บทที่111 ตำหนักอ๋องโจว๋ต้องเอาคืนเจ้า2   1/    
已经是第一章了
บทที่111 ตำหนักอ๋องโจว๋ต้องเอาคืนเจ้า2
บทที่111 ตำหนักอ๋องโจว๋ต้องเอาคืนเจ้า2 “กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท” ท่านเสนาคุกเข่าถวายบังคมรับเสด็จฝ่าบาทก่อน ต่อจากนั้น โจว๋เส้ากางและโจว๋เส้าฉีก็น้อมนำคนตระกูลโจว๋ถวายบังคมตาม นายท่านโจว๋เพียงผู้เดียวที่เห็นฝ่าบาทแล้วไม่คุกเข่า ยังยืนเหนือพระองค์ ถางเปิ่นจิ้งตะโกนเสียงกร้าว “ทหาร! ปิดล้อมครตระกูลโจว๋ทั้งหมดเอาไว้! ใครกล้าขยับ สังหารอย่าให้เหลือ!” ฮ่องเต้อำมหิตหันไปมองหัวหน้าทหารค่ายทั้งสอง พูดเสียงเรียบ “วันนี้ตำหนักอ๋องโจว๋ครึกครื้นเชียวนะ! มีมากมายมารวมตัวกันที่นี่ สนุกมากกว่าที่ราชสำนักเสียอีก! ท่านเสนาอยู่ที่ใด?” ถางเปิ่นขุยลุกขึ้น “พ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้อำมหิตพูดด้วยเสียงโกรธเคือง “เจ้าเสนาคนนี้ทำหน้าที่อย่างไรกัน? ข้าสั่งว่าให้เจ้ามาประกาศราชโองการแต่งตั้ง ทำไมถึงประกาศสงครามกับตำหนักอ๋องโจว๋เล่า?” ถางเปิ่นขุยคุกเข่าน้ำเสียงเจ็บปวด “ฝ่าบาทโปรดทรงอภัยด้วย กระหม่อมจงรักภักดีต่อฝ่าบาท ทุ่มแรงกายแรงใจ มิบังอาจก่อความวุ่นวาย แต่มีบางคนไม่ได้คิดเช่นนั้น” ฮ่องเต้อำมหิตกล่าว “เจ้าลุกขึ้นพูดเถิด ที่นี่ไม่มีใครเป็นคนนอก....” ถางเปิ่นขุยตอบ “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” เขาลุกขึ้นมาหลังจากนั้นไปกระซิบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นข้างหูฝ่าบาท สุดท้ายยังเสริมเติมแต่งความคิดที่ตัวเองคาดเดาไปด้วย “ฝ่าบาท! กระหม่อมคิดว่าตระกูลโจว๋ขัดพระราชโองการ ต้องมีแอบซ่อนแผนร้ายไว้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!” โจว๋เส้าฉีแย้ง “แผนร้าย? แผนร้ายที่ว่าหมายถึงแผนที่ท่านเสนาต้องการทำลายตระกูลโจว๋ กระมัง!” ถางเปิ่นขุยพูดเสียงเย็นชา “พวกเจ้าทำผิดกฎหมายมามาก! อุกอาจจนวุนวายใหญ่โต!” โจว๋เส้าฉีพูด “เจ้าอย่าพูดพล่อยๆใส่ความผู้อื่นนะ!” ถางเปิ่นขุยพูด “ความผิดประการที่หนึ่ง น้องสี่ของเจ้าสังหารบุตรข้าที่ฉองเทียนโหล มีคนเห็นกับตา!” “ความผิดประการที่สอง!” “เจ้าสี่เปิดร้านหนังสือส่วนตัว พิมพ์หนังสือวางแผนก่อกบฏ! ทำให้พระเกียรติฝ่าบาทเสื่อมเสีย ความผิดโทษถึงประหาร!” “ความผิดประการที่สาม!” “แอบซ่อนกล่องเซิ้นของวิเศษราชวงศ์ วางแผนมุ่งร้าย!” ถางเปิ่นขุยพูดข่มคนอื่นๆ โจว๋เส้าฉีกล่าว “ที่พูดทั้งหมดเหลวไหลทั้งเพ!” ถางเปิ่นขุยหัวเราะ “เป็นเรื่องเหลวไหลหรือไม่ เจ้าสามบุตรตัวดีของเจ้าเอาเองซิ! ทหาร! เอาโจว๋หยุนถิงออกมา!” ทหารสองคนดึงตัวโจว๋หยุนถิงที่ถูกล่ามตรวนออกมาด้านหน้า โยนเขาลง ถางเปิ่นขุยหัวเราะเย็นชา “เจ้าถามเอาเองเถิด! โจว๋เจ้าสอง! หึ!” โจว๋หยุนถิงมองครอบครัว รีบพูด “ท่านพ่อ! ท่านปู่! ข้าไม่ได้ฆ่าถางเปิ่นเป้า! ข้าไม่มีวรยุทธ ทุกคนก็รู้ดี! ข้าจะวางแผนสังหารเขาได้อย่างไรกัน?” สีหน้าโจว๋เส้าฉีเจ็บปวด เขามั่นใจว่าโจว๋หยึนถิงถูกถางเปิ่นขุยใส่ร้ายป้ายสีอย่างแน่นอน ถางเปิ่นขุยหัวเราะเย็นชา “หลักฐานแน่นยังจะปฏิเสธอีกรึ? ฝ่าบาททรงประทานความสุขให้พวกเจ้า ทรงมีพระเมตตา หลีกเลี่ยงการไต่สวน รักษาหน้าตระกูลโจว๋! แต่พวกเจ้าเนรคุณพระเมตตาของฝ่าบาท