ตอนที่12 คัดเลือก 2

โดยปกติแล้วการให้สถาปนิกคนหนึ่งออกแบบสถาปัตยกรรมบางอย่างอาจจะใช้เวลาหลายวัน เพื่อคิด เพื่อออกแบบหรือเพื่อแก้ไขงาน สำหรับอเล็กซ์แล้วถึงแม้ผลงานของเขาจะค่อนข้างแตกต่างอยู่บ้าง แต่เวลาที่เขาใช้ออกแบบผลงานโดยทั่วไปก็เช่นสถาปนิกคนอื่นๆ บางชิ้นก็หลายวัน บางทีก็ไม่มีอารมณ์ออกแบบ กว่าจะออกแบบเสร็จก็ปาเข้าไปหลายอาทิตย์ก็มี การทดสอบที่เขาเพิ่งจะทำมันเสร็จสมบูรณ์นี้คือสิ่งที่ท้าทายขีดความสามารถของเขาอยู่บ้าง อเล็กซ์ใช้สมาธิทั้งหมดของเขาในการออกแบบผลงานชิ้นนี้ ตั้งแต่เริ่มจนจบเขาลุกไปเข้าน้องน้ำแค่ครั้งเดียวและไม่เกิน 5 นาทีด้วยซ้ำไป ตอนเที่ยง อเล็กซ์ไม่ได้ออกไปทานข้าวแต่อย่างไร เขาทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับผลงานชิ้นนี้ อเล็กซ์ไม่ทราบเหมือนกันว่าผลงานชิ้นนี้ของเขาจะผ่านการคัดเลือกหรือไม่ เพราะมันเป็นแค่ดีไซน์ต้นแบบคร่าวๆ เท่านั้น เขาไม่ได้ใส่รายละเอียดเจาะลึกอะไรมากมาย แต่สำหรับอเล็กซ์แล้วนี่เป็นการออกแบบบ้านที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เขาได้เคยออกแบบมา แม้สุดท้ายแล้วมันอาจจะไม่ได้รับการคัดเลือก แต่สำหรับเขาช่วงการทดสอบที่ผ่านมาเขาได้ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว ผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นยังไงเขาก็ไม่เสียใจ หลังจากที่ออกแบบผลงานเสร็จอเล็กซ์ได้ส่งผลงานต่อให้พนักงาน เขาไม่ทราบหรอกว่า กว่าผลการทดสอบจะออกมาต้องใช้เวลานานขนาดไหน กว่าคณะกรรมการจะตัดสินใจ กว่าจะผ่านขั้นตอนต่างๆ คงกินเวลาไปหลายวัน ตอนนี้อเล็กซ์รู้สึกเมื่อตัวสุดๆ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงร้านก็จะปิดแล้ว เขาอยากจะนั่งที่ร้านต่อสักพักแล้วค่อยกลับบ้าน โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ว่าแล้วอเล็กซ์ก็เดินไปสั่งกาแฟเพิ่ม ในขณะนั้นนั่นเองเสียงโทรศัพท์ของอเล็กซ์ก็ดังขึ้น เขาจึงกดรับสายทันที ‘ขอแสดงความยินดีผลงานของคุณได้รับการคัดเลือก ผลงานของคุณจะถูกนำไปใช้ในทันที’ เช่นเคย ข้อความบนหน้าจอได้ปรากฏขึ้นมา “...” ตอนนี้อเล็กซ์กำลังอึ้งสุดๆ ไม่ทันได้ให้อเล็กซ์หายอึ้งข้อความบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ‘สำหรับรางวัลทั่วไปที่คุณอเล็กซ์จะได้รับมีดังต่อไปนี้ 1.เงินรางวัลสำหรับการผ่านการคัดเลือก 1,500 ดอลลาร์ 2.สิทธิในการเข้าร่วมการสร้างโปรเจคนี้’ ตอนนี้หากใครมาเห็นเข้าคงได้ตลกกับท่าทางของอเล็กซ์เป็นแน่ เพราะท่าทางของเขาดูตะลึงสุดๆ และข้อความบนหน้าจอก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง ‘รางวัลพิเศษที่คุณจะได้รับมีดังต่อไปนี้ 1.ค่าออกแบบมาตรฐานที่พึงจะได้รับ 10% จากมูลค่างาน 2.