ตอนที่8 สอบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่8 สอบ
หลายๆครั้งที่เราตั้งคำถามกับตัวเอง เรียนไปทำไม ไม่ได้ใช้ซะหน่อย ถ้าหากจะตอบว่าเรียนไปเพื่อใช้สอบก็คงไม่ผิดนัก   “โตขึ้นฉันอยากเป็นดีไซเนอร์ แต่แปบนะ ฉันขอไปอ่านตรีโกณก่อน ” “ ฉันเก่งวาดรูปมาก เดี๋ยวก็คงจะไปเรียนต่อสาขาศิลปกรรมศาสตร์ แต่ว่าฉันยังไม่อ่านเคมีเลยนี่นา” “ฉันจะเป็นสุดยอดโปรแกรมเมอร์ แต่เดี๋ยวสิ พรุ่งนี้มีสอบเคมีนี่ ต้องไปอ่านก่อนละ” การถ่ายทอดความรู้เรื่องการปีนต้นไม้ให้กลับปลา หรือการสอนสิงโตให้บินได้เหมือนนก ช่างเป็นเรื่องตลกร้าย การปลูกฝังในแนวทางแบบผิดๆส่งต่อไปยังรุ่นต่อรุ่นและไม่มีการแก้ไขใดๆเกิดขึ้น  ปลูกพืชหลายชนิดด้วยดินเพียงชนิดเดียวแล้ววัดผลตัดสินด้วยมาตรฐานเดียวกัน เป็นการศึกษาที่ล้มเหลว ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แต่จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่าเมื่อ มีคนคิดต่างและคิดจะเปลี่ยนแปลงระบบแต่ถูกตราหน้าว่าพวกนอกคอก   หลายๆครั้งเราก็อยากจะให้มันเปลี่ยนแปลงแต่การเปลี่ยนแปลงรากฐานที่มีมาอย่างยาวนานก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง จะมีการปฏิวัติระบบการศึกษาแบบนี้สักที หินเข้าใจในระบบการศึกษาของโลกนี้พอสมควรและหินก็รู้ว่าหากจะเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของโลกนี้เขาสามารถทำได้ แต่ไม่สามารถทำได้ในทันที นอกจากเรื่องเงินแล้ว มันยังเกี่ยวข้องไปถึงเรื่องผลประโยชน์และอำนาจอีกด้วย ในตอนนี้หินเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามเท่านั้น ถ้าหากเข้ามีอำนาจและเงินตราเพียงพอเขาจะหาหมอมารักษาคนตาหลิ่วทั้งเมืองเลยก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เมื่อเดินมาถึงห้องสอบหลังจากแน่ใจแล้วว่านี่เป็นห้องสอบของตัวเอง หินจึงได้เตรียมบัตรประจำตัวสอบและดินสอปากกา ก่อนที่จะเข้าไปในห้องสอบทันที “ ตอนนี้เวลา 8.00 นาฬิกา เริ่มทำข้อสอบได้ค่ะ ไม่อนุญาตให้นักเรียนออกจากห้องสอบก่อน 30 นาทีนะคะ  ” เสียงอาจารย์คุมสอบประจำวิชาดังขึ้นเมื่อถึงเวลาสอบ สิ้นเสียงอาจารย์คุมสอบหินก็เปิดข้อสอบไปทีละแผ่นเพื่อดูข้อสอบคร่าวๆ ถ้าหากว่าเป็นหินคนก่อนก็คงจะสาหัสพอดู เพราะเขารู้สึกว่ารอบนี้มันยากกว่ารอบก่อนๆที่หินเคยสอบ ถ้าไม่ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้ขึ้น หินคนก่อนอาจจะไม่มีที่เรียนไปแล้วจริงๆ ไอคนออกข้อสอบมันคิดอะไรอยู่เนี่ย มาออกข้อสอบยากๆรอบสุดท้าย หินอดส่ายหัวเบาๆไม่ได้จริงๆ ข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์นั้น ประกอบไปด้วย ข้อสอบฟิสิกส์ 25 ข้อ ข้อสอบเคมี 30 ข้อ และข้อสอบชีวะอีก 50 ข้อ เฉลี่ยรวมกันแล้วจะต้องใช้เวลาทำข้อละประมาณ 1.7 นาที แต่สำหรับหินแล้วโจทย์พวกนี้ก็เหมือนโจทย์เด็กเล่น