ตอนที่6 เปย์
ตั้งแต่เดินจากร้านจนถึงบ้านหินและเด็กคนนี้ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เด็กคนนั้นทำเพียงแค่เดินตามหลังหินมาอย่างเงียบๆเท่านั้น
“ เอาหล่ะนี่คือบ้านของเรา ” หินเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่ได้ผลซักเท่าไหร่
“ตอนนี้เราคือครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอะไรก็ให้พูดคุยกัน ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าอดีตที่ผ่านมาของเธอต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ถ้าเธอไม่อยากพูดฉันก็จะไม่ถามถึง ” หินพูดพลางเดินไปที่ห้องอีกห้องที่เหลืออยู่ในบ้าน บ้านของหินเป็นบ้านเดี่ยวสามห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตัดห้องของหินและพ่อแม่หินออกก็เหลือห้องว่างอีก 1 ห้องพอดี
“นี่คือห้องของเธอ มันอาจจะดูรกไปหน่อยแต่ก็อยู่ได้ ฉันชื่อหิน ต่อจากนี้เธอก็เรียกฉันว่าพี่หิน ว่าแต่เธอชื่ออะไร ” หินรู้สึกเขิลไม่น้อย โลกเดิมของหินอายุก็เกือบเข้าวัยทองไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาให้เด็กอายุสิบกว่าขวบเรียกพี่
เงียบไปซักพักหนึ่งเด็กคนนี้จึงตอบกลับมา
“ชื่อแทน ครับ”
“เอาหล่ะแทน ไปอาบน้ำนอนซะพรุ่งนี้ยังมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ ” หินพูดจบก็เดินกลับห้อง
“ขอบคุณครับ พี่หิน” แทนเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขอบคุณจากใจจริง
หินชะงักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ถ้าหากแทนได้มาอยู่ข้างหน้าหินก็จะเห็นว่าหินยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเบาๆ จากนั้นหินก็เดินกลับไปยังห้องตัวเอง
“ ดอกเตอร์ครับ เหมือนคุณแทนจะเป็นโรคขาดสารอาหารนะครับ ” เสียงเดวิดดังขึ้นมา
“อืมฉันรู้แล้ว เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองนั่นแหละ เดวิดช่วยฉันตรวจสอบประวัติของแทนหน่อยซิ ” หินเอ่ยขึ้น
“ เมื่อกี๊ดอกเตอร์พึ่งพูดว่าไม่สนใจอดีตไม่ใช่เหรอครับ ” เดวิดเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ อ้อ ก่อนจะตรวจสอบก็เข้าโหมดลงโทษตัวเองไปหนึ่งวันซะนะ ออฟไลน์เดวิด”หินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ก่อนจะอาบน้ำและนอนทันที
“ เดี๋ยวดอกเตอร์ ผมทำอะไรผิ..” เสียงของเดวิดขาดหายไปทันที
และผมก็รู้สึกขอบคุณแผนก AI อีกครั้งที่ได้สร้างโหมดฟังก์ชั่นพิเศษนี้ขึ้นมา โหมดนี้ถูกคิดค้นโดย อัจริยะคนหนึ่งในแผนก AI เมื่อเขาเกิดตั้งคำถามขึ้นมาว่า ‘ ถ้าหากว่าหมั่นไส้ AI มากๆ ควรทำอย่างไร’ นั่นเป็นเหตุให้โหมดพิเศษนี้ถูกสร้างขึ้นและยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย โหมดพิเศษนี้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับ AI แต่อย่างไรแค่เพียงแต่จะสร้างความทุกข์ทรมาณให้เท่านั้น ถ้าเปรียบให้เห็นภาพก็เหมือนกับ มีคนที่บ้าจี้คนหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้าและจักกะจี้ ระยะเวลาของโหมดนี้ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของเองว่ากำหนดระยะเวลาเท่าไหร่
จริงๆนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ใช้โหมดลงโทษกับเดวิดแต่มันไม่เคยคิดจะจำเลยต่างหาก จะโทษใครก็ไม่สามารถโทษได้เนื่องจากลักษณะนิสัยของ AI จะคัดลอกมาจากเจ้าของ AI นั้น ถ้าหากว่ามัน ก็เหมือนกับเข้าตัวเอง