คุณได้รับสิทธิ์ในการเข้าทำงานกับบริษัท’ “ผมกำลังฝันไปใช่ไหม?” อเล็กซ์เอ่ยออกมาประหนึ่งว่านี่เป็นแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น จะโทษอเล็กซ์ก็ไม่ได้ต่อให้ใครมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าก็คงคิดว่าเป็นเพียงแค่เรื่องตลกเพ้อฝันเท่านั้น อย่างแรกอเล็กซ์ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับรางวัลจากการทดสอบด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นแค่เพียงการทดสอบเท่านั้นโดยปกติก็มีแค่ประกาศผลว่าผ่านไม่ผ่านเท่านั้น แต่นี่กลับมีรางวัลให้ด้วย เหมือนกับความพยายามอย่างหนักเกือบ 10 ชม.ที่ผ่านมาได้รับผลตอบแทนของมันแล้ว ทั้งๆ ที่อเล็กซ์ไม่ได้คาดหวังถึงรางวัลแม้แต่น้อย แถมไม่ใช่เงินน้อยๆ ด้วย ตั้ง 1,500 ดอลลาร์ ถ้าเขาใช้อย่างประหยัดนี่เพียงพอที่จะให้เขาใช้ได้ถึง 3 เดือนด้วยซ้ำ อย่างที่สอง เขาได้เข้าร่วมการสร้างโปรเจคนี้!!! นั่นหมายความว่า เขาจะได้เห็นผลงานของเขาถูกสร้างขึ้นมาจริงๆ และมันเป็นผลงานแรกของเขาที่จะถูกสร้างขึ้น แค่เพียงข้อนี้ข้อเดียวก็ทำให้เขารู้สึกดีใจสุดๆ หากความฝันของนักเขียนคือเรื่องของเขาได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือ เช่นนั้น ความฝันของสถาปนิกก็คือผลงานของเขาได้ถูกสร้างขึ้นมา มันเป็นความสำเร็จที่สถาปนิกทุกคนเฝ้าใฝ่ฝันหา ถ้าหากการที่ผลงานถูกสร้างขึ้นคือความสำเร็จ งั้นค่าออกแบบผลงานก็เป็นเหมือนกับผลตอบแทน ไม่มีใครทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทน มันเป็นดั่งแรงจูงใจที่จะทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้อเล็กซ์จะออกแบบเพียงคร่าวๆ แต่เขารู้ว่างานของเขาชิ้นนี้หากถูกสร้างขึ้นจริงๆ ต้องมีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านดอลลาร์อย่างแน่นอน นั่นหมายความว่าขั้นต่ำที่เขาจะได้รับคือต้องไม่ต่ำกว่า 2 แสนดอลลาร์ มันเป็นเงินจำนวนที่เขาไม่เคยคิดฝันถึงด้วยซ้ำหรือถ้าหากเขาจะสามารถหามันได้คงต้องใช้เวลาอีกไม่รู้กี่สิบปี เขาไม่เคยถูกลอตเตอรี่มาก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะรู้แล้วว่าคนที่ถูกลอตเตอรี่รู้สึกยังไง ส่วนข้อสุดท้ายนี่ทำให้อเล็กซ์สงสัยขึ้นมาเล็กน้อย บริษัทที่มีกำลังจ่ายได้ขนาดนี้ได้ ต้องเป็นบริษัทที่ ยักษ์ใหญ่อย่างแน่นอน แต่ทำไมถึงไม่ระบุรายละเอียดอะไรให้เขารู้เลย แม้กระทั่งชื่อบริษัท เหมือนว่าจะอ่านใจอเล็กซ์ได้ข้อความบนหน้าจอได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง ‘ถ้าหากคุณอเล็กซ์สนใจเข้าร่วม สามารถพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในภายหลัง แต่ตอนนี้เรื่องที่ด่วนที่สุดคือการสร้างโปรเจค คุณอเล็กซ์สามารถเดินทางมาเข้าร่วมโปรเจคได้หรือไม่?’ “แน่นอนสิ ที่ไหนล่ะ” เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเขาพูดอยู่กับใคร แต่เขารู้อยู่อย่างหนึ่งว่าไอ้เจ้าของข้อความลึกลับนี้ต้องได้ยินที่เขาพูดเป็นแน่ และเหมือนข้อความที่ถูกเปลี่ยนจะเป็นสิ่งที่ยืนยันความคิดของอเล็กซ์ได้อย่างดี เขาคิดแค่ว่ามันน่าจะเป็นโปรแกรมมัลแวร์อะไรสักอย่างที่สามารถแฮ็กระบบหน้าจอและสามารถดักฟังเสียงจากโทรศัพท์ได้ ‘ประเทศ xxx’ เป็นเพียงข้อความสั้นๆ แต่นั่นก็ทำให้อเล็กซ์ตกใจอีกครั้ง ตอนแรกเขาคิดว่าแค่ต่างเมืองหรือต่างประเทศใกล้บ้าน แต่นี่มันอีกซีกโลกด้วยซ้ำ คนละทวีปกับที่เขาอยู่ ณ ตอนนี้ “ตอนไหน?” อเล็กซ์ได้ตัดสินใจแล้ว ต่อให้ไกลขนาดไหน เขาก็จะไป เขาไม่รู้หรอกทำไมเขาถึงเลือกที่จะเชื่อไอเรื่องพวกนี้ได้ เขาอาจจะโดนต้มตุ๋นหรือโดนหลอกไปขายก็ได้ แต่ภายในใจของเขากลับเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่านี่เป็นโอกาสและเขาไม่ควรพลาดมันไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เขาเชื่อเซนส์ของเขา มันไม่เคยผิดพลาด ‘พรุ่งนี้’ “หะ?” นี่มันไม่เรียกว่าด่วนแล้ว นี่มันโคตร โคตร โคตรด่วน อเล็กซ์คิดขึ้นในใจ ‘ทางเราได้ทำการจองตั๋วเครื่องไว้เรียบร้อยแล้ว คุณอเล็กซ์เพียงแค่กลับไปจัดเตรียมกระเป๋าให้เรียบร้อยเท่านั้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดการเดินทางจนถึงที่พัก ทางเราจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง’ อเล็กซ์นิ่งเงียบคิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง ทุกอย่างมันเร็วมาก ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงแค่สถาปนิกฟรีแลนซ์ตกอับ ที่ได้แค่ออกแบบผลงานไปวันๆ แต่ตอนนี้ผลงานของเขากำลังจะถูกสร้างขึ้น คิดๆ ไปแล้วก็เหลือเชื่อ “นั่นสินะ มันไม่เคยมีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว หวังว่าจะตัดสินใจไม่พลาดนะ” อเล็กซ์เอ่ยเบาๆ กับตัวเอง ‘เราขอรับประกันว่าการตัดสินใจของคุณอเล็กซ์ในครั้งนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน ทางเราจะจัดส่งรายละเอียดการเดินทางและโอนเงินครึ่งแรกให้ในทันที ขอให้คุณอเล็กซ์เดินทางโดยสวัสดิภาพในวันพรุ่งนี้’ หลังจากข้อความสุดท้ายนี้แสดงบนหน้าจอได้ไม่นานนัก โทรศัพท์ของอเล็กซ์ก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง และในทันทีทันใดนั้นเองก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์ เมื่ออเล็กซ์เปิดดูพบว่าข้อความแรกเป็นรายละเอียดของข้อมูลการเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้ ส่วนอีกข้อความเป็นข้อความแจ้งเตือนมีเงินโอนเข้าธนาคาร “WTF!!!!” นอกจากเสียงอุทานที่ทำให้คนรอบข้างหันมามอง ตอนนี้มือของอเล็กซ์ก็กำลังสั่นเมื่อเห็นยอดเงินในบัญชีตัวเอง ‘เดี๋ยวสิ...