เหมือนมีคนเอาโจทย์สำหรับด็กประถมมาให้ปรมจารย์ทำ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที หินก็ทำข้อสอบทั้งสามเสร็จ นั่นหมายความว่า หินใช้เวลาในการทำข้อสอบเฉลี่ยตกข้อละ 8.5 วินาที จริงๆแล้ว หินใช้เวลาสำหรับโจทย์คำนวณตกข้อละ 10 วิเท่านั้น และโจทย์ถามตอบข้อละ 5 วิ นั่นหมายความว่าเมื่ออ่านโจทย์เสร็จหินต้องกาคำตอบทันที จากนั้นหินใช้เวลาอีกประมาณ 5 นาทีในการตรวจทานกระดาษคำตอบ เช็คชื่อ เช็ครหัสประจำตัวสอบว่าฝนถูกหรือไม่ก่อนที่จะนั่งรอเวลาอีก 10 นาที เพื่อจะออกจากห้อง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- นัท เป็นนักเรียนคนหนึ่งที่การเรียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก  แต่ถ้าหากจะพูดเรื่องความสามารถ เขากลับมีความสามารถในการสังเกตุและคัดลอกสูงมาก หลายๆครั้งที่เขาผ่านการสอบมาด้วยการลอกคนอื่นด้วยสกิลประจำตัวขั้นเทพ เช่นเดิม วันนี้ เป็นการสอบรอบสุดท้ายของเขา จริงๆแล้วเขามีที่เรียนแล้วแต่มันก็เป็นแค่ที่เรียนที่เขาจำใจเลือก เขาก็หวังเหมือนกันว่าครั้งสุดท้ายนี้คะแนนของเขาจะดีพอให้เขาเลือกเข้าคณะที่ชอบ ระบบการสอบและการจัดที่นั่งของผู้เข้าสอบก็ไม่ได้เป็นความลับอะไรถ้าหากคุณอยากเข้าสอบพร้อมเพื่อนก็แค่ต้องจ่ายค่าสอบพร้อมกับเพื่อนคนนั้น คุณก็จะได้เข้าห้องสอบพร้อมกันทันที และในขณะเดียวกัน ข้อสอบที่คุณได้รับ อาจจะเป็นคนละชุดกับเพื่อนของคุณ นัทเข้าใจว่าคนข้างหน้าข้างหลังและข้างๆ ต้องได้ข้อสอบคนละชุดกับเขาแน่นอน แต่ไม่ใช่กับคนที่อยู่เฉียงเขา    หลังจากที่เขาลองเช็คข้อสอบคร่าวๆดู เขาก็ได้ตระหนักว่าข้อสอบรอบนี้ยากกว่ารอบที่ผ่านๆมา เมื่อหันไปมองรอบๆเขาก็พบว่าเพื่อนร่วมชะตากรรมแต่ละคนสีหน้าดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก ‘เห้อ ปีหน้าค่อยซิ่วก็ได้วะ’ นัทคิดขึ้น ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นหิน กำลังส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับเริ่มกากระดาษคำตอบอย่างรวดเร็ว ‘นายแน่มากเพื่อน ข้อสอบมันยากขนาดนี้จะไปคิดให้มันปวดหัวทำไม เดี๋ยวฉันคนนี้จะเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของนายเอง’ คิดได้แบบนี้นัทก็สบายใจ ก่อนที่จะใช้สายตาอันแหลมคมของเขา กาข้อสอบตามหินไปติดๆ ใช่เวลาไม่นานนักนัทก็กาข้อสอบตามหินเสร็จ ‘ สุดยอด ไม่ดิ่งซะด้วย ช่างกาเดาได้แบบมีหลักการมาก ’ ที่นัทจะคิดว่าหินเดาก็ไม่ผิดนัก เพราะหินใช้เวลาน้อยเกินไป น้อยเกินไปกว่าที่คนปกติเขาใช้กัน ข้อสอบที่ใช้สอบนั้นโดยปกติแล้ว จะถูกออกแบบมาให้เฉลี่ยตัวเลือกเท่าๆกัน นั่นหมายความว่าทุกๆสี่ข้อ ถ้าเราดิ่งตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่ง ก็จะได้คะแนน 1 ใน 4 อย่างแน่นอน กลับกันการกาเดามั่วๆ มีโอกาสได้คะแนนมากกว่า 