เช้าวันใหม่ วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะสอบในวันพรุ่งนี้ หินวางแผนว่าจะพาแทนไปหาซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
เมื่อหินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ไปเตรียมอาหารเช้าไว้ที่ห้องครัว ปกติแล้วหินจะกินอะไรง่ายๆพวกแซนวิช ซีเรียลกับนมอะไพวกนี้ แต่วันนี้หินตั้งใจจะทำให้อาหารเช้าด้วยตัวเองเพื่อจะให้เป็นวันที่พิเศษสำหรับแทน เมนูที่หินเลือกทำก็คือข้าวผัดอเมริกัน
ไม่นานนักแทนก็เข้าในในห้องครัว แทนสวมชุดเก่าๆของหินที่ไม่ได้ใช้แล้ว เป็นเสื้อผ้าที่หินใช้ตอนที่หินอยู่วัยเดียวกับแทน แต่หลังจากโตขึ้นก็ไม่ได้ใส่อีก แต่ยังคงเก็บเสื้อผ้าไว้
“นั่งเลย อาหารเสร็จพอดี” หินพูดพลางตักข้าวผัดใส่จานก่อนที่จะยกไปเสิร์ฟที่โต๊ะ
จากนั้นสองชีวิตในบ้านก็ได้รับประทานอาหารเช้าฝีมือของเชฟหินระดับมือใหม่สุดๆ
“ เดี๋ยวต้องไปหาซื้ออาหารสำเร็จรูปมาตั้งไว้บ้างแล้ว” หินเอ่ยขึ้น
“ พี่หิน มันก็อร่อยอยู่นะครับ” แทนพูดให้กำลังใจ ถ้าเทียบกับอาหารที่แทนเคยกินช่วงที่ผ่านมา อย่างดีที่สุดก็คืออาหารเหลือทิ้งในถังขยะในร้านอาหาร ที่ยังไม่เน่าเสีย แต่แทนก็ไม่ได้พูดออกมา
“ โอเค พี่จะถือว่าเราไม่ได้พูดอะไรออกมา” ไม่ต้องให้กำลังใจพี่หรอกแทน พี่รู้ อุตส่าห์ว่าจะต้อนรับวันใหม่ด้วยเมนูง่ายๆที่ทำเองกับมือ แต่ขนาดหินกินเองยังรู้สึกว่ามันแย่เลย
“ รู้ไหมว่าวันนี้เราจะไปไหนกัน ” หินพูดเปลี่ยนเรื่อง
แทนส่ายหน้า
“ เราจะไปซื้อของกัน มีอะไรที่แทนอยากได้ไหม ” หินถามขึ้น
แทนส่ายหน้าอีกครั้ง แค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับแทน มีที่อยู่ มีอาหารให้ทาน
“ งั้นรีบไปกันเถอะ เดี๋ยวมันจะสายซะก่อน ”
หลังจากนั้นหินและแทนจึงขึ้นแท็กซี่จากบ้าน ซึ่งหินได้ติดต่อไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อไปยังห้างเซนเตอร์ ระยะทางจากบ้านไปห้างเซ็นเตอร์ก็ไกลพอสมควร เมื่อนั่งแท็กซี่ไปใช้เวลาประมาณเกือบ 20 นาที
ห้างเซ็นเตอร์คือห้างที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในจังหวัด นอกจากนั้นยังมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ หากจะพูดถึงความมั่งคั่งถ้าจัดอันดับในประเทศ เจ้าของห้างเซ็นเตอร์ จะต้องติด 1 ใน 10 ห้างเซ็นเตอร์เป็นที่นิยมของหมู่วัยรุ่นและคนวัยทำงานเป็นอย่างมากเนื่องจากความทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร แบรนด์ดังจากทั่วทุกมุมโลกต่างมารวมกันอยู่ที่นี่ ฉะนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลให้หินเลือกที่จะมาห้างแห่งนี้ ในความทรงจำเดิม หินคนเก่าก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้มาห้างมากนัก
เมื่อเข้ามาในห้างหินก็เดินไปที่ธนาคารทันทีเพื่อเบิกเงินมาใช้ซื้อของสำหรับวันนี้ ไม่ใช่ว่าหินไม่มีบัตรเครดิต จริงๆแล้วหินมีบัตรเครดิตอยู่ 1 ใบ แต่เขาคิดว่าสำหรับการซื้อของในวันนี้ วงเงินในบัตรเครดิตน่าจะเอาไม่อยู่ หินจึงได้เบิกเงินสดจากธนาคารไว้ สามแสนบาทและเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายข้างที่เตรียมมา