ทำไมถึงเยอะขนาดนี้’ ตอนที่อเล็กซ์กะมูลค่าคร่าวๆ ของโปรเจคนี้คือประมาณ 2 ล้านดอลลาร์เท่านั้น นั่นหมายความว่าเขาต้องได้ประมาณ 2 แสนดอลลาร์ จ่ายก่อนครึ่งหนึ่งคือ 1 แสนดอลลาร์ และรวมกับเงินรางวัลผ่านการทดสอบอีก 1,500 ดอลลาร์ ถ้าบวกลบก็ไม่น่าจะเกินจากนี้มากนัก แต่เงินที่ถูกโอนเข้ามามันมากถึง 401,500 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่ามูลค่าของโปรเจคนี้ต้องมากถึง 8 ล้านดอลลาร์ อเล็กซ์ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนประเมินมูลค่าของโปรเจคนี้ แต่ยอดเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเขาไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน อเล็กซ์ยิ้มให้กับตัวเองบางๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้ วันที่จะได้แสดงความสำเร็จให้ใครบางคนเห็น คนที่คอยสนับสนุนเขาโดยตลอดไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม คนคนนั้นคือแม่ของเขานั่นเอง “แม่ ลูกของแม่ทำได้แล้วนะ” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ เพื่อจะใช้ดื่มมันในระหว่างทางกลับบ้านของเขา คืนนี้เขาน่าจะได้คุยกับแม่ของตนเองจนดึกเลยทีเดียว ----------------------------------------------------------------------------------------- ก่อนหน้านั้นหลายวัน “ดอกเตอร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการดำเนินแผนการจะเอามาจากไหนครับ” เสียงของเดวิดเอ่ยขึ้น หลังได้รับทราบแผนการของหิน เนื่องจากแผนการของหินนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งค่าเดินทาง ค่าอยู่ ค่าจ้าง ค่าสวัสดิการต่างๆ และค่าใช้จ่ายยิบย่อยมหาศาล “ก็ยืมสิ” เสียงของหินเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “ยืมใครครับดอกเตอร์” “ยืมคนที่มีเงินสิ ก็แค่แก้ไขระบบเล็กน้อย เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว” หินเอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย “ดอกเตอร์ครับการแฮ็กระบบแล้วโจรกรรมข้อมูลทางการเงินมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนะครับ” เสียงของเดวิดเอ่ยค้านขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย “เดวิด เราก็แค่ยืมเงินเขามาโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว จากนั้นค่อยคืนทีหลังเท่านั้นเอง” “แต่ดอกเตอร์ครับ...” “เดดดวิดดดด” เสียงของหินฟังดูเย็นยะเยือกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “อ๋อ มันคือการยืมนี่เอง ผมยังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับดอกเตอร์” “ใช่ไหมล่ะ ก็แค่ยืม” น้ำเสียงของหินฟังดูอารมณ์ดีขึ้นมาทันที “งั้นเดียวผมจะไปจัดการยืมให้เดี๋ยวนี้เลยครับ” พูดจบเดวิดก็ทำการเจาะเข้าระบบธนาคารทั่วโลกทันที หินไม่ได้ต้องการทำให้ใครเดือดร้อนอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้เขาจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน เลยต้องไปหยิบยืมเงินของคนอื่น รอแค่ได้เงินจากการขาย Andria OS เขาจะคืนเงินให้กับคนที่เขายืมมาอย่างแน่นอน