1 ใน 4 ก็จริง แต่ในทางกลับกัน ก็มีโอกาสได้คะแนนน้อยกว่า 1 ใน 4 ด้วย ที่สำคัญมีโอกาสไม่ได้เลยคะแนนด้วยซ้ำ ฉะนั้นการกาเดามั่วๆ เป็นการเสี่ยงอย่างมาก ถ้าไม่บ้าจริง ไม่ค่อยมีใครทำนัก “ ครบ 30 นาทีแล้วค่ะ นักเรียนคนไหนที่ทำข้อสอบเสร็จแล้วสามารถออกจากห้องสอบได้เลยค่ะ” เสียงอาจารย์คุมสอบดังขึ้นอีกครั้ง สิ้นเสียงของอาจารย์หินก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องสอบทันที ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาที่หินด้วยความเข้าใจ ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีนักเรียนคนอื่นลุกขึ้นและเดินออกจากห้อง รวมไปถึงนัทด้วย หลังจากออกจากห้องสอบหินก็ตรงดิ่งไปยังโรงอาหารทันที เขาไม่ค่อยชอบเวลาที่คนเยอะซักเท่าไหร่นัก ดังนั้นเขาจึงรีบไปยังโรงอาหารเพื่อหาอาหารรับประทาน ก่อนที่จะหาที่สงบเพื่อคุยกับเดวิด “ ที่พักที่ฉันให้หาไปถึงไหนแล้ว” ก่อนที่จะสอบหลายวันก่อนหินได้เลือกมหาลัยที่ถูกใจเอาไว้แล้ว ซึ่งเป็นมหาลัยนานาชาติชื่อดังของประเทศ ที่สำคัญยังเป็นมหาลัยที่ยังเป็นมหาลัยที่สวยที่สุดในประเทศอีกด้วย เหตุผลที่หินเลือกมหาลัยนี้เพราะว่า ค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักภายในประเทศ ที่สำคัญมหาลัยสวยมากและบรรยากาศถูกใจหินสุดๆ จริงๆแล้วหินคิดว่า ถ้าจะไปหาความรู้จากมหาลัยคงจะไม่ได้อะไรมากมายนัก หินจึงให้น้ำหนักที่บรรยากาศและความสวยงามของมหาลัยมากกว่า “ มหาลัย...ที่ดอกเตอร์เลือกถึงแม้จะค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่ว่าความเจริญภายในเมืองนั้นไม่ได้เจริญเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่รอบๆมหาลัยจะเต็มไปด้วยหอพักคุณภาพต่ำราคาถูก จะมีหอพักคุณภาพปานกลางอยู่บ้าง แต่เต็มหมดแล้ว ไม่ไกลจาก ม.นัก มีคอนโดหรูอยู่แห่งหนึ่ง เป็นที่นิยมของเหล่าคนรวยและนักท่องเที่ยว ไม่ค่อยเป็นที่นิยมของเหล่านักศึกษามากนัก เพราะมีค่าเช้าค่อนข้างสูง ” “ จองให้ฉันหนึ่งห้อง ”  หินตั้งใจที่จะสร้างบ้านอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว การเลือกเช่าคอนโดคือการ อาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้เหลือแค่เพียงรอเวลาเปิดขายของระบบ Andria OS ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ปัญหาเรื่องเงินจะหมดไปในทันที “  อัพเดทข้อมูลของ Andria OS กับ ภาษา New A ” หินเอ่ยขึ้น “ ตอนนี้ Andria OS เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ยอดการใช้งานบน PC มีมากกว่า 50 ล้านเครื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อหมดช่วงลองใช้ ผมคาดว่าจะสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทครับ ” ในโลกเก่าเขาต้องพยายามแทบตายเพื่อหางานวิจัยใหม่ๆมาสร้างผลงานเพื่อจะขอรับเงินสนับสนุนจากส่วนกลาง