ตอนที่15 ตกใจแล้วก็ตกใจ
1/
ตอนที่15 ตกใจแล้วก็ตกใจ
The Possible Man
(
)
已经是第一章了
ตอนที่15 ตกใจแล้วก็ตกใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น หินได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ทันที อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ในการทำงานของผู้รับเหมาหรือเพราะความสามารถของทีมวิศวะก็แล้วแต่ หินพบว่าภายในบ้านหลังใหม่เหล่านี้กลับไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของกลิ่นสีแม้แต่น้อย เสมือนว่าบ้านหลังนี้ได้สร้างเสร็จมาระยะหนึ่งแล้ว หินรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือบ้านจริงๆ หลังแรกของเขา แม้แต่โลกเดิมเขาจะมีบ้านแต่มันก็เป็นเพียงบ้านที่เป็นมรดกตกทอดของพ่อแม่เท่านั้น บ้านที่เขาสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขาหลังนี้แม้วิธีการได้มามันอาจจะดูโกงอยู่บ้าง แต่ในเมื่อมันไม่ได้มีกฎว่าห้ามใช้ความรู้หรือวิทยาการต่างโลกหาเงิน มันก็ไม่ผิดใช่ไหมล่ะ? ตอนที่ย้ายเข้าคอนโดหินแทบไม่ได้ซื้ออะไรเข้ามาเลย ดังนั้นการย้ายออกจึงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น สิ่งของที่เขาย้ายออก พอๆ กับตอนที่เขาย้ายเข้ามา ดังนั้นการย้ายเข้ามาบ้านหลังใหม่ของหินถ้าจะเรียกว่ามาแค่ตัวเปล่าก็ถือว่าไม่ได้เกินเลยนัก เพราะหินมีแค่กระเป๋าใบเดียวที่ติดมาด้วยจริงๆ ช่วงบ่ายของวัน หินได้นัดหมายทีมทั้ง 12 คนให้มาเจอเขา หินไม่ได้แจ้งให้ทั้ง 12 คนทราบว่านัดหมายมาด้วยเรื่องอะไร แม้ทั้ง 12 คนจะแปลกใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร ที่นัดหมายคือห้องที่ถูกสร้างแยกออกมาจากตัวบ้าน ตอนแรกห้องตรงนี้ถูกสร้างไว้เพื่อสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและใช้นั่งเล่นได้ แต่หินได้สั่งให้อเล็กซ์ปรับเปลี่ยนแบบเล็กน้อยเพื่อเป็นห้องสำหรับประชุมโดยเฉพาะ ตัวห้องแม้ผนังจะถูกสร้างด้วยกระจกใสทั้งสองด้าน แต่ก็มีผ้าม่านได้กั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง แม้จะใกล้ถึงเวลาที่หินได้นัดไว้ แต่ภายในห้องทั้ง 12 คนกลับมากันครบแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกนักเนื่องจากหนึ่งในบททดสอบของหินก็มีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ตรงต่อเวลาย่อมไม่มีทางผ่านบททดสอบของหินได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ภายในห้อง อดัมได้หยิบหูฟังบลูทูธข้างหนึ่งของเขาขึ้นมาพิจารณา “ให้ตายสิ ถึงจะเข้าใจหลักการทำงานของมันแล้ว แต่ฉันก็ยังอดทึ่งไม่ได้อยู่ดี” อดัมเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์จากอินเดีย เขาถนัดทั้งระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ มีอยู่หลายครั้งที่เขาพยายามทำความเข้าใจกับหูฟังบลูทูธที่หินให้มาจนกระทั่งเข้าใจหลักการทำงานของมัน การทำงานหลักๆ ของมัน มีอยู่ 3 อย่าง