ตอนที่9 ภาษาฝรั่งเศส?
1/
ตอนที่9 ภาษาฝรั่งเศส?
The Possible Man
(
)
已经是第一章了
ตอนที่9 ภาษาฝรั่งเศส?
ปกติการสอบใหญ่แต่ละครั้งจากส่วนกลาง จะจัดสอบพร้อมกันทั่วประเทศ ครั้งนี้ก็เช่นกัน การที่เด็ก ม.ปลาย จำนวนมหาศาลสอบเสร็จพร้อมกันทั้งจังหวัด เมื่อถึงเวลาที่สอบเสร็จช่วงเย็นๆ จะทำให้เกิดจราจรติดขัด เมื่อหินสอบเสร็จจึงออกมาโบกแท็กซี่ตรงไปยังสนามบินทันที ในที่สุดหินก็มาถึงสนามบิน สนามบินนี้เป็นสนามบินเล็กๆ ในเมืองเท่านั้น การมองหาเคาน์เตอร์เช็คอินของแต่ละสายการบินไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นสายการบินที่ตัวเองได้จองแล้วหินไม่รอช้า เข้าไปเช็คอินทันที มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่สายการบินนี้เป็นสายการบินเล็กๆ เท่านั้น จึงไม่มีชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ มีแต่ที่นั่งแบบปกติเท่านั้น การนั่งเครื่องเกือบสองชั่วโมงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับหิน แต่ว่ามันค่อนข้างจะน่าเบื่อสำหรับการนั่งเฉยๆ เป็นชั่วโมง หินเช็คอินเสร็จด้วยความรวดเร็วเนื่องจากเขาไม่ได้มีสัมภาระมากนักนอกจากกระเป๋าสะพายหลังแค่ใบเดียวเท่านั้น เมื่อเช็คอินเสร็จหินจึงเดินเข้าไปที่ห้องรอขึ้นเครื่อง ห้องโถงรอขึ้นเครื่องของสนามบินนี้มีขนาดค่อนข้างกว้าง มองเข้ามาข้างในเต็มไปด้วยไปด้วยผู้โดยสารที่นั่งรอเครื่อง ทั้งสองด้านของห้องโถงไปเต็มด้วยร้านค้าต่างๆ หินเลือกเดินเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง มองหาอยู่สักครู่หินก็ได้เจอสิ่งที่น่าสนใจ เป็นนิตยสารต่างประเทศเล่มหนึ่ง ที่เขียนเกี่ยวกับเทคโนโลยี เมื่อเลือกได้แล้วหินจึงจ่ายเงินซื้อมันทันที จากนั้นหินจึงมองหาที่สงบๆ เพื่อนอ่านนิตยสารที่หินซื้อมา ก่อนจะเหลือบไปเห็นร้านกาแฟร้านหนึ่ง จากความทรงจำเก่าของหินร้านนี้ถือเป็นแบรนด์ดังของโลกนี้เลยทีเดียว ในร้านมีโต๊ะอยู่เยอะแต่เวลานี้กลับมีเพียง สอง สามโต๊ะ เท่านั้นที่มีคนนั่งอยู่ หินจึงเดินไปสั่งเครื่องดื่มหนึ่งแก้วก่อนที่จะเลือกมุมสงบๆ มุมหนึ่งเพื่อนั่ง จากนั้นหินจึงหยิบนิตยสารเล่มที่พึ่งซื้อมาขึ้นมาอ่านทันที นิตยสารเล่มนี้เป็นนิตยสารที่ดังมากๆ เล่มหนึ่ง มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วโลก ซึ่งนิตยสารเล่นนี้จะพูดเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั่วทุกมุมโลก ความทันสมัยและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ หลังจากหินได้อ่านไปสักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นจากโต๊ะข้างๆ ---- [สำหรับอักษรตัว เอียง หมายถึง ใช้ภาษาต่างประเทศนะครับ] ---- \" ดูคนนั้นสิเธอ ที่อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ กระแดะซะจริงๆ ขนาดพวกเราเรียนจบจากฝรั่งเศสยังไม่เห็นจำเป็นต้องอวดขนาดนี้เลย เหอะ \" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยความหมั่นไส้ \"นั่นสิ คงอยากประกาศให้โลกรู้มากมั้งว่าเก่งภาษา \" เสียงเพื่อนผู้หญิงอีกคนพูดขึ้นสนับสนุน เมื่อหินได้ยินแบบนั้นจึงละหน้าจากหนังสือเพื่อหันไปมองที่มาของเสียงเมื่อสักครู่ พบว่าเป็นหญิงสาวสองคนที่แต่งตัวค่อนข้างดูดีมีสกุล พร้อมกันนั้น หญิงสาวทั้งสองคนก็ยิ้มมาให้หิน \" นั่นเขารู้รึเปล่าว่าเรานินทาเขา \" หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น \" ไม่รู้หรอก ดูการแต่งตัวสิ ธรรมดาขนาดนี้ได้เรียนแค่ภาษาอังกฤษ ก็บุญขนาดไหนแล้ว \" เพื่อนอีกคนเอ่ยตอบ ถ้าหากหินไม่รู้มาก่อนว่า ผู้หญิงทั้งสองคนนี้พูดอะไรออกมา เขาคงจะคิดว่า เป็นสองสาวที่อัธยาศัยดีคนหนึ่ง เพราะทั้งสองคนนั้นขณะที่มองมาที่เขาก็ส่งยิ้มมาด้วยความเป็นมิตรสุดๆ มันเป็นเรื่องที่ปกตินักไม่ว่าจะโลกก่อนหรือโลกนี้ นิสัยของมนุษย์ก็ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ คนเราคนย่อมมีความคิดอิจฉาอยู่ภายในใจและเช่นกันต้องการเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับคนอื่น หมายถึงทุกคนอยากจะดูเด่น ดูพิเศษท่ามกลางผู้คนมากมาย ถ้าหากว่าจะมีคนทางให้เราโดดเด่นกว่าคนอื่น ก็คงมีเพียงแค่สองทางเท่านั้น นั่นคือ ถีบตัวเองให้สูงขึ้นกว่าคนอื่น หรือ ถีบคนอื่นให้ต่ำลงกว่าตนเอง แน่นอนการถีบตัวเองให้สูงขึ้นเป็นทางเลือกที่ยาก ดังนั้นผู้คนจึงเลือกทางเลือกที่ง่ายกว่านั้น นั่นคือการถีบคนอื่นให้ต่ำลงกว่าตัวเอง การพูดดูถูก หรือ การสาดโคลนให้คนอื่นก็เป็นลักษณะการกระทำของการถีบคนอื่นให้ต่ำลงกว่าตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนต่อให้เราทำดีกับคนอื่นแค่ไหน ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะดีกับเรา สุดท้ายเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโดนนินทาได้อยู่ดี ยิ่งในบางประเทศแล้วการดูถูกหรือการคอยจับผิดคนอื่นแทบจะเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว \" เที่ยวบิน xxx ที่จะเดินทางไปยัง....\" เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เมื่อหินดูเวลาพบว่านี่ก็ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้วจึงเก็บสัมภาระเพื่อจะเตรียมไปขึ้นเครื่อง แต่ในขณะที่หินกำลังเดินผ่านโต๊ะสองสาวนั้นหินก็หยุดเท้าลงก่อนจะหันไปพูดว่า “ขอโทษนะครับ ที่การอ่านนิตยสารเล่มนี้จะทำให้พวกคุณไม่พอใจ แต่นิตยสารเล่มนี้มันมีแค่แบบภาษาอังกฤษ ถ้าหากมันมีเป็นภาษาไทยผมก็คงซื้อแบบภาษาไทยไปแล้ว” หินพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปพูดเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “หรือต่อให้นิตยสารเล่มนี้เป็นภาษาฝรั่งเศสผมก็คงซื้อมันอยู่ดี