บทที่003 ตบเขาอย่างแรงไปทีหนึ่ง
เย้เฟิงมองสีหน้าของเธอทนไม่ไหวขยับริมปากอีกครั้ง, “ไมลี่เคยพูดถึงฉันให้ผมฟัง, ยังเคยส่งรูปคู่ของพวกเธอให้ฉัน. ”
เชียวจือหยี่มองไมลี่อย่างสงสัย, ยัยคนนี้ส่งรูปเธอทำไม.
ไมลี่แลบลิ้นอย่างรู้สึกผิด, เธอแค่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับพี่เฟิงถึงจะคุยกันถูกคอ, ดังนั้นก็ได้พูดเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ, และที่พูดถึมากที่สุดก็คือเพื่อนที่สนิทที่สุดอย่างเชียวจือหยี่.
ไมหลินมองเชียวจือหยี่แวบหนึ่งแล้วก็ไม่สนใจอีก, เธอมือหนึ่งควงแขนเย้เฟิงไว้, พูดอย่างยิ้มอ้อน: “เฟิง, ตกลงกันแล้วว่าคืนนี้คุณคู่เต้นของฉัน, อย่าเย็นชากับฉันสิ! ไปเต้นกันเถอะ! ”
เย้เฟิงพยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก, ไม่รู้จะทำยังไงกับความขี้อ้อนเอาแต่ใจของไมหลิน.
หลังจากที่เย้เฟิงกับไมหลินหันหลังใบหน้าที่ยิ้มแย้มของไมลี่นิ่งลง, เธอถอยหายใจทีหนึ่งแล้วดึงไปนั่งลงด้านข้าง.
ข้างสระเต้นมีคนมากมายกำลังเต้นอยู่, ความสวยงามที่น่าหลงใหลนั้นปิดไม่อยู่, ไมลี่มองดูเย้เฟิงที่ราวกับเจ้าชายก็จิตเลื่อนลอย.
มองดูไมลี่จิตเลื่อนลอยทันใดนั้นเชียวจือหยี่ก็กอดคอเธอไว้, “แน่ใจนะว่ารักจริงๆ? ไม่ใช่แค่ความหลงชั่วคราว? ”
ไมลี่พยักหน้า, กลับพูดประโยคหนึ่งที่ดูไม่เข้ากัน, “ลูกที่เกิดจากพี่สาวฉันกับพี่เฟิงต้องน่ารักมากแน่, ภาพที่พวกเขาอยู่ด้วยดูแล้วสวยมากเลย, ดูเข้ากันมาก. ”
เชียวจือหยี่ทนไม่ไหวเคาะหัวเธอ, พูดอย่างจริงจัง: “ลูกที่เกิดจากเธอกับพี่เฟิงของเธอก็จะสวยมากเหมือนกัน. ”
ไมลี่หน้าแดงทันที, พูดอย่างเขินอาย, “พูดอะไรเนี้ย, พี่เฟิงไม่มีทางชอบฉัน, เขาคิดกับฉันแค่เป็นน้องสาวที่ไม่รู้จักโต. ”
เชียวจือหยี่ไม่พูดอะไรอีก, ก้มหน้าลงดื่มน้ำผลไม้, เธอนึกถึงหลินเซียงขึ้นมา
ความชอบของผู้ชายจะอยู่ได้นานแค่ไหนนะ?
ก็พูดไม่ได้ว่าหลินเซียงไม่ดีกับเธอ, นอกจากภาพที่เห็นวันนี้, เธอเชื่ออย่างที่สุดว่าหลินเซียงรักตัวเอง, และเขาเองก็พูดแบบนั้นตลอด, เพื่อนรอบตัวเธอก็พูดกันหมดว่าหลินเซียงเป็นผู้ชายแบบที่ถ้าไม่ใช่เธอเชียวจือหยี่ก็จะไม่แต่ง, แต่ว่าในความเป็นจริง
“เชียวจือหยี่, เธอออกมากับฉัน. ”หลินเซียงมาถึงข้างกายเชียวจือหยี่กะทันหัน, เอื้อมมือดึงเชียวจือหยี่ที่นั่งอยู่ลุกขึ้น.
“ทำอะไร? ”หน้าเชียวจือหยี่นิ่งลง, ใจก็เริ่มสั่นขึ้น, ในใจเข้าใกล้ขอบเขตความโมโห.
“หลินเซียง, นายทำอะไร, นายทำเสี่ยวจือเจ็บแล้ว. ”ไมลี่ยืนขึ้น, คิดจะดึงหลินเซียงออก.
หลินเซียงกลับเหมือนไม่ได้ยิน, ดึงเชียวจือหยี่แล้วเดินออกไปข้างนอก, เชียวจือหยี่สะบัดมือเขาออก, “ฉันเดินเองได้. ”
“เสี่ยวจือ” ไมลี่ยังอยากจะพูดอะไร, เชียวจือหยี่กลับโบกมือมาทางเธอ, “ไม่เป็นไร, พูดให้ชัดเจนก็ดีเหมือนกัน. ”
สวนดอกไม้บ้านไม, หลินเซียงมองเชียวจือหยี่อย่างอึดอัด, “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? พวกเธอรู้จักกันตั้งนานใช่ไหม, รักกันตั้งนานแล้ว? เธอล้อฉันเล่นเหมือนคนโง่เหรอ? ”
มองดูหลินเซียงที่พูดใส่ร้ายเชียวจือหยี่รู้สึกในตัวมีไฟร้อนเผาไหม้อยู่, อดกลั้นไฟโมโหนั้นเธอเปิดปากพูดอย่างนิ่งสงบ, “ใช่, รู้จักตั้งนานแล้ว. ”
“เชียวจือหยี่, เธอนี้มันน่าไม่อายจริงๆ, คิดไม่ถึงว่าเธอก็เป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินแบบนั้น, ขอแค่มีเงิน, ก็ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นชายแก่หรือไม่, เธอพูดเสมอไม่ให้ฉันแตะต้องเธอ, ฉันคิดมาตลอดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อรักตัวสงวนตัว, คิดไม่ถึงว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สกปรกแบบนี้, คิดจะเอาครั้งแรกไปขายใช่ไหม, บอกฉันมา, เธอขายได้เท่าไร, ฉันให้เธอ, เธอก็มาทำกับฉันครั้งหนึ่ง”
เพียะ
เชียวจือหยี่ตบเขาอย่างแรงไปทีหนึ่ง, ฝ่ามือหนึ่งนี้ใช้แรงทั้งหมดในตัวเธอไป.
เธอไม่เคยคิดว่าหลินเซียงจะมองเธอแบบนี้.
หลินเซียงมองเธอด้วยความตกใจ, ดวงตาทั้งคู่ราวกับไฟลุกไหม้ออกมา, ก้าวขึ้นไปคว้าแขนเชียวจือหยี่ไว้, มืออีกข้างรัดเอวเธอไว้แน่น, ก้มหน้าก็จะบังคับจูบเชียวจือหยี่. “