ตอนที่ 10 ผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์ขนาดนี้คุณไม่สนใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10 ผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์ขนาดนี้คุณไม่สนใจ
ตอนที่ 10 ผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์ขนาดนี้คุณไม่สนใจ นารากดต่อสายภายใน สั่งให้คนยกกาแฟเข้ามา 2 แก้ว กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟผสมเข้ากับอากาศที่หนาวเย็นเล็กน้อย ประกอบกับแสงอุ่นๆจากดวงอาทิตย์ที่ส่งเข้าจากทางหน้าต่าง เข้ากับบรรยากาศได้น่าแปลก ที่มาของบรรยากาศแบบนี้ มาจากสายตาของปณิดา ดวงตาที่ละเอียดคู่นั้น คล้ายกับคิดอะไรบางอย่างอยู่ เหมือนมีอะไรจะพูด “คุณปนิดา คุณมีอะไรอยากจะถามฉันคะ” นาราแค่เสี้ยวนาทีก็อ่านใจเธอออก “ขอถามนอกเรื่องสักหน่อยนะคะ คุณสนิทกับคุณธีมนต์ไหม?” “ไม่สนิทเท่าไหร่ค่ะ” คำถามของเธอดึงดูดความสนใจของนารา เธอคิดจะทำอะไร? ตอนที่เห็นดวงตานักล่าของปนิดา นาราก็เข้าใจได้ทันที “งั้นทำไมเขาถึงต้องมาหาคุณด้วยตัวเอง” ปณิดาถามอยากแปลกใจ “อยากที่จะเชิญฉันเข้าไปทำงานใน เอส ที กรุ๊ป ในตำแหน่งที่ปรึกษาทนายความ แต่ฉันไม่สนใจ ปฏิเสธไปแล้ว!” ผู้ชายที่ทั้งดูดีมีเสน่ห์ขนาดนี้ คุณไม่สนใจเหรอ?” ปนิดาที่มองเธอเป็นศัตรู ก็เริ่มอ่อนลงเล็กน้อย นาราราวกับว่าได้ยินเรื่องตลก “ ผู้หญิงเรียกได้ว่าต้องสนใจผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์ทุกคนเลยเหรอ?” คำตอบกลับของเธอทำให้ปนิดาถึงกับหน้าหงาย สมองของปนิดาเธออยากครอบครองธีมนต์ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชา นาราเห็นดังนั้น ถามหยั่งเชิงกลับไป “ทำไมเหรอคะ หรือคุณปนิดา สนใจ?” สายตาปนิดาบอกได้เป็นนัย นารา ทำเสียงเสียใจ “แต่น่าเสียดายนะคะ ได้ยินมาว่าเขามีคู่มันแล้ว” “ใครกัน” สีหน้าของปนิดาเริ่มเปลี่ยน กลับเป็นใบหน้าที่ดูไร้อารมณ์ขึ้นมา แต่ก็ยังคงดูโหดร้าย “ลูกสาวคนโตของบริษัทนาโนเบย์ เหมือนชื่ออะไรแล้วนะ…….จรรย์ธร” “นังนั่นเหรอ” ปนิดาทำเสียงเยาะเย้ย แค่จรรย์ธรเรื่องจิ๊บจ๊อย ไม่อยู่ในสายตาเธอ ระหว่างที่ทั้งสองสนทนาพูดคุยกัน นาราทำให้เธอประทับใจไม่น้อย มองดูแล้ว สายตาที่เย็นชาของเธอดูไม่เหมือนทนายคนอื่นที่ชอบยกยอตัวเอง เธอปัดฝุ่นออกจากกระโปรงยาว จัดผมเล็กน้อย “คุณน่าจะคงเคยดูข้อมูลทางคดีของฉันมาบ้างแล้ว?” “ก่อนที่จะสัมภาษณ์ ต้องทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องหลังของลูกค้า เรื่องราวคดีที่ผ่านมาเป็นงานที่จำเป็น” วกกลับมาที่เรื่องงาน นารามีที่หน้าเข้มงวดและจริงจัง สายตาเฉียบแหลม สังเกตการณ์ท่าทีของปนิดาอยู่ตลอดเวลา ปนิดา ชอบความตรงไปตรงมาของเธอ “แต่ข้อมูลบอกได้ไม่ละเอียดครบถ้วน” ดวงตาเธอเบิกกว้างมีความกังวลอยู่ไม่น้อย