ดังนั้นผมเสียใจอย่างมากที่ทำให้คนที่จบจากฝรั่งเศสอย่างพวกคุณรู้สึกรำคาญ ขอตัวนะครับ” พูดจบหินก็เดินออกจากร้านทันที ตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวทั้งคู่ไม่สามารถมีคำใดมาอธิบายได้นอกจากคำว่า ยิ้มค้าง... หินสามารถพูดได้ทุกภาษาที่ถูกบันทึกหรือใช้งานบนอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ครั้งแรกที่โหลดข้อมูลพื้นฐานของโลกใบนี้ ข้อมูลด้านภาษาก็ถูกอัปโหลดให้กับหินเช่นกัน หลังจากที่หินเดินออกจากร้านมาเขาก็ไปต่อแถวเพื่อรอขึ้นเครื่อง สำหรับหินแล้วการขึ้นเครื่องบินครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย เมื่อก่อนขึ้นยานอากาศเดินทางข้ามกาแล็กซีก็ทำมาแล้ว หลังจากเข้ามาในเครื่องบินแล้วหินก็มองหาที่นั่งของตัวเองซึ่งเขาได้จองไว้แถวตรงกลางติดหน้าต่าง ไม่ใช่เพราะว่ามันปลอดภัยหรืออะไรทำนองนั้น เพียงแต่ว่าแถวตรงนั้นมันกว้างกว่าแถวอื่นก็แค่เท่านั้นเองที่สำคัญเขาอยากพิงกระจก เหมือนจะมีบุญมีกรรมร่วมกันมาแต่ปางก่อน ไม่นานนักหลังจากที่หินนั่ง สองสาวผู้จบนอกก็ได้เดินเข้ามาในเครื่องและความเร็วในการเดินของทั้งสองสาวดูเหมือนจะช้าลงเมื่อเดินใกล้เข้ามาที่แถวตรงกลางที่หินนั่งอยู่ ‘คงไม่ใช่ว่านั่งติดกันหรอกนะ...’ หินแอบคิดในใจเงียบๆ ถ้าได้นั่งข้างกันนี่ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะน่าอึดอัดแค่ไหน ตึก ตึก ตึก ในที่สุดเสียงย่ำเท้าก็หยุดลงแถวเดียวกับหิน เหมือนสองสาวพึ่งจะสังเกตเห็นหิน ‘...’ สองสาว ‘...’ หิน เกิดความเงียบขึ้นขณะหนึ่ง ก่อนที่สองสาวจะมองตั๋วนั่งตัวเองอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นสองสาวก็เดินไปนั่งอีกด้านหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับหิน คราวนี้ถึงตาหินโล่งใจบ้าง นี่ก็คิดไม่ออกเหมือนกัน ถ้าหากได้นั่งด้วยกันจริงบรรยากาศคงอึดอัดน่าดู ขณะเดียวกันผู้โดยคนอื่นๆ ก็เก็บสัมภาระพร้อมกับนั่งลงไปยังที่นั่งของตัวเอง เที่ยวบินนี้ถึงแม้จะบินไปแค่ต่างจังหวัดแต่กลับเต็มไปด้วยผู้โดยสารมากมาย ถึงแม้ปลายทางของหินจะเป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยเจริญเท่าไหร่นักในด้านการคมนาคมหรือความทันสมัยต่างๆ แต่กลับเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย เนื่องจากยังเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มาก ภายในประเทศถ้าหากจะพูดถึงการท่องเที่ยวเกี่ยวกับธรรมชาติ ภูเขา หรือการเที่ยวดอย จังหวัดนี้จะต้องถูกเอ่ยถึงอย่างแน่นอน ผู้โดยสารที่เดินเข้ามาในเครื่องเริ่มบางตาลง ในขณะที่ลูกเรือกำลังจะปิดประตูเครื่องนั้น ก็ได้มีเสียงโวยมากดังขึ้นมาจากภายนอก “#$$#@#$#%$%$” เมื่อลูกเรือมองออกไปพบว่าเป็นสองแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังวิ่งมาที่เครื่องด้วยความเร่งรีบ ลูกเรือจึงหยุดรอ เมื่อสองแม่ลูกมาถึงก็พูดขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษโดยที่สำเนียงไม่ค่อยชัดมากนัก “แทงคิวๆ ” มีผู้โดยสารหลายคนที่แอบขำสองแม่ลูกคู่นี้ แม้ว่าผู้เป็นแม่จะสังเกตเห็นแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจก่อนที่จะเดินไปยังที่นั่งของตัวเองด้วยความรวดเร็ว “ตลกอ่ะ พูดไม่ชัดก็ยังจะพูด” มีเสียงนินทาดังขึ้นมา “มีคนจะไปแทงคิวด้วย 555” เสียงไม่ดังมากนักแต่ก็ดังพอจะให้ผู้โดยสารคนอื่นได้ยิน ทำให้หลายๆ คนอดมองไปยังต้นเสียงด้วยสายตาตำหนิ แต่ก็ไม่ได้มีใครกล่าวตักเตือนแต่อย่างใด ‘ช่างน่าเศร้า ที่ความพยายามใช้ภาษา กลายเป็นเรื่องตลก’ หินคิดในใจเงียบๆ สักครู่สองแม่ลูกก็เดินมาหยุดอยู่แถวเดียวกับหิน ดูเหมือนว่าที่นั่งของทั้งสองคนนั้นจะเป็นสองที่นั่งที่เหลือข้างๆ หินนั่นเอง “แม่ผมอยากนั่งติดหน้าต่าง” ผู้เป็นลูกเอ่ยขึ้น “ไม่ได้หรอก เรามาช้ามากแล้ว ที่สำคัญเขามาก่อนเรานะลูก” แม่เอ่ยตอบกลับไป “แต่ผมจะรู้สึกเวียนหัวมากถ้าไม่ได้มองออกไปนอกหน้าต่าง” เด็กผู้ชายคนนี้พูดขึ้นพร้อมสีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้เป็นแม่เข้าใจดีว่าลูกของตนเองเมาเครื่อง ถ้าหากว่าไม่ได้นั่งติดหน้าต่างลูกชายตัวน้อยของเธอจะรู้สึกเวียนหัวมาก แต่จะทำยังไงได้ ตัวเองสองแม่ลูกเช็คอินช้าเลยไม่สามารถเลือกที่นั่งได้ แถมยังมาช้าจนประตูเครื่องเกือบปิด ที่สำคัญภาษาอังกฤษของเธออ่อนมาก พูดได้แค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น ขนาดพูดขอบคุณยังโดนคนอื่นหัวเราะขนาดนั้น ถ้าหากไปพูดอะไรมั่วๆ ไม่ชัดอีก คงจะได้กลายเป็นตัวตลกให้หลายๆ คนในเครื่องนี้ได้ดู สุดท้ายเธอจึงได้ตัดสินใจพูดขึ้นกับลูกว่า “อดทนหน่อย เป็นลูกผู้ชายเราต้องเข้มแข็ง นั่งแค่ชั่วโมงกว่าๆ เอง ถ้าลูกทำได้แสดงว่าลูกเป็นคนเก่งมากๆ เลย” ผู้เป็นแม่พยายามพูดให้กำลังใจลูก “ครับแม่” แม้ใบหน้ายังคงเศร้าแต่เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ดื้อดึงแต่อย่างใด จากบทสนทนาที่พูดขึ้นมาทำให้หินยิ้มขึ้นมาบางๆ นอกจากเก็บอารมณ์แล้วยังพยายามไม่ให้คนอื่นมีปัญหาเพราะตัวเอง เป็นครอบครัวที่ดีครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว “สลับที่กับผมก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมไปนั่งนอกสุดเอง” หินพูดขึ้นเป็นภาษาเวียดนามด้วยรอยยิ้ม ผู้เป็นแม่คนนั้นอดประหลาดใจไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรให้มากความเธอและลูกของเธอรีบกล่าวขอบคุณก่อนที่จะสลับที่นั่งกับหิน