ลืมบุญคุณโดยแท้!” โจว๋เส้าฉีเงียบไม่พูดอะไร มองโจว๋หยุนถิง เขาเป็นบุตรชายคนเดียว แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยความแค้น พูดไม่ออกสักคำ จิตใจนายท่านโจว๋บริสุทธิ์ จู่ๆเขากระแอมสองที หลังจากนั้นพูดว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมขอทูลสักสองสามคำ” ฮ่องเต้อำมหิตมิกล้าแสดงตัวไม่เคารพนายท่านโจว๋ “เชิญท่านโจว๋” นายท่านโจว๋พูด “ฝ่าบาท ถางเปิ่นเป้าจะตายได้อย่างไร? เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล ต้องตรวจสอบให้กระจ่าง! อย่าให้กล่าวหาใส่ร้ายคนดี! ส่วนหลักฐานหนักแน่นดั่งขุนเขาที่เสนาบดีพูดถึงนั้น เป็นฝีมือของเขาเอง จะกู่เรื่องขึ้นมาไม่ใช่เรื่องยาก” หลักฐานที่ถางเปิ่นขุยกู่ขึ้นมาเองนั้น แดงขึ้นมาแล้ว ถางปิ่นขุยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ไม่กล้าเอาผิดนายท่านโจว๋ ถางเปิ่นกางยังมาไม่ถึงนี่ซิ ถางเปิ่นขุยแอบอดกลั้นในใจ ฮ่องเต้อำมหิตพยักหน้า “ท่านกล่าวถูกต้อง! เรื่องนี้เดิมทีมีข้อน่าสงสัยมาก ที่จริงแล้วก่อนที่ท่านสนาจะมารายงานข้า ข้าก็สงสัยมาก จึงไม่เร่งร้อนลงโทษ ไม่กล่าวหาโจว๋หยุนถิงจนไม่ได้รับความเป็นธรรม” การสนทนาของสองคนนี้ มันทำให้คนที่อยู่ด้านข้างนั้นไม่เข้าใจนัก คืนนั้นนายท่านโจว๋อารักขาฮ่องเต้ขณะที่ไปตรวจสอบเรื่องกุหลาบดำที่ฉองเทียนโหล พวกเขาเห็นกับตาว่าถางเปิ่นเป้าถูกกุหลาบสีดำฆ่าตาย แม้นายท่านรู้ว่ากุหลาบดำคือซินเหยา ฆาตกรเป็นคนตระกูลโจว๋ แต่ว่าจะให้ถางเปิ่นขุยรู้ไม่ได้เด็ดขาด โจว๋หยุนถิงถึงตกเป็นฆาตกร! เรื่องนี้เป็นการใส่ความชัดๆ และรู้ว่านอกจากนายท่านโจว๋รู้เรื่องแล้ว ฮ่องเต้อำมหิตก็รู้ด้วย! ฮ่องเต้อำมหิตไม่กล้ากล่าวชี้หน้าโจว๋หยุนถิงเป็นฆาตกรต่อหน้านายท่านโจว๋อย่างแน่นอน แม้อัครเสนาบดีจะใส่ความได้ แต่เขาไม่มีทางใส่ความตระกูลโจว๋ได้! นายท่านโจว๋พูดต่อ “ส่วนหนังสือคัดค้าน อัครเสนาบดีดูหนังสือไซอิ๋วหรือ? ที่จริงข้าก็ดูหนังสือเล่มนี้แล้ว ความคิดในหนังสือเล่มนี้มหัศจรรย์ น่าชื่นชม! แต่พระถัมซังจั๋งในหนังสือมีความละม้ายคล้ายคลึงกับฝ่าบาท เรื่องนี้มีความน่าสงสัยอย่างหนึ่ง!” ฮ่องเต้อำมหิตพูด “ท่านมองเรื่องนี้อย่างไร?” นายท่านโจว๋พูดว่า “เรื่องนี้ไม่ใหญ่ไม่เล็ก! วาดฝ่าบาทเข้าในเรื่องราว นับว่าถือเป็นการไม่เคารพ! แต่ทว่า หากพูดในทางกลับกัน แม้พระถัมซังจั่งในเรื่องดูจุกจิกไปบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นผู้มีจิตใจดีเป็นตัวแทนของความถูกต้องและชัยชนะ! ขอทูลถาม นอกจากฝ่าบาทแล้วมีใครที่สามารถเป็นตัวแทนของตัวละครนี้ได้บ้างล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” ถางเปิ้นขุยพูดเสียงดัง “พูดเล่นลิ้น!” นายท่านโจว๋หน้านิ่ง “ตำหนักอ๋องโจว๋ยังต้องเอาคืนเจ้า!” ถางเปิ่นขุยคำรามแล้วถอยหลังไปสองก้าว! เขารู้ดีว่าไปยั่วยุนายท่านโจว๋คงไม่ดีนัก! ถ้ายั่วยุเขา แม้จะเป็นฝ่าบาทก็คงไม่ไว้หน้า! ตำหนักอ๋องโจว๋ยิ่งลำพองตัวสินะ! ทันใดนั้น ด้านนอกมีเสียงทรงพลังดังขึ้นมา! ทันใดนั้น เงาคนแก่รูปร่างอ้วนท้วนเหมือนภูตผีปรากฎตัว.... ถางเปิ่นขุยคารวะยินดี “หลานขอคารวะท่านอา!” ถางเปิ่นจิ้งตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนอย่างรวดเร็ว.......
已经是最新一章了
加载中