หากคุณปนิดาไม่ถือสา ช่วยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้งได้ไหม?” ดวงตาปนิดาสั่นไหว มองเธอด้วยความแปลกใจ พยักหน้า บวกกับสายตาที่ผ่อนคลาย “สามีคนที่ 4 ของฉันชื่อ โมไนย อายุ 52 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอุดตัน อยู่อยู่อาการก็กำเริบและจากไปทันที” “ฝั่งของตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบไหม?” “เข้ามา แพทย์นิติเวชได้เขียนระบุในใบมรณบัตรว่า สามีของฉันเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุโรคกล้ามเนื้อหัวใจอุดตัน เป็นการเสียชีวิตแบบปกติทั่วไป” “งั้นแล้วทำไมคุณถึงต้องฟ้องร้อง?” ทันใดนั้นสีหน้าปนิดาก็เริ่มเปลี่ยน พร้อมทั้งอารมณ์ก็เปลี่ยนตามไปด้วย กินฟันพูดออกมา “สามีของฉันเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ตามหลักแล้วฉันมีสิทธิที่จะได้รับมรดกของครึ่งนึงของเขา แต่เขามีลูกชายที่เกิดจากภรรยาเก่าชื่อ นีติมัต เขาบอกว่าบริษัทสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพ่อกับแม่ของเขา ปฏิเสธที่จะยกมันให้กับฉัน แต่ที่น่ารังเกียจไปมากกว่านั้นคือ ขนาดชื่อบ้านก็ยังเป็นชื่อของไอผีนั่นและภรรยาเก่าของเขา นีติมัต ก็ยังเอาศพของพ่อตัวเองมาให้ฉันเป็นคนจัดการ และยังบอกอีกว่าฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะสืบทอดมรดก แล้วยังไล่ให้ฉันออกไปจากคฤหาสน์ ส่วนแม่ของเขาก็ตายไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ฉันนี่แหละที่เป็นคุณหญิงอย่างแท้จริง” นาราทนฟังเรื่องราวที่เธอเล่าจนจบ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ถามด้วยน้ำเสียงเข้ม “ก่อนที่คุณกับคุณโมไนยจะแต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน ได้มีการทำหนังสือรับรองทรัพย์สมบัติก่อนแต่งงานไหม”? ปนิดาส่ายหัว นาราหมุนปากกาในมือ เคาะลงบนเอกสาร หน้าตาครุ่นคิด ปนิดาไม่กล้าที่จะรบกวนเธอ คดีของเธอเองค่อนข้างจัดการยาก เธอรู้ ดังนั้นเธอถึงสืบเสาะหาทนายหลายครั้ง จนได้มาเจอเธอ นาราเอ่ยออกมากด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและทรงพลัง “ในเมื่อไม่มีพินัยกรรม และไม่ได้มีการทำหนังสือรับรองทรัพย์สินก่อนสมรสเอาไว้ ตามกฎหมายสืบทอดมรดก ในมาตรา 2 บรรทัดที่ 10 ระบุไว้ว่าหากผู้ตายไม่ได้ทำพินัยไว้อยากถูกต้อง ลำดับแรกของการสืบทอดมรดก ควรจะเป็นคู่สมรส ลูกชายลูกสาว พ่อแม่ อ้างตามข้อมูลที่คุณให้ฉัน เห็นได้ชัดว่าพ่อกับแม่ของคุณโมไนยเสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่สามารถเป็นผู้สืบทอดมรดกได้ และคุณเป็นผู้สืบทอดลำดับแรกตามกฎหมาย คุณมีสิทธิที่จะสืบทอดและรับมรดก……” ปนิดาฟังเธอวิเคราะห์แบบนี้แล้ว สายตาเริ่มดูสดใสขึ้น