เพราะแค่นี้เธอก็ทำให้คนอื่นเสียเวลามามากพอแล้ว หลังจากนั้นเครื่องก็ได้บินออกจากสนามบินเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่ได้กำหนดไว้ ระหว่างทางนั้นหินก็ได้พูดคุยกับสองแม่ลูกไปบ้างก็เลยทำให้ทราบว่า สองแม่ลูกพึ่งเคยเดินทางมาที่ประเทศxxเป็นครั้งแรก โดยนั่งเครื่องจากเวียดนามมาลงที่เมืองxxx ก่อนที่จะหาทางต่อเครื่องเพื่อไปยังเมืองxxx ที่สามีตนเองทำงานอยู่ ตอนที่ขึ้นเครื่องครั้งแรกทำให้เธอรู้ว่าลูกของเธอเมาเครื่องแต่ก็ไม่ได้มีปัญหามากนักเพราะตอนนั้นยังอยู่ภายในประเทศของเธอ เธอจึงสื่อสารกับคนอื่นเพื่อขอย้ายที่นั่งได้ แต่ว่าเพราะภาษาอังกฤษของเธอยังอ่อนมาก กว่าเธอจะหาทางเพื่อมาขึ้นเครื่องบินลำนี้ เธอก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษที่เธอรู้แบบงูๆ ปลาๆ พร้อมกับภาษามือ ถามผู้คนระหว่างทางจนมาถูก เธอยังอดชมหินไม่ได้ว่าพูดภาษาเวียดนามได้เยี่ยมมาก ขณะเดียวกัน ฝั่งตรงข้ามของหิน ผู้หญิงสองคนที่หินเจอที่ร้านกาแฟ ตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบสุดๆ ในยุคนี้พูดได้สองภาษาก็เท่แล้ว สามภาษาคือเก่งมาก สี่ภาษานี่ต้องขนาดไหน นี่มันคนหรือทรานสเลเตอร์ พวกตนก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำยังมีภาษาอื่นที่หินพูดได้อีกหรือเปล่า มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญถ้าหากเราเจอชาวต่างชาติที่เราพูดภาษานั้นได้พอดี แต่จากที่เห็น พวกตนค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้ต้องพูดได้หลายภาษามากกว่าที่ตนเองเห็นแน่ๆ สิ่งที่ตัวเองทั้งสองได้ทำลงไปที่ร้านกาแฟ เหมือนลูกนกไปหัดบินต่อหน้าพญาอินทร์ ก่อนที่จะนินทาพญาอินทรีด้วยความดูถูก นี่มันเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้ามีใครมาได้ยินเข้าคงมองว่าเป็นเรื่องตลกสุดๆ ยิ่งคิดพวกตนยิ่งรู้สึกอายจนอยากหายหน้าไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าหากว่าตนเองได้นั่งชั้นธุรกิจมันคงไม่เป็นแบบนี้ แต่เที่ยวบินที่จะไปจังหวัดxxx มันมีแค่สายการบินต้นทุนต่ำไม่กี่สายการบินเท่านั้นที่เปิดให้บริการ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการนั่งชั้นธุรกิจหรือเฟิร์สคลาสเลยด้วยซ้ำ แต่ทั้งสองอาจจะไม่รู้ ไม่แน่ว่าต่อให้ได้ไปนั่งชั้นธุรกิจจะไม่เจอหิน เพราะถ้าหากว่ามีชั้นธุรกิจหินก็คงเลือกนั่งชั้นธุรกิจเหมือนกัน แถมยังมีโอกาสที่จะเจอกันมากกว่าชั้นประหยัดซะอีก แต่บังเอิญว่ารอบนี้มันดวงสมพงษ์กันไปหน่อย ---------------------------------------- ในที่สุดเครื่องบินก็ถึงจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่9 ภาษาฝรั่งเศส?
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A