ตอนที่3 เริ่ม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่3 เริ่ม
กว่าดอกเตอร์บลูจะกลับมาถึงบ้านก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง ไม่ใช่เพราะว่าระยะทางจากเขื่อนถึงบ้านมีระยะไกลมาก แต่เป็นเพราะความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ เช่นต้นไม้รอบๆ ทาง ที่โลกเดิมของเขานั้นต้นไม้จริงๆ ได้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว แถมจะสถาปัตยกรรมต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งใหม่สำหรับดอกเตอร์บลู พอกลับถึงบ้านก็เล่นซะดอกเตอร์บลูเหนื่อยแทบขาดใจ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอาบน้ำยังไม่ได้ได้อาบ พอถึงห้องก็นอนสลบไปเลยบนเตียง เช้าวันใหม่ดอกเตอร์บลูก็ได้อาบน้ำแต่งตัวและหาอาหารเช้ารับประทาน ยังที่ที่ในครัวยังมีพวกขนมปังต่างๆ เลยใช้รองท้องก่อนได้ “ดอกเตอร์เราจะทำอย่างไรต่อไปครับ” เสียงของเดวิดดังขึ้นหลังจากที่ดอกเตอร์บลูจัดการขนมปังชิ้นสุดท้ายในมือเสร็จ จริงๆ แล้วดอกเตอร์บลูก็พึ่งมาถึงโลก ยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับโลกนี้มากนัก วัฒนธรรม ความคิด ผู้คน เป็นสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างคนของมิตินี้กับมิติเขา ตั้งแต่เขายังเด็กหลังจากที่ได้เลือกแผนกที่สนใจแล้วเขาก็ได้ฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งจะค้นพบมิติคู่ขนาดให้ได้และเขาก็ทุ่มเท ศึกษาค้นคว้า กับเรื่องนี้มาก จนกระทั่งละเลยการได้ใช้ชีวิตของตนเอง เพื่อน ความรัก เขาแทบไม่รู้จัก การค้นคว้าการวิจัยคือทั้งชีวิตของเขา ในตอนนี้เขาได้ทำความฝันที่ทุ่มเทอย่างหนักมาตลอดหลายปีได้สำเร็จ การค้นพบมิติใหม่นี้ ถึงแม้จะเป็นแค่เขาคนเดียวก็ตามที่ได้ค้นพบ ที่สำคัญในโลกมิติคู่ขนานนี้ก็เป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับดอกเตอร์บลู แม้ร่างกายนี้จะถูกดอกเตอร์บลูเข้ามาแทนที่แล้ว แต่ความต้องการลึกๆ ความฝันของเจ้าของร่างเดิมยังอยู่ “มันอาจจะเป็นโชคชะตาหรือว่าโอกาสที่ดีอีกครั้ง ที่ฉันจะได้ใช้ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ไอ้หนูร่างนี้เป็นร่างของเธอ ความคิดความรู้สึกทุกอย่างก็ยังเป็นของเธอ แม้วิญญาณของเธอจะไม่อยู่แล้ว แต่ความฝันของเธอยังคงอยู่ ฉันจะช่วยทำมันให้สำเร็จเองและฉันจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้เอง” ดอกเตอร์บลูได้ตัดสินใจด้วยความแน่วแน่ “ในเมื่อฉันอยู่ในโลกมิตินี้ ฉันก็ควรเป็นคนของโลกนี้ ต่อจากนี้ไปฉันก็คือหิน” หินเอ่ยขึ้น “เดวิด ฉันต้องการรู้ทุกอย่างในโลกนี้ โหลดตัวเองเข้าสู่เน็ตเวิร์คของโลกนี้ซะ และรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด ทำตอนนี้เลย” ‘รับทราบครับดอกเตอร์’ เสียงเดวิดดังขึ้นก่อนจะอัปโหลดตัวเองผ่านสัญญาณไวไฟในบ้าน ในโลกเดิมของดอกเตอร์บลู วิทยาการและเทคโนโลยีได้พัฒนาไปถึงระดับสุดยอด ระบบ AI แต่เดิมนั้นเป็นแค่เพียงระบบตอบรับกับผู้ใช้ แต่ในยุคของดอกเตอร์บลู AI ถูกพัฒนาไปจนถึงขีดสุด ระบบ AI ไม่ใช่แค่เพียงซอฟต์แวร์เท่านั้น ยังเป็นทั้งฮาร์ดแวร์และแอนดรอยด์ ระบบ AI ในโหมดซอฟต์แวร์นั้นไม่ได้อยู่ในสถานะโปรแกรมเท่านั้น แต่อยู่ในสถานะวิญญาณและสัญญาณ กล่าวคือ เมื่อเด็กคนหนึ่งให้กำเนิดขึ้นจะได้รับ AI บรรจุตั้งแต่ยังทารก