บทที่ 8 พี่สาวแสนสวย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8 พี่สาวแสนสวย
บทที่ 8 พี่สาวแสนสวย “พี่ครับ แล้วพี่เคยหลงเสน่ห์ผมบ้างหรือเปล่า ?” ธนเดชพูดไปพลางทำตาเปล่งประกาย จิดาภาเบือนหน้ามองบน ทำให้สายตาของทั้งคู่ปะทะกันพอดี เจ้าสุนัขจิ้งจอกน้อยก็กลับมาสุภาพอ่อนโยน สายตาแห่งการเฝ้ารอนั้น ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะบอกประโยคที่ทำให้เขาผิดหวังออกไป เธอรักษาหน้าด้วยการพยักหน้า เอ่ยขึ้น“หมูน้อย นายรูปหล่อขนาดนี้ แม่นายจะรู้หรือเปล่าว่า? ใครเห็นใครก็รัก ดอกไม้เห็นดอกไม้ก็เบ่งบาน...” “แล้วพี่จะรักผมไหม?” ธนเดชยิ้มมุมปากอย่างเขินอาย สายตายังคงอบอุ่นเช่นเคย ลองเอ่ยถามดูอย่างระมัดระวัง “แน่นอน! เพราะนาย เป็นคนแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าการมีพี่น้องนั้นดีจริงๆ!” จิดาภาพูดจริงจากใจ ครั้งแรกที่รู้ว่า ตัวเองมีพี่ต่างแม่ ในใจรู้สึกเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด! แต่ว่า การปรากฏตัวขึ้นของธนเดช ทำให้เธอรู้สึกว่า การมีน้องชายก็ไม่เลวเท่าไหร่ หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ รอยยิ้มจริงจังปรากฏบนใบหน้า ชั่วพริบตาไฟที่ลุกร้อนโชนในตาสลายหายไป “พี่ครับ ต่อไปผมจะปกป้องพี่เอง” ธนเดชตบบ่าเธอเบาๆ “พี่ครับ ให้ผมทายาให้นะครับ” จิดาภาไม่รู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรผิดไป ธนเดชราวกับผิดหวัง ดวงตานิ่งเรียบรีบเรียกสติกลับคืนมา เธอหันหลังให้กับเขาอย่างว่าง่าย “หมูน้อย นายคือที่พักพิงของพวกพี่ๆ” “พี่สาวผมมักจะรังเกียจผมอยู่เสมอ” ธนเดชแกะปมเชือกชุดด้านหลังออก แผลด้านหลังของเธอ มีบางแผลที่แห้งตกสะเก็ด และหลุดออกแล้ว ผิวหนังที่ขึ้นมาใหม่มีสีชมพูอ่อน เขาหยิบยาที่อยู่บนโต๊ะ ทาลงไปที่แผ่นหลังเธออย่างเบามือ นี่คืออีกวิธีการหนึ่งที่ทำให้ผิวที่ขึ้นใหม่ไม่เป็นแผลเป็น “กชจะต้องอิจฉาหน้าตานายแน่ๆ แม่คนเดียวกันแท้ๆ แต่นายหน้าตาดีกว่าเธอ” จิดาภาพูดแกมล้อเล่น “แล้วพี่ล่ะครับ? เพราะดูหน้าตาภายนอก จึงชอบน้องชายคนเล็กคนนี้ด้วยหรือเปล่า?” ธนเดชหัวเราะเยาะตัวเอง “อั๊ยหย่า นายรู้จนได้” จิดาภาทำเป็นตกใจ จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา ธนเดชหัวเราะขำ ทันใดนั้นจึงเอ่ยถามขึ้น :”ตอนที่พี่แต่งงานกับทัตพงษ์ก็เพราะดูที่หน้าตาเขาหรือเปล่า?” “...” จิดาภาไม่ได้ตอบ เขาชอบทัตพงษ์ ไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาใดๆ “พี่ครับ แบบนี้เรียกว่า หลงเพราะรูปลักษณ์หน้าตา ทัตพงษ์เป็นเพราะพี่รักเขาเขาเลยได้ใจ ดังนั้นก็เลยกลั่นแกล้งพี่” ธนเดชเอ่ยเสียงต่ำ น้ำเสียงนั้นฟังดูเกิดอายุและความเป็นผู้ใหญ่ของเขา “หมูน้อย เวลานี้ นายน่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ มิเช่นนั้น ฉันอาจจะฆ่าปิดปากนายก็ได้” จิดาภาเอ่ยเสียงแข็ง “พี่ครับ ผมกลัว กลัวจังเลย” ธนเดชแกล้งทำเป็นกลัว เพียงแสดงเกินจริงปนกับตลกไปหน่อย จิดาภาหัวเราะออกมา เมื่อเห็นเธอยิ้ม ธนเดชจึงเอ่ยขึ้น “งานแต่งงานของพวกคุณ นอกจากความรัก และความสัมพันธ์ในเรื่องผลประโยชน์แล้ว มันไม่ใช่รักที่บริสุทธิ์ ผมว่า เป็นเพราะพี่เสียดายตำแหน่งคุณหญิงตระกูลญาพนต์พี่ก็เลยไม่หย่า ไม่ได้เป็นเพราะรัก ดังนั้นเขาจึงใช้ตำแหน่งคุณหญิงนี้มาเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับพี่” “ตอนที่ฉันแต่งงานกับเขา ตำแหน่งคุณหญิงบ้านญาพนต์ไม่ได้มีคุณค่าใดๆเลย” จิดาภา ใจหนาวเหน็บไปชั่วขณะ ธนเดชก็ชะงักมือไปครู่หนึ่งเช่นกัน เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“ ทุกอย่างมันมีการเปลี่ยนแปลง เขาไม่ใช่ทัตพงษ์คนเดิมเมื่อห้าปีก่อนอีกต่อไปแล้ว พี่อาจจะไม่เคยคิดว่า พี่เป็นแค่ความอัปยศสำหรับเขา” สีหน้าของจิดาภาเปลี่ยนไป เอ่ยถาม: “เมื่อสักครู่ที่นายพูด มันหมายความว่าไง?” “เมื่อสามปีก่อน ที่คุณท่านนิธิศยื่นมือเข้าช่วย ช่วยให้บริษัทซีเอสสามารถผ่านวิกฤตนั้นไปได้ ท่านคิดว่า ทัตพงษ์จะจดจำบุญคุณครั้งนั้นไว้เสมอ และปฏิบัติดีต่อพี่ แต่การอยู่ของพี่ มันจะคอยย้ำเตือนทัตพงษ์ ว่าเขาเป็นแมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน ต่อให้ไม่มีพวกเล็กพวกน้อย หรือไม่มีผู้หญิงคนนั้น เขาก็ไม่มีทางรักพี่ พี่เป็นแค่เครื่องมือของเขา สามปีก่อน เขาขายศักดิ์ศรีตัวเองให้กับพี่แล้ว!” คำพูดของธนเดชปลุกให้จิดาภาตื่นจากฝัน จิดาภาตัวแข็งทื่อ ค่อยๆหันหน้ามา สายตาจ้องไปที่เขา เดิมทีจิดาภานอนตะแคงข้างอยู่ ธนเดชทายาให้กับเธอ เขาแกะสายชุดนอนออก แต่ลืมมัดกลับคืน ทันใดนั้น เธอเงยหน้าขึ้น หันหน้ามา ทำให้ชุดนอนบางๆไหลลื่นลู่ลงไปตามไหล่ของเธอ.... “ไอ้บ้า มองอะไรเนี่ย!” จิดาภารีบดึงขึ้นมา พร้อมจ้องเขม็งไปที่เขา “เอ่อ....พี่ ถ้าผมบอกว่าผมไม่เห็นอะไรเท่านั้น พี่จะเชื่อไหม?” ธนเดชรู้สึกเขิน จนต้องหันหน้าไปทางอื่น “เชื่อกับผีนายนะสิ!” จิดาภา เอ่ยขึ้นอย่างโมโห “มาเดี๋ยวผมช่วยมัดสายชุดนอนให้พี่” ธนเดชรีบเดินอ้อมเตียงไปอยู่ที่ข้างหลังของเธอ รีบมัดสายชุดนอนกลับคืนเช่นเดิมอย่างร้อนรน “ออกไป!” จิดาภาทำหน้านิ่ง ตวาดเขาให้ออกไป ธนเดชออกมาจากห้องนอนของเธอ ไปยืนพิงอยู่ที่กำแพงตรงระเบียงทางเดิน ด้วยอาการใจเต้นรัว จิดาภาได้ยินเสียงประตูห้องที่ปิดลง รีบใส่เสื้อชั้นใน และเปลี่ยนชุดนอนที่หลวมกว่า จากนั้นค่อยเปิดประตูออกมา ธนเดชยืนอยู่หน้าประตูเหมือนกับเด็กที่ทำความผิดมา รีบขอโทษอย่างจริงใจ“พี่ครับ ผมขอโทษ” “ฉันให้โอกาสนายทำบุญไถ่บาปในครั้งนี้ ด้วยการไปตามหาไม้เท้าที่หายไปให้เจอ ส่วนกล้องวงจรปิด เดี๋ยวฉันจัดการเอง” จิดาภาเอ่ยเสียงแข็ง “ผมจะไปเดี่ยวนี้เลย!” ธนเดชรับคำสั่ง วิ่งหายไปทันควัน จิดาภายืนอยู่หน้าบันได มองตามแผ่นหลังธนเดชที่วิ่งผ่านห้องโถงใหญ่ และออกไปยังประตูใหญ่ข้างนอก เธอก็เคยเป็นวัยรุ่นเหมือนกัน ก็เคยมีกำลังซุกซนเหมือนธนเดชเหมือนกัน ห้าปีที่แต่งงานกับทัตพงษ์มานี้ พลังความสดใสทั้งหมดมันสลายหายไปหมดแล้ว ในขณะที่เธอนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเกิดดังขึ้น เป็นสายเข้าจากเลขาตมิสา ช่วงสองสามวันที่เธอสลบไป กชนิภาก็ไปดูงานที่ต่างประเทศ งานในบริษัทค้างไว้เป็นกอง รอให้ไปจัดการ จิดาภารับโทรศัพท์ “มีอะไรหรอ?” “ท่านประธานคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ แฟนเก่าของบัณฑัตแฉรูปบนเตียงและตอนทำแท้งลงบน facebook !” เสียงตมิสาลอดออกมาอย่างรีบร้อน ชุติการีบเดินเข้าไปในห้องหนังสือ เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น ไม่นานก็หาpost นั้นเจอ และพบว่ามียอดแชร์ถึงพันกว่าครั้งแล้ว ห้าปีก่อน ตอนที่คุณตาของจิดาภาเสีย ปกเกศผู้เป็นพ่อแพ้การแย่งอำนาจในการบริหารบริษัทกับเธอ จากนั้นได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบุคคล ส่วนบัณฑัตคนนี้ เป็นคนที่ปกเกศดันขึ้นมา ว่ากันว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของตระกูลกุลชา ชุติกาเรียกเขาว่า รุ่นพี่ เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์กันจริงๆ จิดาภาเองก็เรียกบัณฑัตคนนี้ว่า รุ่นพี่ เหมือนกัน “คุณปกเกศล่ะ?” จิดาภาถามเสียงแข็ง “กำลังประชุมอยู่ในห้องประชุมค่ะ!” ตมิสา ตอบ “รีบไปประสานงานด่วน ฉันจะให้จัดงานแถลงข่าว” จิดาภาวางสาย รีบสางผมที่ยาวๆมัดรวบขึ้น ยื่นมือไปหยิบลิปสติกที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แต่งแต้มลงไปบนริมฝีปากจนแดงสวยงาม จากนั้นก็รีบติดต่อนักข่าว จิดาภานั่งอยู่หน้ากระจก แม้ว่ายังอยู่ในชุดนอน แม้สีหน้ายังคงขาวซีดอยู่ แต่ท่าทียังสดชื่นมีชีวิตชีวานัก ริมฝีปากสีแดงอันร้อนแรงงามไร้ที่เปรียบ สายตาอันเร่าร้อน ต่อให้ยังอยู่ในอาการป่วย แต่เธอยังเป็นเจ้าหญิงที่แกร่งกล้าสง่างามในทุกสถานการณ์ “เรื่องของบัณฑัตฉันได้ยินมาแล้ว พวกเธอมีแผนการรับมืออะไร?” จิดาภาเอ่ยขึ้นสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “ท่าประธาน ส่วนกลางได้ติดต่อไปหาแฟนเก่าของบัณฑัตแล้ว ฝั่งนั้นบอกอย่างผยองนัก ว่าต้องการแปดล้าน” “ขนาดเงินค่าตัวของบัณฑัตยังไม่ถึงแปดล้านเลย” “ท่านประธานค่ะ มือถือรุ่นใหม่ของบริษัทซีเอสก็กำลังจะเปิดตัวแล้ว ไม่นับกับฝีมือการแสดงที่ย่ำแย่ของเขาแล้ว มันยังส่งผลกระทบถึงยอดขายมือถือด้วยนะคะ แล้วเราจะเอาหน้าที่ไหนไปพอกับบริษัทซีเอสค่ะ?” “นายบัณฑัตคนนี้ ได้รับคำชื่นชมจากท่านประธาน แต่กลับไม่รู้จักรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดี ตอนนี้ก่อเรื่องถึงขั้นนี้ จะให้ทำยังไงดีเนี้ย?” “คุณจิดาภาค่ะ คุณรีบคิดหาวิธีแก้เถอะค่ะ!” จิดาภาตบโต๊ะ เอ่ยอย่างโมโห“ เกิดเรื่องอะไรมา ก็มาบอกแต่ฉันให้คิดหาวิธีแก้ แล้วฉันจะมีพวกคุณไว้ทำไมกัน?” “ท่านประธาน ท่านดูสิ เราสามารถไปปรึกษากับคุณทัตพงษ์เรื่องขอเปลี่ยนคนได้หรือเปล่า ในตอนนี้เหมือนว่าเราทำได้แค่ต้องปล่อยบัณฑัตไปแล้วค่ะ” ตมิสาเอ่ยขึ้น “ไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนคนตอนนี้ หุ้นที่ลงทุนไปและการโฆษณาก่อนหน้านี้ก็เสียหายเปล่า” ปกเกศเอ่ยขึ้น จิดาภาเกลียดชายชั่วคนนั้นมาก นายบัณฑัตคนนี้ ไม่มีค่าพอให้บริษัทต้องเสียเงินไปแก้ข่าวให้! “บริษัทบีทีเปลี่ยนฟรีเซนเตอร์มือถือถ่ายโฆษณาใหม่ ค่าลงทุนบากกับถ่ายทำโฆษณา เป็นบัณฑัตรับผิดชอบจ่าย ยังพอมีเวลาก่อนที่โทรศัพท์จะออกสู่ตลาด รีบหาคนที่เหมาะสมมาถ่ายโฆษณาตัวนี้ใหม่!” จิดาภารีบเอ่ยตัดบท โดยที่ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น
已经是最新一章了
加载中