต่ทุกคนในห้องก็ได้ยินกันอย่างทั่วถึง น้ำเสียงนั้นทำให้ทุกคนไม่กล้าที่จะลองดีกับคำเตือนนั้น มันช่างน่ากลัว “นี่คุณหมายความว่าอะไร” ธนชาตก้าวมาข้างหน้าถามอย่างเยือกเย็น “เธอเป็นคนของผม เธออยู่ในความดูแลของผม ตั้งวันนี้ไปใครก็ตามอย่าได้คิดจะรังแกเธอ คุณธนชาต ปีนี้เธออายุยี่สิบสองปีแล้ว เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถเลือกคู่แต่งงานเองได้ แต่การกระทำของพวกคุณในตอนนี้เป็นการบังคับแต่งงาน” เฉิงอี้เฉินเปิดปากพูดช้าๆและดวงตาดุจเหยี่ยวของเขาก็ส่องประกายข่มขู่ออกมา ธนชาตน้ำท่วมปาก ในใจมีแต่ความเจ็บปวด แก้วใจตอนนี้ไม่เพียงแต่เป็นหลานสาวของเขา แต่ยังเป็นชะตากรรมของบริษัท มูลค่าห้าสิบล้าน ห้าสิบล้านเลยนะ จะไม่ให้เขาเจ็บใจได้ยังไง “ไม่ได้ คุณเอาเธอไปไม่ได้ ฉันไม่ให้คุณเอาเธอไป!” ชนัดดาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง จับแขนของแก้วใจไว้มั่น ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อย แก้วใจรู้สึกอับอายในการกระทำของอาสะใภ้ หัวใจของเธอรู้สึกเย็นเยียบ นี่คงเป็นอำนาจของเงิน เมื่อก่อนยังว่าเธอเป็นกาลกินี ตอนนี้กลับไม่ยอมปล่อยเธอไป ใจคนช่างน่ารังเกียจจริงๆ “คุณชนัดดาการกระทำของคุณในตอนนี้คือจำกัดเสรีภาพส่วนบุคคล ผิดกฎหมายนะ” ตุงคินสอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เหมือนจะไม่มีความกังวลใดๆที่ต้องสู้กับบ้านทองพิทักษ์ “คุณ คุณพล่ามอะไร เธอเป็นหลานของฉัน จะถือว่าผิดกฎหมายได้ยังไง” ถึงแม้ว่าปากของชนัดดาจะพูดอย่างนั้น แต่มือที่จับอยู่ที่แขนของแก้วใจกลับสั้นขึ้นมาทันที อาชญากรรมที่เขาพูดนั้นดูใหญ่มาก เธอไม่อยากจะติดคุกหรอกนะ “แก้วใจ คุณจะยอมไปกับผมมั้ย” ตุนคินสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง อีกข้างยื่นออกมาตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยเป็นไปด้วยความชั่วร้าย เขาทำเหมือนสบายๆ แต่บรรยากาศนั้นกดดันจนไม่มีใครกล้ามองตรงๆ สายตาของทุกคนมองไปที่แก้วใจอีกครั้ง เธอดูเหมือนจะวิตกและหวาดกลัว มือที่บีบกันแน่นมีเหงื่อซึมออกมา เธอไม่กล้าแน่ใจว่าเมื่อทิ้งบ้านทองพิทักษ์ไปแล้ว เขาจะยังเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตเธอไหม เธอต้องการแน่ใจว่าตุงคินจะสามารถช่วยเธอได้ แต่ที่บ้านทองพิทักษ์มีคนที่สามารถช่วยเธอได้จริงๆหรอ เรื่องของพ่อ อารองไม่แม้แต่จะเดินเรื่องอะไรเลยเพียงแต่ทำลวกๆเท่านั้น ตุงคินเป็นนักกฎหมาย เธอต้องการทนายที่ดีคนหนึ่ง เธอหลับตาสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง วางมือลงบนฝ่ามือของเขา เพื่อช่วยพ่อของเธอ เธอคิด มือของเขาช่างอบอุ่น เขาดึงเธอลุกขึ้นมาจากโซฟา สายตาคมมองพุ่งไปที่ธนชาตและภรรยาของเขา การแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขานั้นช่างเป็นที่น่าพอใจจริงๆ “แก้วใจ เธอไม่ควรจะลืมบุญคุณอย่างนี้นะ” น้ำเสียงหนักๆของธนชาต ทำให้เธอหยุดเดินในทันที “ลืมบุญคุณหรอ อารอง หนูก็มีสิทธิที่จะไล่ตามความรัก จะเรียกว่าลืมบุญคุณได้อย่างไร และบ้านทองพิทักษ์ก็ยังมีกันทรอีกคนไม่ใช่หรือ บริษัทยังมีที่พึ่ง คุณเทพทัตน่าจะชอบคนที่ว่าง่ายหน่อยๆมากกว่านะคะ” แก้วใจตาโตเป็นประกาย ไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลย และที่เธอพูดมาก็เป็นเรื่องจริง ทำไมปล่อยให้เธอใช้หนี้คนเดียว ไม่ใช่มีกันทรอีกคนหรือ ให้กันทรใช้คืนสิ สีหน้าของทั้งสองหม่นลง โดนเธอถามกลับจนน้ำท่วมปากอีกหน ใช่ บ้านทองพิทักษ์ยังมีกันทรอีกคน แต่ในฐานะพ่อแม่ จะยอมเห็นลูกตัวเองกระโดดเข้ากองไฟได้อย่างไร ทั้งสองทำอะไรไม่ได้นอกจากหลีกทางให้พวกเขาเดินจากไป “เดี๋ยว หยุดก่อน คุณเอาภรรยาผมไป จะให้ผมทำยังไง” เทพทัตเห็นสถานการณ์ไม่ดีก็รีบถามอย่างรวดเร็ว ตุงคินหยุดเดิน และมองกลับไปอย่างช้าๆ “ คุณเทพทัต เรื่องนี้คุณควรถามพวกเขา ไม่ใช่ถามผม” ใช่ คนที่ตกลงค้าขายกับเขาคือกระตูลทองพิทักษ์ เขาควรจะไปถามเอาจากคนบ้านทองพิทักษ์ ใบหน้าของทัตเทพะครียดเขม็ง มองไปที่ใบหน้าอันสิ้นหวังของธนชาตและภรรยา ถามเสียงต่ำกว่า “คุณธนชาต ที่ตกลงเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพวกคุณก็เพราะมิตรภาพอันยาวนานของเรา แต่ตอนนี้คุณทำกับผมแบบนี้ จะให้ผมจัดการยังไงดี” “คุณเทพทัต ช่วยให้เวลาพวกเราอีกสักหน่อยเถอะ” ชนัดดาขอร้องอย่างขมขื่น “ให้เวลาอะไร คนก็หนีไปแล้ว จะให้ให้เวลาอะไรอีก” เทพทัตพูดออกมาด้วยเสียงเย็น ดวงตาของเขาแสดงออกมาอย่างเย็นชา “ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะ ถ้าอีกสามวันคุณยังไม่ให้ของแลกเปลี่ยนที่ผมพอใจล่ะก็ ผมจะไม่ใจดีกับพวกคุณอีกแน่” พูดแล้วสะบัดมือเดินออกไป ธนชาตและชนัดดาสบตากัน แล้วถอนหายใจออกมา นั่งลงบนโซฟาอย่างท้อแท้ ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้อากาศค่อนข้างเย็น แก้วใจใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ยาวถึงพื้น ทำให้เธอเดินอย่างยากลำบาก เธอเดินตามตุงคินจนเกือบจะสะดุดล้มหลายครั้ง นภวัตกางร่มคลุมบนหัวของตุงคินเกือบทั้งหมด เธอที่ยืนข้างๆเขาช่างดูน่าอายอย่างหาอะไรมาเปรียบได้ เธอเหยียบอยู่บนรองเท้าส้นสูง สองมือจับชุดแต่งงาน เดินอยู่ข้างๆตุงคินที่เดินอย่างสำราญใจ เหมือนเธอเป็นตัวตลก “คุณจะรอฉันหน่อยไม่ได้เลยหรือไง” ตุงคินหยุดเดิน แต่ขาข้างหนึ่งกลับเหยียบลงบนหลุมโคลน ทำให้น้ำโคลนสีดำสาดไปทั่วชุดแต่งงานของเธอ เธออ้าปากด้วยความตกใจ มองไปที่ชุดสีขาวเปื้อนโคลนของเธอ ทั้งตัวเธอยุ่งเหยิงอยู่ท่ามกลางสายลม คนคนนี้ตั้งใจใช่ไหม เขามองเธออย่างไม่ใส่ใจ คิ้วของเขาขมวดขึ้นอย่างหงุดหงิดและเดินขึ้นรถไป เฮ้อ เพิ่งออกมาจากบ้านทองพิทักษ์ก็เริ่มจะเย็นชาใส่เธอแล้ว เธอตามเขาไปติดๆ ขาข้างหนึ่งก้าวขึ้นรถ แต่แขนของเธอกลับถูกกันไว้ก่อน “สกปรก ทำความสะอาดแล้วค่อยขึ้นมา” บ้าชิบ คนบ้านี่สมองกลับหรือไง ฝนตกหนักขนาดนี้เธอจะทำความสะอาดได้ยังไง จะให้เธอกลับบ้านทองพิทักษ์เปลี่ยนเสื้อใหม่ออกมาหรือไง กลัวว่าเมื่อถึงเวลาเธอยังไม่ทันได้ออกมา ก็ถูกชนัดดากันไว้ก่อนน่ะสิ “ปล่อยผ่านหน่อยเถอะ” เธอยิ้มแหยๆขอให้เขาปล่อยให้เธอขึ้นรถ แขนของเธอถูกจับไว้ สายตาของเขาลึกล้ำยากจะคาดเดา พูดออกมาเสียงเย็น “ชุดเจ้าสาวสกปรก ช่างขัดตา ข้างในน่าจะใส่เสื้อผ้านะ” พูดแล้วไม่รอเธอตอบ มือใหญ่ของเขาก็เริ่มดึงชุดแต่งงานของเธอออกทันที ให้ตายเถอะ ตอนนี้เป็นประตูใหญ่บ้านทองพิทักษ์ เขายังกล้าทำผิดกฎหมาย แถมตอนนี้คนรอบๆก็ยังมีตั้งมากมาย เธออับอาย ขายหน้าไปถึงต้นตระกูลเธอแล้ว ชุดแต่งงานเนื้อดีถูกดึง ฉีกออกในทันที กระดุมด้านหลังก็หลุดออกทั้งหมด เขาทำเหมือนกำลังจับลูกไก่ เขาลากเธอขึ้นรถและปล่อยชุดแต่งงานก็ทิ้งไว้ใต้รถและขับออกไป โชคดี โชคดีจริงๆ แก้วใจตบอกตัวเองเบาๆ โชคดีที่ข้างในเธอใส่เสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กๆไว้ ทำให้เธอยังไม่ถึงกับขายหน้าขนาดนั้น แต่ตะกี้เขาโกรธใช่ไหม แปลกคนจริงๆ เธอไปกระตุ้นต่อมปีศาจของเขาเมื่อไหร่กัน ผมที่ม้วนไว้อย่างดีหล่นลงมาอย่างหลวม ๆ ผมของเธอก็เปียกไปด้วยหยดน้ำก่อนจะหยดลงบนใบหน้าของเธอ ทำให้ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอดูบริสุทธิ์เหมือนดอกบัว เธอรู้สึกหนาวเพราะสวมเพียงเสื้อสายเดี่ยวตัวเล็ก ๆ และกางเกงอุ่นๆของเธอ ก็เหมือนจะถูกความเย็นเข้าไปอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กหดตัวลงบนที่นั่ง ฟันของเธอกัดกันอย่างหนาวเย็น และร่างกายก็สั่นเทา แต่ชายที่นั่งข้างเธอกลับนั่งตัวตรง เมินเฉย ทำเหมือนมองไม่เห็น คนบ้า ผู้ชายคนนี้รู้บ้างมั้ยว่าอะไรคือความเป็นสุภาพบุรุษ เธอจะหนาวตายอยู่แล้วมั้ย แก้วใจสูดหายใจเข้าลึกๆ เปิดปากพูดอย่างหงุดหงิด “พี่นภวัต เปิดแอร์อุ่นขึ้นอีกหน่อยได้ไหมคะ” นภวัตก็นั่งตัวตรง สายตามองตรงไม่กล้าหันไปมอง พร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ “คุณแก้วใจ เรื่องนี้ต้องถามคุณตุงคินครับ” ถามเขา ก้นบึ้งของหัวใจรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทันที เธอเม้มปากจนริมฝีปากเป็นสีขาว “พี่นภวัต แต่คนเปิดเป็นพี่หนิคะ” พี่นภวัตคะ พี่นภวัตขา เรียกอย่างคล่องปาก ตุงคินตวัดสายตาไปมองนภวัตอย่างเยือกเย็น พอดีกับที่นภวัตมองไปที่กระจกส่องหลัง ทำให้เขามองเห็นสายตาเยือกเย็นนั้นทันที เขากลัวสายตาคมนั้นจนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่ได้ฆ่าใครเขาไม่ได้ก่อไฟอะไรใช่ไหม “แหะๆ คุณแก้วใจ เรียกผมผู้ช่วยนภวัตก็พอแล้วครับ” “เรียกว่าพี่นภวัตจะได้ดูสนิทกันหน่อยไงคะ” สนิทกันหน่อย นภวัตหัวเราะอย่างขมขื่น ถ้าสนิทกันต่อไปเกรงว่าคุณตุงคินจะเอามีดมาสับเขาเป็นชิ้นๆ ถ้ายังเรียกต่อไปชีวิตน้อยๆของเขาคงไม่เหลือแน่ๆ “อย่า อย่าเลย เรียกผมผู้ช่วยนภวัตเถอะ” สายตาของตุงคินเย็นชา ถอดเสื้อคลุมโยนลงบนร่างของเธอ เคลื่อนไหวอย่างดูดีโดยไม่ต้องหันไปมอง ผู้ชายคนนี้ทำเป็นเท่ห์หรอ แล้วจะสนใจทำไม เธอจะไม่ถูกแช่แข็งตายแล้วมากกว่าที่ควรสนใจ เธอรีบเอาเสื้อของเขาห่อตัวอย่างรวดเร็ว และก็ทำให้นภวัตแอบถอนหายใจออกมาอย่างเบาใจ “คุณตุงคิน ขอบคุณค่ะ” แก้วใจดึงมุมเสื้อของเขา แต่ในตากลมโต้กลับแฝงไปด้วยความไม่พอใจ เขาใช้เงินเพียงแค่สองร้อยห้าสิบบาทไถ่เธอออกมา คุ้มกับการลงทุนจริงๆ แต่คิดว่าตัวเองมีค่าแค่สองร้อยห้าสิบบาทก็เหมือนจะบ้าแล้วจริงๆ ต้องถูกขนาดนี้เลยหรอ หมูยังมีค่าแพงกว่าเธออีก นี่นับว่าซื้อขายแบบถูกๆใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว ตุงคินเม้มปากจนเป็นเส้นตรง สายตาแฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอให้เขารอสามวันเต็มๆ แล้วหลังจากนั้นเธอกลับจะแต่งกับเทพทัต เรื่องนี้สำหรับคนที่มั่นใจในตัวเองมาตลอดอย่างตุงคินถือว่าเป็นเรื่องน่าขันอย่างมาก มีแต่เขาเท่านั้นที่สามารถควบคุมอะไรก็ตามไว้ในกำมือของเขาได้มาตลอด แต่แก้วใจคนนี้กลับอยู่นอกการควบคุมของเขา การเสียการควบคุมนี้ทำให้เขาไม่พอใจจริงๆ “นี่ คุณมีมารยาทมั้ย ฉันพูดขอบคุณ คุณจะไม่พูดว่าไม่เป็นไรหน่อยรึไง ไม่พูดอะไรเลยหมายความว่าไง” เมื่อเห็นเขาหุบปากไม่พูดไม่จา เธอก็โพล่งออกมาทันที เธอไม่ชอบอะไรอย่างนี้ที่สุด “ความหมายก็คือ” ตุงคินค่อยๆหันตัวมาทางเธอ เขายกมุมปากยิ้มอย่างเย็นชา  
已经是最新一章了
加载中