ซึ่งเชื่อมไปถึงระบบประสาทและสัญญาณในสมอง นอกจากนั้นแล้วยังเชื่อมติดกับวิญญาณของเจ้าตัว ทำให้ AI เป็นเหมือน พี่น้อง เพื่อน ที่เจริญเติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กันและจะไม่มีวันทรยศอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้น AI ยังสามารถอัปโหลดตัวเองสู่ร่างแอนดรอยด์ที่เหมือนมนุษย์สุดๆ อีกด้ว ด้วยความสามารถนี้ทำให้การอัปโหลดตัวเองของเดวิดผ่านสัญญาณต่างๆ เป็นเรื่องง่ายอย่างมาก แม้จะมีความล้าหลังของระบบฮาร์ดแวร์อยู่บ้าง (** ขอเปลี่ยนจากการใช้คำว่าดอกเตอร์บลู เป็นหิน เพื่อง่ายต่อการดำเนินเรื่อง **) หลังจากที่ได้อ่านความจำของตัวเองทำให้หินทราบว่าช่วงนี้ก็คือช่วงปิดเทอมใหญ่ระหว่างรอเข้ามหาลัย ถือว่าเป็นช่วงนรกและสวรรค์ของเด็ก ม.6 เลยก็ว่าได้ เด็กบางคนสามารถติดโควตาเข้ามหาลัยได้ตั้งแต่แรกก็สบาย แต่เด็กบางคนยังไม่มีที่เรียนด้วยซ้ำและนั่นก็คือช่วงนรกสุดๆ และหินในตอนนี้ก็กำลังอยู่ในนรก ฟ้าและกรต่างก็สอบเข้ามหาลัยได้ตั้งแต่แรกๆ มีเพียงแค่หินเท่านั้นที่สอบไม่ติดและอีกหนึ่งอาทิตย์ถัดไปนี้คือการสอบรอบสุดท้ายแล้วมันทำให้หินคนเก่านั้นเครียดเป็นอย่างมาก “อีกหนึ่งอาทิตย์สินะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าระบบของโลกนี้เป็นยังไง อย่างแรกก็ต้องหาความรู้” หินจำได้ว่าไม่ไกลจากบ้านนักมีร้านหนังสืออยู่ร้านหนึ่ง ถ้าเดินไปใช้เวลาแค่เพียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้น และนี่คือจุดหมายปลายทางในวันนี้ จากนั้นหินก็จัดการตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินทางไปยังร้านหนังสือ เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดหินก็ได้มาถึงร้านหนังสือ จริงๆ แล้วถ้าเดินตรงมาร้านหนังสือเลยต่อให้เดินช้าเต็มที่ก็ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที แต่ในระหว่างทางเดินมันเต็มไปด้วยความแปลกใหม่สำหรับหิน ทั้งรถยนต์ ผู้คน การแต่งตัว นั่นทำให้กว่าหินจะเดินมาถึงก็ปาเข้าไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เมื่อหินเดินเข้ามาในร้านหนังสือทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ในโลกเดิมนั้นหนังสือได้ถูกทำลายไปจนเกือบหมด ผู้คนศึกษาหาความรู้ผ่านดิจิตอลเท่านั้น ในช่วงเช้าผู้คนยังไม่เยอะมากนัก หินไม่ต้องการเสียเวลาจึงเดินเข้าไปหาโซนหนังสือที่ตัวเอ็งต้องการทันที นั่นคือหนังสือพวก คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และหนังสืออื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการใช้สอบ เมื่อพบแล้วหินจึงเริ่มอ่านทันที ถ้ามีใครผ่านมาเห็นหินเข้าก็คงเข้าใจว่าหินกำลังอ่านหนังสือผ่านๆๆ เพื่อเลือกดูเท่านั้นแต่จริงๆ แล้วหินก็แค่อ่านผ่านๆ แต่เขาสามารถจำมันได้หมด มากไปกว่านั้นยังสามารถสังเคราะห์ความรู้ที่รับมาได้อีกด้วย หินใช้เวลาทั้งวันอยู่ในร้านหนังสือ จนกระทั่งเย็น “น้องคะ อีกสักครู่ร้านจะปิดแล้วนะคะ” พนักงานสาวเดินเข้ามาบอกหิน ก่อนที่จะเดินไปเก็บร้าน เสียงพนักงานที่ดังขึ้นทำให้หินรู้สึกตัว จากนั้นหินจึงเก็บหนังสือเขาชั้นก่อนที่จะเดินออกจากร้าน “อ่า หิว นี่อ่านจนลืมกินข้าวเที่ยงจนได้” มันยังคงเป็นนิสัยเก่าที่ยังแก้ไม่หาย เมื่อไหร่ที่มีสมาธิกับอะไรมากๆ จะทำให้หินลืมตัว