หลังจากนั้นหินได้เดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง ซึ่งแบรนด์นี้ค่อนข้างมีระดับ ผู้คนส่วนใหญ่ที่จะเข้าร้านนี้จำเป็นต้องมีฐานะในระดับหนึ่ง เนื่องจากเสื้อผ้ามีราคาแพงมาก หินไม่ได้จะซื้อเสื้อผ้าให้แทนเท่านั้น แต่ต้องการจะซื้อให้ตัวเองอีกด้วย
เมื่อหินเข้ามาในร้านก็มีพนักงานมาบริการทันที เนื่องด้วยร้านนี้เป็นแบรนด์ที่มีระดับ พนักงานในร้านจึงมีความเป็นมืออาชีพที่สุด แม้จะเห็นว่าหินและแทนเป็นเพียงแค่วัยรุ่นและเด็กที่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆธรรมดาๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีดูถูกแม้แต่น้อย ทำให้หินค่อนข้างจะประทับใจ
“ ให้ช่วยอะไรไหมคะ ” พนักงานถามขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เดี๋ยวขอเดินดูก่อนแล้วกันครับ” หินเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินดูไปรอบๆ
“เลือกเลยนะแทน ชอบตัวไหนก็บอกพี่เลย” หินหันไปพูดกับแทน
แทนได้ยินแบบนั้นจึงได้เดินดูเสื้อผ้าเผื่อหาชุดที่ตัวเองชอบ ครั้งล่าสุดที่แทนได้ซื้อเสื้อผ้ากับพ่อแม่ก็นานเหลือเกิน ทำให้ตอนนี้แทนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อเจอเสื้อที่ถูกใจแทนจึงหยิบมันขึ้นมาดู
“ 3,790 บาท !!” แทนเห็นดังนั้นจึงวางมันลงด้วยความเบามือที่สุดเหมือนกลัวว่าเสื้อตัวนั้นจะยับ
จากนั้นจึงเดินไปสะกิดหิน
“พี่หินครับ มันแพงเกินไป แทนใช้ของตามตลาดก็ได้ครับ ” แทนพูดขึ้นด้วยความไม่สบายใจ เสื้อผ้ามันแพงเกินไปสำหรับคนที่เคยยากจนมาก่อนอย่างแทน แทนเห็นว่าเงินจำนวนขนาดนี้สามารถเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะแยะ
“เสื้อผ้านะแทนไม่ใช่ของกินที่จะอะไรก็ได้ มันจะอยู่กับเราไปอีกนาน ถ้าเราจะให้อะไรกับตัวเองก็ต้องให้สิ่งที่ดีที่สุด เงินน่ะมันหาง่าย มีแล้วก็ต้องใช้ ” หินตอบกลับไป
หินอดขำไม่ได้กับท่าทีของแทน ไม่ใช่ว่าหินไม่เข้าใจว่าแทนคิดอะไร แต่ว่า หินไม่อยากให้แทนยังคงตีตัวเองอยู่ในกรอบเดิมๆ
แต่คำตอบของหินกลับไม่ได้ทำให้แทนรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด
“อย่าคิดว่าเพราะเรามีเงินน้อยจึงได้เลือกซื้อของที่ราคาถูก อย่าให้กรอบความคิดว่าฐานะยากจนแล้วก็ต้องใช้แต่ของถูกๆคุณภาพไม่ดี แทนต้องคิดว่าจะทำยังไงให้มีเงินพอที่จะซื้อของที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ อย่าให้เงินมากำหนดเรา เราสิต้องกำหนดมัน” จากนั้นหินจึงเอ่ยต่อ
“ไม่ต้องคิดมาก ราคาแค่นี้ขนหน้าแข้งพี่ไม่ร่วงหรอก ตอนนี้เรายังหาเงินไม่ได้พี่ก็จ่ายให้เราก่อนไง พอเราโตพอที่จะหาเงินได้ก็ค่อยคืนพี่”
หินไม่ได้พูดโกหกเพราะถึงแม้ตอนนี้หินจะมีเงินในบัญชีเหลือแค่ 1.2 ล้านบาท แต่ในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า หลังจากทีหมดเวลาสำหรับการใช้ทดลองใช้ Andria OS ฟรีและเริ่มเปิดขาย ยอดขายของมันจะต้องไม่น้อยอย่างแน่นอน ซึ่งหินก็ไม่ได้คิดผิดแต่อย่างใด ยอดขาย Andria OS จะมากขนาดที่หินก็คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
สุดท้ายจึงทำให้แทนรู้สึกโอเคขึ้น จึงได้กลับไปเลือกเสื้อผ้าที่ตัวเองถูกใจอีกครั้ง
หลังจากใช้เวลาอยู่พักใหญ่ หินก็เลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองเสร็จ เป็นพวกเสื้อแขนยาว แขนสั้น เสื้อเชิ๊ต และกางเกง รวมๆกันเป็นสิบกว่าชุด