แต่เมื่อมาอยู่โลกนี้ เห้อ…  พอจะหาก็หาแทบลากเลือด ทีเวลาแบบนี้ มีจนใช้อาบได้ แต่ยังไงก็ตาม เงินแค่นี้ไม่ได้มากพอที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งอย่างได้ “ ส่วนภาษา New A ตอนนี้ คนส่วนใหญ่อยู่ในระดับช่วง Level 2 (ทำความเข้าใจ) มีอัจริยะไม่กี่คนที่อยู่ในระดับ Level 3 (เขียนเป็น)  มีหลายที่ๆบรรจุ ภาษา New A ให้เป็นหลักสูตรใหม่ที่จะต้องเรียน รวมไปถึงมหาลัยที่ดอกเตอร์ได้เลือกที่จะเข้าศึกษาด้วยครับ” ก่อนยุค AI การศึกษาภาษาคอมพิวเตอร์ในโลกเก่าของหินนั้นถูกแบ่งเป็น 5 ระดับคือ Level 1 - เริ่มต้น Level 2 - ทำความเข้าใจ Level 3 - เขียนเป็น Level 4 - ผู้ใช้งานขั้นสูง Level 5 - นักพัฒนา คนส่วนใหญ่ในโลกเก่าของหินอยุ่ในระดับ Level 3 จะมีคนที่ฉลาดหรือเก่งกว่าคนปกติที่จะอยู่ในช่วง Level 4 ส่วน Level 5 จะเป็นระดับที่พวกหัวกระทิ ที่อัจริยะเป็นอย่างมาก ในโลกที่ความเจริญต่างกันอย่างมหาศาล แต่มีอัจฉริยะบางส่วนในโลกนี้สามารถ เรียนรู้จนมาถึง Level 3 ได้นี่ก็ทำให้หินปละหลาดใจอยู่ไม่น้อย ขณะที่หินพูดคุยอยู่กับเดวิดอยู่นั้น หินไม่ได้รู้ตัวเลยว่าได้ตกเป็นเป้าหมายในการพูดคุยของนักเรียนรอบๆตัว “เธอดูคนนั้นสิ เขาสอบห้องเดียวกับฉันด้วยแหละ เริ่มสอบไปได้ ครึ่งชั่วโมงเขาก็ออกจากห้องสอบไปแล้ว” นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นกับเพื่อนตัวเอง “ ข้อสอบมันยากขนาดนี้ ใครมันจะไปทำได้ ไอ้คนออกข้อสอบ มันคิดอะไรอยู่” “ น่าสงสารเขานะ ฉันสังเกตุเขามาระยะหนึ่งแล้ว ฉันเห็นเขานั่งพูดอยู่คนเดียวตั้งนาน ” นักเรียนคนเดิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ “ ฉันเข้าใจแหละเธอ นี่ก็สอบรอบสุดท้าย กดดันจะตาย แถมยังต้องมาเจอข้อสอบโครตยากแบบนี้อีก เป็นใครก็ต้องบ้าบ้างล่ะ ฉันเห็นเพื่อนบางคนนั่งเหมือนชีวิตหมดอาลัยตายอยากไปด้วยซ้ำ”    “ ฉันหวังว่าฉันจะไม่เป็นรายต่อไปนะ” นักเรียนอีกคนพูดขึ้นเบาๆ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ในที่สุดเวลาเวลาพักก็หมดลงและการสอบภาคบ่ายก็เริ่มขึ้น  ถ้าหากว่าการสอบภาคเช้าคือความยากระดับหินแล้ว การสอบคณิตภาคบ่ายก็คือ เหล็กดีๆนี่เอง เพราะข้อสอบคณิตศาสตร์นั้น ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือแบบปรนัย สอบกา ซึ่งต่อให้ทำถูกหมดก็จะได้คะแนนแค่ 50% เท่านั้น อีก 50% จะเป็นอัตนัย นั่นก็คือสอบเขียน เมื่อข้อสอบออกมาเป็นแบบนี้ แทบจะทำให้เด็กทุกคนหมดกำลังใจสอบกันเลยทีเดียว “พอๆๆ ได้ซิ่วจริงๆละแบบนี้” “ต่อให้กาดิ่งก็ได้คะแนนแค่ 12.5% เอง ไม่เหลือแล้วชีวิต” เสียงบ่นเบาๆดังขึ้นมาในห้องสอบ “กรุณางดใช้เสียงด้วยค่ะ”  อาจารย์คุมสอบกล่าวเตือน หินก็ยังคงรักษามาตรฐานเวลาในการทำข้อสอบ หินใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น