เสียงกระเพาะที่ร้องดังออกมาทำให้หินต้องมองหาร้านอาหารเพื่อมาเติมเต็มกระเพาะของตัวเอง ก่อนที่หินจะหันไปเจอร้านโจ๊กร้านหนึ่งซึ่งคนก็ไม่ค่อยเยอะนัก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้าน “เถ้าแก่ โจ๊กหมูใส่ไข่ ถ้วยหนึ่ง” ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะมองหาโต๊ะนั่ง ก่อนที่เหลือบไปมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่หมวกใส่แว่นแต่งตัวลึกลับคนหนึ่ง ‘ท่าจะบ้าละ ใส่หมวกใบใหญ่กับแว่นดำหนาเตอะในตอนกลางคืนเนี่ยนะ’ หินคิดขึ้นในใจ ระหว่างที่กำลังนั่งรอโจ๊กที่สั่งนั้น ผมก็มองไปเห็นเด็กคนหนึ่งที่อยู่อีกฟากของถนนซึ่งเด็กคนนี้มองมาที่ร้านด้วยสายตาคาดหวัง ผมจึงกวักมือเรียก เมื่อเด็กคนนั้นเห็นผมกวักมือเรียก จึงหันซ้ายหันขวามองหาคนอื่นเพราะไม่มั่นใจว่าหินนั้นเรียกตนเองหรือไม่ พอไม่เห็นใครจึงชี้มาที่ตัวเอง เห็นดังนั้นหินจึงพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า ใช่เธอนั่นแหละ เมื่อรู้ว่าเป็นตนเด็กคนนี้จึงได้เดินข้ามฟากมายืนอยู่หน้าร้าน ก่อนที่จะมองเข้ามาหาหินด้วยความไม่มั่นใจ “ไม่หิวเหรอ เข้ามาสิ” หินยิ้มขึ้นพลางเรียกเด็กคนนี้เข้ามา เด็กคนนี้จึงเดินเข้ามาช้าเหมือนยังคงหวาดระแวงและไม่ไว้ใจใคร ก่อนที่จะมานั่งอยู่ข้างหน้าตรงข้ามหิน ทำให้หินได้มีโอกาสได้พิจารณาใกล้ๆ เด็กคนนี้อายุ10กว่าขวบเนื้อตัวมอมแมม สวมใส่เสื้อผ้าที่เก่าและฉีกขาดมีท่าทางหวาดระแวง แววตาของเด็กคนนี้เต็มไปด้วย ความกลัว ความหิวโหย ความคาดหวัง ทำให้หินอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่า เด็กอายุแค่นี้ทำไมถึงต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายมากมายขนาดนั้น “สั่งอาหารก่อนสิ” หินเอ่ยขึ้น “...” แต่เด็กคนนี้ไม่ตอบกลับก้มหน้า หินเลยหันไปสั่งให้ “เถ้าแก่โจ๊กหมูใส่ไข่เพิ่มอีกถ้วยหนึ่ง” สักครู่เถ้าแก่จึงเอาโจ๊กมาเสิร์ฟ “มาแล้วๆ โจ๊กร้อนๆ ” พอเสิร์ฟเสร็จเถ้าแก่ก็มองไปที่เด็กเร่ร่อนคนนั้นก่อนจะมองกลับมาที่หินด้วยแววตาล้ำลึก “ขอบคุณมากเถ้าแก่” หินเอ่ยขึ้นก่อนจะเริ่มใช้ช้อนตักโจ๊กเข้าปาก แต่เด็กตรงหน้าเขาก็ยังคงก้มหน้ากำมือนิ่ง “กินสิเดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน” หินเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่เด็กคนนี้ก็ยังคงนิ่งไม่ขยับเหมือนเดิม “โลกมันก็ไม่ได้โหดร้ายไปหมดทุกอย่างหรอกนะ ตราบใดที่เธอยังคงมีความหวัง ความพยายาม ความอดทน สักวันหนึ่งมันจะเป็นวันของเธอ แต่ตอนนี้เธอต้องกินจะได้มีแรงสู้ต่อไปได้” เมื่อหินพูดจบก็ทำให้เด็กคนนี้ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ ก่อนที่จะเริ่มทานโจ๊กตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว ทำให้หินยิ้มขึ้นมาบางๆ “เถ้าแก่เพิ่มอีกถ้วย” เมื่อหินเห็นความเร็วในการทานจึงรู้ว่าแค่ถ้วยเดียวเด็กคนนี้ไม่น่าจะอิ่มจึงสั่งเพิ่มทันที ผ่านไปชั่วครู่ความเร็วในการกินของเด็กคนนี้ก็ช้าลง อันที่จริงหินก็ทานโจ๊กของตัวเองเสร็จไปนานแล้ว เพียงแต่กำลังนั่งมองเด็กคนนี้ทานอีกสองถ้วยที่สั่งเพิ่ม เมื่อทานถ้วยสุดท้ายเสร็จเด็กคนนี้ก็ลุกขึ้นและมองมาที่หินด้วยสายตาขอบคุณก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว หินไม่ได้กล่าวอะไรจึงเรียกเถ้าแก่มาเก็บเงิน ก่อนที่จะเดินกลับบ้านไป
已经是最新一章了
加载中