“แทนเลือกเสร็จยัง” เมื่อหินมองไปหาแทน กลับพบว่าแทนเลือกมาแค่ เสื้อยืด 1 ตัวกับกางขายาว 1 ตัว
‘ ไอ้เด็กนี่มันดื้อจริงๆ จะมาเกรงอกเกรงใจอะไรขนาดนี้ ได้เลยไอ้หนู หึๆๆ’
หินจึงหันไปเรียกพนักงานทันที
“เอาเสื้อผ้าที่กำลังนิยมในช่วงนี้ครับ ให้น้องคนนั้น ” ว่าแล้วหินก็ชี้ไปทางแทน
“เอาทุกชุดอย่างละหนึ่งครับ ” เมื่อหินพูดจบทำให้พนักงานคนนั้นตกตะลึงทันที
“เอาทุกชุดใช่ไหมคะ” พนักงานถามย้ำอีกครั้ง
“เอาทุกชุดเลยครับ”
ว่าแล้วพนักงานจึงขอตัวแทนไปวัดไซต์ก่อนที่จะไปจัดเตรียมชุด
“พี่หิน !! เดี๋ยวผมเลือกเพิ่มก็ได้” แทนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ไม่ทันแล้ว ถ้าครั้งหน้าเรายังเกรงใจพี่ก็จะทำแบบนี้อีก” หินพูดพลางมองไปยังแทนด้วยท่าทางคาดโทษ ประหนึ่งว่า นี่ถ้าเลือกมาหลายชุดหน่อย ฉันก็ไม่ต้องซื้อหมดทุกชุด เธอทำให้ฉันเสียเงินมากขึ้นรู้ตัวไหม แทนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากใช้เวลาซักครู่พนักงานก็ได้จัดเตรียมเสื้อผ้าได้ครบ หินจึงได้เดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อคิดเงิน
“ทั้งหมด 133,700 บาทค่ะ แต่เนื่องจากลูกค้าได้ซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากทางร้านจึงลดให้เหลือ 130,000 ถ้วนค่ะ ไม่ทราบว่าลูกค้าสะดวกจ่ายเงินสดหรือบัตรเครดิตคะ ? ” พนักงานคนเดิมกล่าวขึ้นด้วยความดีใจเพราะยิ่งขายสินค้าได้มากเท่าไหร่ เธอก็จะได้ % จากการขายสินค้ามากเท่านั้น เมื่อพนักงานอีกคนข้างๆได้ยินขึ้น จึงทำให้อดที่จะมองหินด้วยสายตาประมาณว่า จะมีปัญญาจ่ายเหรอ ?
“ เงินสดครับ ” พูดจบหินก็หยิบเงินขึ้นมาจากกระเป๋า ทั้งหมด 140,000 บาท
“คุณลูกค้าคะ คุณลูกค้าให้เงินมาเกิน 1 หมื่นบาทค่ะ” พนักงานพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ามีเงินเกินมา
“ 130,000 บาทนั้นจ่ายค่าสินค้าครับ อีก 10,000 บาท ผมให้ทิป ” พูดจบหินก็หันไปมองพนักงานที่มองเขาอย่างดูถูกเมื่อซักครู่ จนทำให้พนักงานคนนั้นถึงกลับก้มหน้าหลบสายตาหินทันที
“ขอบคุณมากๆค่ะ” พนักงานคนเดิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ แค่ค่าคอมมิชชั่นจากการขายก็ทำให้เธอดีใจมากอยู่แล้ว พอได้ทิปเพิ่มอีก 10,000 ทำให้เธอดีใจสุดๆ
“มีบริการจัดส่งไหมครับ” หินถามขึ้นเพราะถ้าให้เขาถือออกไปคงได้ปวดแขนพอดี เพราะเสื้อผ้าที่หินซื้อคือ 10 กว่าชุด แต่เสื้อผ้าของแทนกลับมีถึง 20 กว่าชุด
“มีค่ะ ทางเรามีบริการจัดส่ง ถ้าหากซื้อสินค้าเกิน 10,000 บาทขึ้นไป จะไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ”
พนักงานตอบกลับมา
“งั้นช่วยส่งของทั้งหมดนี้ไปตามที่อยู่นี่ด้วยนะครับ พอดีผมไม่สะดวกที่จะถือออกไป” หินพูดขึ้นพลางยื่นกระดาษที่เขียนชื่อที่อยู่ไว้ให้ หลังจากที่จัดการธุรในร้านเสร็จ หินก็เดินออกจากร้านทันที
หลังจากนั้นพนักงานที่บริการหินเมื่อครู่ก็พูดlสอนพนักงานใหม่อีกคนว่า
“เนี่ยแหละ เราไม่รู้เลยว่าเราจะเจอคนแบบไหน วันดีคืนดีเราอาจจะเจอกับผ้าขี้ริ้วห่อทองก็ได้ ดังนั้น พวกที่ทำงานบริการอย่างเราห้ามดูถูกลูกค้าเป็นอันขาด ”
ทำให้พนักงานคนนั้นอดที่จะรู้สึกผิดกับการกระทำที่แสนโง่เขลาของเธอเมื่อสักครู่ไม่ได้และเธอคงจะจำไว้เป็นบทเรียนอีกนาน