ก็ทำข้อสอบเสร็จทั้งหมด และเช่นเดิมหินก็ยังรอเวลา 30 นาทีแรกเพื่อที่จะได้ออกจากห้องสอบ ช่วงเวลาแห่งการรอคอยมันมักเป็นอะไรที่น่าเบื่อเสมอ หินก็เช่นกัน เมื่อได้ออกจากห้องสอบเขาก็มีเวลาอีกเป็นชั่วโมง หินจึงใช้เวลานี้นอนรอการสอบวิชาสุดท้าย นั่นก็คือ ความถนัดวิศวะ ผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดหินก็สอบวิชาสุดท้ายเสร็จ ไม่รอให้เสียเวลาแต่อย่างใด หินรีบเก็บของและเดินมาหน้าโรงเรียนเพื่อโบกแท็กซี่ไปยังสนามบินทันที เพราะเครื่องจะออกในอีก 2 ชม.ข้างหน้า เนื้อหาพิเศษ ผมชื่อ นัท เป็นวัยรุ่นสูง ขาว หล่อหน้าตาดี แค่กๆ ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่กำลังก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย ถ้าถามผมโง่ไหม ผมสามารถตอบได้ทันทีว่าไม่โง่ แต่ผมก็ไม่ได้ดิ้นรนหรือพยายามในเรื่องการเรียนเท่าไหร่นัก ถ้าหากจะพูดถึงความสามารถพิเศษของผม ผมค่อนข้างถนัดในเรื่องการจำและการสังเกต ทำไมถึงไม่เอาความสามารถพิเศษนี้ไปใช้จำเนื้อหาความรู้และเอาไปสอบล่ะ ? ทำแบบนั้นผมก็เมาความรู้ตายพอดีสิ ผมก็บอกแล้วว่าผมจำเก่ง แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องการประยุกต์นำมาใช้ละก็ ทิ้งมันไว้ตรงนี้เถอะ ด้วยความสามารถของผมการหาที่เรียนซักที่มันไม่ใช่เรื่องยากนัก แต่ถึงยังไงผมก็ยังอยากจะเข้าคณะที่ผมอยากเรียนอยู่ดี ในความเป็นจริงแล้วการสอบรอบสุดท้ายนี้ ผมเตรียมตัวมาดีกว่ารอบที่ผ่านๆมามาก แต่ คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ไอคนออกข้อสอบรอบนี้มันไปกินดีหมีอะไรมา ถึงได้มาลองวิชาแบบนี้ ผมเห็นข้อสอบแล้วผมเตรียมใจไว้ซิ่วปีหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่ในขณะที่กำลังผิดหวังกับข้อสอบนั้น ผมก็ได้เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง เป็นวัยรุ่นทั่วไปเหมือนกับผม แต่กลับดูสงบอย่างน่าประหลาด ผมเห็นเขาส่ายหน้าเมื่อมองไปยังข้อสอบ ก่อนที่จะลงมือกาข้อสอบด้วยความรวดเร็ว มันช่างสุดยอด เป็นจิตใจที่หนักแน่นอะไรปานนั้น ผมเห็นแบบนั้นผมก็คิดขึ้นได้ว่า จะมานั่งเครียดให้ปวดหัวเศร้าใจไปทำไม ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสอีก ปีหน้าก็ยังสอบใหม่ได้ ปีนี้ถือว่ามาลองสนามสอบละกัน คิดได้แบบนั้นผมก็รู้สึกสบายใจอย่างมาก  นี่สินะที่เขาเรียนว่า การปล่อยวาง ว่าแล้วผมก็เข้าร่วมอุดมการณ์กับเพื่อนร่วมห้องสอบคนนั้นทันที ยิ่งไปกว่านั้นเหมือนว่าดวงของเราสองคนจะสมพงษ์กันมาก ตอนแรกนัทก็คิดว่าจะวิชาสามัญก็ไม่น่าจะได้เจอกันแล้ว แต่กลับมาเจอกันที่วิชาความถนัดวิศวะอีก มันช่างเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจนัก ตอนสอบเสร็จผมคิดว่าจะไปทักทายซะหน่อย แต่ยังไม่ทันได้พูดคุย เพื่อนคนนั้นก็วิ่งหายไปจากโรงเรียนซะแล้ว หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป นี่ก็ถึงวันที่ประกาศคะแนนสอบแล้วเพื่อนผมหลายคนก็ผิดหวังดีใจกันไปตามระเบียบ ผมพอจะรู้แล้วด้วยซ้ำว่าชะตาชีวิตของผมจะเป็นยังไงต่อ แต่ก็นั่นแหละ ผมปล่อยวางแล้ว ติ๊ดๆๆ ‘ โทรมาทำไมตอนนี้วะเนี่ย ’ นัทหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย จะหงุดหงิดก็ไม่แปลก ถึงแม้จะบอกว่าปล่อยวางก็เถอะแต่นัทกลับไม่ได้เช็คคะแนนสอบของตัวเอง แต่เลือกที่จะมาเล่นเกมผ่อนคลายอารมณ์มากกว่า “มีไร” “ มึงเช็คคะแนนสอบยัง” ปลายสายถามกลับมา “ เช็คห่าอะไรหล่ะ ไม่ดูก็รู้ละว่าได้เท่าไหร่ มึงโทรมาแค่นี้ใช่ไหม กุจะได้วาง” “มึงเอาไอดีมึงมาดิ๊ กุจะได้ดู ” “เออๆ ไอดี xxx pass xxx แค่นี้นะกุเล่นเกมอยู่”  พูดจบผมก็ว่างสายทันที ไม่กี่นาทีเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งและยังเป็นเบอร์เดิมที่โทรมา “ไอสัสกุบอกว่ากุเล่นเกมส์อยู่” ตอนนี้ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก เพราะทีมต้องการผม นี่ผมต้องมาแบ่งสมาธิไปคุยกับมันอีกเหรอเนี่ย พูดก็พูดเถอะแต่ผมก็ไม่ได้วางสาย จะทำไงได้ไอคนโทรเข้ามันดันเป็นเพื่อนสนิทผมหน่ะสิ “ไอ้นัท...มึง..” เสียงปลายสายพูดแบบอ้ำๆอึ้ง “มึงจะอ้ำอึ้งทำไมเนี่ย  เออกุรู้แล้วว่าคะแนนน้อยกว่ามึง สบายใจมึงแล้วสินะ แค่นี้นะ กุจะเล่นเกมส์ต่อ” ที่จริงจะเรียกว่าเป็นนิสัยเสียของมันอย่างหนึ่งเลยก็ได้คือชอบเอาคะแนนของมันมาเปรียบเทียบกับคะแนนของผม ทั้งๆที่มันรู้แหละว่าผมได้คะแนนน้อย แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันหรอก ออกจะชินกับมันแล้วด้วยซ้ำ “มึงได้คะแนนเต็ม” “ห๊ะ”  ผมว่าผมหูแว่วหรือเปล่า “มึงได้คะแนนเต็มทุกวิชา มึงทำได้ยังไง!!!” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อสุดๆ ตอนนี้ถึงแม้ทีมจะต้องการผมแต่ผมไม่ต้องการทีมแล้ว ผมรีบเปิดเว็บเพื่อเช็คคะแนนตัวเองทันที “เชรี่ยยย !!! 100 เต็ม !!!” ผมอุทานออกมา เพราะผมได้คะแนน 100 เต็ม ทุกวิชาจริงๆด้วย ตอนแรกผมนึกว่ามันจะอำผมเล่น มันเป็นไปได้ยังไง ผมนึกย้อนกลับไปวันที่สอบ ผมแน่ใจมากว่ามันไม่มีทางที่ข้อสอบหลุดหรือมีคนรู้ข้อสอบมาก่อนเพราะคนที่ได้เต็ม มีแค่หลักสิบถึงหลักร้อยเท่านั้นจากคนเป็นหมื่น และที่สำคัญคนที่เป็นคนออกข้อสอบจะถูกคุมตัวอยู่แล้ว ไม่มีทางที่ข้อสอบจะหลุดออกมาได้ นั่นหมายความว่า ผู้ชายคนนั้นที่นัทลอกข้อสอบต้องอัจฉริยะมากๆ ถึงขนาดที่อ่านข้อสอบแล้วสามารถกาได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดด้วยซ้ำ ยังไงก็ตามในที่สุดผมก็จะได้เลือกสาขาที่ผมชอบ บุญคุณที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ผมจะไม่มีทางลืมมันเลย คิดได้แบบนี้แล้วผมก็สุขใจ “ วิศวะจ๋า เดี๋ยวเจอกัน” นัทพูดขึ้นเบาๆ
已经是最新一章了
加载中