ตัดบทอย่างระวัง “คุณทนายนารา ถ้าหากฉันกับนีติมัตจะฟ้องร้องกันสักตั้ง จะชนะได้สักกี่เปอร์เซ็นต์?” เวลาค่อยๆล่วงเลยผ่านไป นาราวิเคราะห์คดีให้เธออย่างมีหลักการ กฎหมายมีเกณฑ์การเปรียบเทียบอย่างเป็นมาตรฐานของตัวมันเอง คุณกับคุณโมไนย ต่อให้แต่งงานกันอีกครั้ง คุณก็ได้รับสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย มีสิทธิ์ครอบครองมรดก นอกจากนั้นแล้ว สาเหตุเสียชีวิตของสามีคุณทางฝั่งของตำรวจก็เข้าไปทำการตรวจสอบแล้ว แพทย์นิติเวชก็ออกใบรับรองว่าคุณไม่เกี่ยวข้องกับการตายของสามีคุณ คุณก็ไม่ต้องสนใจที่นีติมัตพยายามบิดเบือนความจริง ต่อให้เขาจะกล่าวหาคุณในศาล ก็ไม่มีกฎหมายเป็นส่วนใดประกอบเป็นหลักฐานได้!” ปนิดา ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สายตาจ้องมอง “แต่ถ้าหากว่าต้องขึ้นศาลฟ้องร้องกันจริงๆฉันต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?” นาราก้มมองเอกสารที่เธอให้มา มีข้อมูลบางส่วนค่อนข้างจุกจิกและกระจัดกระจาย “ฉันจะให้คนติดต่อคุณเอง ถึงตอนนั้นผู้ช่วยของฉันจะไปขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณ อีกอย่างก่อนที่การสืบสวนคดีในศาลจะสิ้นสุด ฉันขอเตือนคุณ พยายามรักษาภาพลักษณ์ ห้ามแสดงข้อมูลด้านลบใดใดออกมา ให้ความประทับใจที่ดีต่อผู้พิพากษา เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไป!” นาราบ่งชี้แนวทางทั้งหมด เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ทั้งสองเข้าใจกัน ปนิดาฟังจบแล้ว ปิดปากยิ้มออกมา “ไม่ต้องเป็นห่วง ภาพลักษณ์ของฉันอยู่ในแง่บวกเสมอ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษผู้ชายน่าเกลียดคนนั้น ควบคุมส่วนล่างของตัวเองไว้ไม่ได้” ระหว่างที่นาราฟังเธอพูด ก็ผ่อนคลายเล็กน้อย ค่อยค่อยเอนหลังพิงกับเก้าอี้ ปนิดายืนหลังตรง ถอนหายใจ “จะทำไงได้ อายุเริ่มเข้าวัยทองอย่างฉันนี่แหละ มันถึงจะมีรสชาติ ผู้ชายมักชอบคนเหมือนฉันแบบนี้” ระหว่างที่เธอพูด ก็ขยิบตาให้นาราไปด้วย นาราจุดประเด็นต่อ จงใจพูดออกมา “ ลุคของคุณปนิดานี่มีประโยชน์กับผู้ชายมาก แต่ภูมิคุ้มกันต่อผู้หญิงมีแค่เล็กน้อย ไม่เท่ากับเก็บสะสมปริมาณไฟเอาไว้ รวบรวมเก็บไว้หลังจากที่ชนะคดีจะได้เอาไปไว้ที่คนที่สมควรวาง เธอบ่งชี้ถึง…..นิมนต์ ทั้งสองคิดไปพร้อมกัน ปนิดากระแอมออกมา “ฉันมีวิธีของฉัน” นารายิ้มเป็นเส้นตรงไม่เอ่ยออกมา รวบรวมเอกสาร ชี้แจงอย่างจริงจัง “เรื่องควรพูด ควรเตือน ฉันกำชับไปหมดแล้ว ต่อจากนี้จะต้องทำยังไง ก็อยู่ที่ตัวคุณแล้ว จำใส่ใจเอาไว้ว่าอย่าให้ฝ่ายตรงข้ามจับจุดอ่อนคุณได้เด็ดขาด” “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณก็เตรียมตัวทำให้ฉันชนะคดีนี้!” “ไม่มีปัญหา” นารายิ้มตอบอย่างมั่นใจ
已经是最新一章了
加载中