อย่างแรกคือปิดกั้นเสียง อย่างที่สองคือรับข้อมูลและแปลงผล อย่างที่สามคือการแสดงผลลัพธ์ การปิดกั้นเสียงหมายความว่า มันจะทำการปิดกั้นเสียงจากภายนอก กล่าวคือถ้าหากสวมใส่แม้ไม่ได้เปิดเพลงแต่ก็จะไม่ได้ยินเสียงภายนอกแต่อย่างไร อย่างที่สองคือรับข้อมูลและแปลงผล มันจะมีระบบประมวลผลเล็กๆ ในบลูทูธอันนี้โดยจะวิเคราะห์เสียงทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา โดยมันจะจับภาษาที่ผู้ใช้งานพูดเป็นภาษาตั้งต้น ก่อนที่จะแปลงภาษาอื่นเป็นภาษาตั้งต้นตามที่ถูกบันทึกไว้ อย่างที่สามคือการแสดงผล ความถี่ทุกคลื่นเสียงที่ถูกป้อนเข้าไปจะถูก แสดงออกมาในคลื่นความถี่เดียวกัน หมายความว่า เสียงที่มีคนพูดออกมา จะเป็นเสียงเดียวกับที่ผู้ที่ใช้หูฟังนี้ได้ยิน “แม้จะบอกว่ามันเป็นแค่โปรแกรมแปลภาษา แต่ถ้าเทียบกับโปรแกรมอื่นมันเจ๋งกว่ามาก ดูสิถ้าหากฉันไปแปลในเว็บประโยคที่แปลออกมามันมั่วหมด แต่ไอ้สิ่งนี้มันกลับแปลด้วยความลื่นไหล ฉันว่าต่อให้ล่ามมาแปลด้วยตัวเองก็ไม่น่าจะได้ขนาดนี้” อดัมชื่นชมไม่หยุดปาก นี่ถ้าเดวิดได้ยินเข้าคงยืดอกรับฟังอย่างภาคภูมิใจ เนื่องจากเดวิดเป็นคนเขียนโปรแกรมนี้โดยตรง ที่จริงต้องเรียกว่ารวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูลมากกว่า ข้อมูลที่ได้มาจึงมีความถูกต้องแม่นยำสูงสุด “แกก็พูดซะเวอร์เลย มันก็แค่เครื่องแปลงภาษานั่นแหละน่า!!!” คริสเตียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรำคาญอดัม อดัมกับคริสเตียนสนิทกันอย่างมากเนื่องจากทั้งสองแทบจะตัวติดกันและทำงานในสายงานคล้ายๆ กันอีก เลยทำให้สนิทกันมากกว่าคนอื่นๆ “วิศวกรไฟฟ้าอย่างแก ก็แค่ต่อสายไฟไปวันๆ ไม่มีวันเข้าใจลึกซึ้งในศาสตร์ของซอฟต์แวร์ซะหรอก หึๆๆ!!” อดัมเอ่ยขึ้นอย่างดูถูก มองคริสเตียนด้วยสายตาประมาณ มองคนบ้านนอกเข้าเมือง “อ้าวไอ้แขกนี่ สงสัยจะขาดเครื่องเทศบำรุงสมอง!!!” “อ้าวไอ้หัวทองพูดงี้ก็สวยดิ หรือจะเอา!” การทะเลาะกันแบบเด็กๆ ทำให้หลายคนอดขำและส่ายหน้าเบาๆ ไม่ได้ ที่ทั้งสองคนทำเหมือนจะมีเรื่องกัน ก็เป็นแค่เพียงการหยอกกันเล่นๆ เท่านั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อน… “คุณคริสเตียนครับ เราจะร่างสายไฟตรง...” “คุณคริสเตียนครับ เราควร...” “คุณคริสเตียนครับ ตรงนั้น...” “คุณคริส...” “เลิกเรียกผมว่า ‘คุณ คริส เตียน ‘ได้แล้ว คุณไม่รู้เหรอ ว่ามันออกจะน่ารำคาญมากเลยนะ” คริสเตียนพูดขึ้นอย่างรำคาญกับอดัม คนอื่นก็เรียกเขาว่า คริสเตียน ไอ้อดัมนี่มันจะใส่คุณอะไรนักหนา ทันทีที่คริสเตียนเอ่ยขึ้น คนทั้งหมดในห้องถึงกับเงียบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เหมือนกับว่าจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นหลังจากนี้ ใช่ว่าจะไม่มีสาเหตุ อดัมเห็นว่า คริสเตียนมาจากอังกฤษก็เข้าใจว่า ต้องพูดแบบผู้ดี ผู้ดี เลยเรียกคริสเตียนอย่างสุภาพเสมอ แม้เขาก็รู้สึกกระดากปากจะตายอยู่แล้ว อดัมเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นมาว่า “ไอ้หัวทอง ตกลงแกจะต่อสายแบบนี้เลยใช่ไหม” ทันทีที่อดัมเอ่ยจบในห้องเงียบขึ้นยิ่งกว่าเดิม ถ้าหากมีเข็มหล่นสักเล่มคงได้ยินกันทั้งห้อง ‘จะต่อยกันไหมวะเนี่ย’ ‘เอาแล้วว’ คริสเตียนอึ้งกับคำพูดที่อดัมเอ่ยขึ้น แต่แค่เพียงประเดี๋ยวเดียว ก็พยักหน้าก่อนเอ่ยว่า “เออ ตามนั้นแหละ” ก่อนจะหันกลับไปทำงานตัวเองต่อ ‘WTF!!! คริสเตียนมันชอบแบบนี้เหรอฟะ’ ‘แบบนี้ก็มีเหรอ?’ คริสเตียนไม่ค่อยชอบคนที่เรียกเขาแบบสุภาพเท่าไหร่นัก เขาเคยเจอคนประเภทนี้เยอะมากในอังกฤษและคนพวกนี้มันจะเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอกเสมอ ทำให้เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก กลับกันคำเรียกที่ไอ้หนุ่มอินเดียนี่เรียกเขา ถึงแม้จะดูหยาบไปบ้างแต่กลับดุจริงใจสุดๆ เพื่อนร่วมงานรอบๆ มองทั้งสองคนเหมือนคนเอ๋อและไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น คริสเตียนและอดัมก็สนิทกันสุดๆ เมื่อถึงเวลาที่ได้นัดหมายหินก็เดินเข้ามาในห้อง “สวัสดีตอนบ่ายครับ ที่ผมนัดพวกคุณมาประชุมวันนี้ เพราะมีเรื่องจะคุยกับพวกคุณ” เมื่อหินเริ่มเปิดปากพูด ทุกคนในห้องก็รับฟังอย่างตั้งใจ “ผมพอใจในผลงานที่พวกคุณร่วมกันสร้างเป็นอย่างมากและมิตรภาพของพวกคุณ ที่ทำงานอย่างไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย” เมื่อหินกล่าวชม ทุกคนดีใจกันมาก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหินจะรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ยังไงในเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาหินไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย ถึงแม้หินจะไม่ได้เข้ามาก็จริง แต่ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา หินได้ให้เดวิดติดตามและรายงานตลอดเวลา ถึงแม้มันจะดูเหมือนละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่มีใครจับได้ก็ไม่ชื่อว่าผิดใช่ไหมล่ะ? “ผมถือว่าพวกคุณผ่านการทดสอบอย่างแท้จริง” “คุณหินหมายความว่า โปรเจคสร้างบ้านมูลค่า 8 ล้านดอลลาร์ นี่เป็นแค่อีกบททดสอบเหรอคะ?” แอนนาพูดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ไม่ใช่แค่แอนนาเท่านั้น ทั้ง 12 คนที่อยู่ภายในห้องนี้ต่างแสดงสีหน้าแบบเดียวกันหมด นี่ไม่ใช่ 8 ล้านบาทนะ นี่ 8 ล้านดอลลาร์ หรือ 240 ล้านบาท แต่นี่กลับเป็นเพียงบททดสอบ โอ้พระเจ้า!!! หินยิ้มขึ้นเบาๆ ก่อนเอ่ยว่า “ผมชอบสีหน้าพวกคุณตอนนี้มากเลยนะ แต่ก็ใช่นี่คือบททดสอบสุดท้ายที่ผมได้ทดสอบพวกคุณ ในตอนนี้พวกคุณได้ผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานร่วมกับผมอย่างแท้จริง” “ผมจะให้เงินเดือนพวกคุณ 50,000 ดอลลาร์” สิ้นเสียงของหิน ใบหน้าของทุกคนดูผิดหวังเล็กน้อย 50,000 ดอลลาร์ต่อปี แม้ไม่ได้มากมาย แต่ก็ถือว่าเป็นเงินเดือนพื้นฐานสำหรับคนเริ่มงานใหม่ๆ ถึงจะเป็นเพียงเงินเดือนพื้นฐาน แต่สำหรับพวกเขาทั้ง 12 คน บางคนก็ไม่ได้เงินมาหลายเดือนแล้ว บางคนก็ทำงานฟรีแลนซ์ที่นานๆครั้ง ถึงจะมีงาน ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว คิดได้แบบนี้สีหน้าของทุกคนก็เริ่มดีขึ้น การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้น อยู่ภายใต้สายตาของหินทั้งหมด หินยิ้มขึ้นน้อยๆ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ ที่ผมว่าไปน่ะ ต่อเดือนนะ ไม่ใช่ต่อปี” “ห๊ะ!!” “Shxx!!” เสียงอุทานหลุดออกมาจากปากอดัม ทำให้เขาเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน จริงๆ มันก็ไม่ทันนั่นแหละ มันออกมาแล้วนี่ “คุณหินต้องล้อผมเล่นแน่ๆ ” เดฟวิศวกรเครื่องกลจากเยอรมัน เอ่ยขึ้นอย่างเหลือเชื่อ “ผมไม่ได้ล้อพวกคุณเล่น นี่ยังไม่รวมสวัสดิการอื่นๆ ที่พวกคุณจะได้รับ” “คุณหินพอจะบอกรายละเอียดคร่าวๆ ได้ไหมคะ” แอนนาถามขึ้นมาอีกครั้ง เสียง ฮือฮา ทั้งหมดเงียบลงทันที เหมือนทุกคนพร้อมใจฟังในสิ่งที่หินกำลังจะพูดต่อไปนี้ ขนาดเงินเดือนยังขนาดนี้แล้ว สวัสดิการจะขนาดไหน “พวกคุณจะได้รับ บ้าน รถยนต์ ประกันสังคมและแต้มแลกเปลี่ยนพิเศษของบริษัท” หินเอ่ยขึ้น “แต้มแลกเปลี่ยนพิเศษคืออะไรหรือคะ?” แอนนาถามขึ้นอีกครั้ง ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันอย่างเห็นด้วยกับคำถามของเธอ สวัสดิการอื่นๆ นั้นพวกเขาเข้าใจว่าหมายถึงอะไร แต่ไอแต้มแลกเปลี่ยนพิเศษนี่พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ “เดี๋ยวพวกคุณก็รู้เองนั่นแหละ ในตอนนี้ผมบอกพวกคุณได้แค่เท่านี้” “แต่ผมมีกฎของผมเช่นกัน” หินพูดขึ้นพลางกวาดสายตาที่เย็นชาผ่านทุกคนในห้อง “ผมไม่ชอบการรับสินบน การโกหก และการโกง ถ้าหากผมรู้ผมจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที โทษอย่างน้อยที่สุดของคนที่ทำผิดคือ ไล่ออกและริบทรัพย์สินรวมทั้งสวัสดิการทุกอย่างของบริษัทคืน ผมหวังว่าพวกคุณจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดและไม่ทำให้มันเกิดขึ้น” สายตาที่หินใช้จ้องมองไปยังทุกคน เหมือนดั่งสายตาปีศาจที่จะพรากเอาชีวิต ทำให้พวกเขาทุกคนขนลุกและเสียวสันหลังขึ้นมา ไม่ต้องถามเลยว่านี่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือไม่ เมื่อเอ่ยจบหินกลับมายิ้มอีกครั้งก่อนเอ่ยว่า “แต่พวกคุณเป็นคนกลุ่มแรกที่ทำงานให้ผม ดังนั้นถ้าพวกคุณดีต่อผม ผมก็จะดีต่อพวกคุณอย่างแน่นอน” ทันทีทันในบรรยากาศอันแสนอีกครึมนั้นก็หายไป ทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจได้ทั่วท้องอีกครั้ง “ตอนนี้ถ้าพวกคุณเช็คยอดเงินในบัญชี ก็น่าจะได้เห็นยอดที่โอนเข้าแล้ว” สิ้นเสียงของหิน อดัมรีบเช็คโทรศัพท์ของตนเองอย่างรวดเร็ว “เชรี่ย เขาไม่ได้พูดเล่นยอดเงินโอนเข้าบัญชีแล้วจริงๆ แต่ทำไมเป็น 100,000 ดอลลาร์ล่ะ” อดัมถามขึ้นด้วยความสงสัย ไม่ใช่ว่าพวกเขาพึ่งได้เข้าทำงานหรอกเหรอ “สองเดือนที่ผ่านมา ผมไม่ได้ให้พวกคุณทำงานให้ฟรีๆ หรอก” ซึ่งหินได้โอนเงินอีกครึ่งหลังของอเล็กซ์ เข้าพร้อมกับการโอนเงินรอบนี้ ทำให้คนที่ดูมีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นอเล็กซ์ แต่เหมือนอดัมจะเริ่มเอะใจบางอย่างได้ “คุณหินเมื่อกี๊ผมพูดกับคุณเป็นภาษาฮินดีนี่ คุณก็เข้าใจที่ผมพูดด้วยเหรอ” เมื่ออดัมเอ่ยจบทุกคนก็เริ่มหันมาสังเกตหินทันที ใช่แล้วเมื่อกี๊ นอกจาก ภาษาฮินดีของเขา ยังมีภาษาเยอรมันของเดฟ มีหลายคนเริ่มนึกไปถึงวันแรกที่ได้คุยกันและหินได้คุยกับทุกคน เขาไม่ได้ใส่หูฟังบลูทูธเลย “คุณหินคุณพูดได้กี่ภาษากัน นี่.. นี่ คุณทำได้ยังไง” อดัมเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจสุดๆ อย่าว่าแต่อดัมเลย แม้กระทั่งคนที่เงียบขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจาที่สุด ก็ยังแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา ในตอนนี้ทุกคนเหมือนจะสนใจคำตอบมากกว่าคำถามเกี่ยวกับแต้มพิเศษเมื่อสักครู่ซะอีก หินยิ้มขึ้นอีกครั้งก่อนตอบกลับไปว่า “นี่ก็ไม่ใช่เรื่องสุดท้ายหรอกนะ ที่คุณจะประหลาดใจ” ทำไมคำตอบมันฟังดูคุ้นๆ? อดัมคิดขึ้นในใจ “เอาล่ะเรื่องสุดท้ายที่ผมจะแจ้งพวกคุณก็คือเรื่องงานที่จะให้พวกคุณไปจัดการ” หินพูดเปลี่ยนเรื่องทันที “ผมจะให้พวกคุณ สร้างตึกแรกของบริษัท” “ขอทราบรายละเอียดมากกว่านี้ได้ไหมคะ?” “ผมไม่มีรายละเอียดอะไรหรอก ผมแค่ต้องการให้พวกคุณสร้างตึกแรกของบริษัท รายละเอียดทุกอย่างพวกคุณเป็นคนกำหนด แต่ถ้าจะพูดถึงลักษณะสำคัญหน่อยก็… ศูนย์รวมทุกอย่าง” “ศูนย์รวมทุกอย่าง” ทุกคนทวนคำพูดหินอย่างลืมตัว “ใช่ มันคือศูนย์รวมทุกอย่าง มันคืออนาคต ถ้าหากว่าพวกคุณรู้สึกว่า งานมันหนักมากเกินไป ผมอนุญาตให้พวกคุณ หาคนเพิ่มได้ผมจะช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นเอง” “มีงบประมาณในการก่อสร้างเท่าไหร่คะ?” แอนนาถามขึ้นอีกครั้ง ในขณะนั้นนั่นเองอดัมรู้สึกคอแห้งอย่างไม่มีสาเหตุ เขาจึงหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม “4,000 ล้านดอลลาร์” “พรวด!!!” เมื่อสักครู่อดัมพึ่งหันหน้าไปทางคริสเตียนพอดี “ห๊ะ!!!” รอบนี้ไม่มีใครที่ยังนั่งติดเก้าอี้อีกเลย ทุกคนต่างลุกขึ้นด้วยความตกใจสุดๆ แม้ตอนนี้หน้าคริสเตียนจะชุ่มไปด้วยน้ำจากปากของอดัม แต่เขาก็ตกใจจนไม่ได้สนใจในเรื่องนี้แม้แต่น้อย นี่มันวันตกใจแห่งชาติหรืออย่างไร ทำไมถึงมีเรื่องให้พวกเขาตกใจได้มากขนาดนี้ ที่สำคัญมันยังมาจากแค่คนคนเดียว ก็คือเด็กหนุ่มที่อายุไม่น่าจะเกิน 20 คนนี้ “ละ ละ แล้วเวลาในการดำเนินการหล่ะ?” รอบนี้เป็นคริสเตียนที่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก “ภายใน 1 ปี” หินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติสุดๆ ตุบ!!! ขวดน้ำภายในมือของอดัม ได้ตกลงพื้นจนน้ำกระเซ็นออกมาทั่วพื้น แต่ในตอนนี้คงไม่มีใครมีกะจิตกะใจมาว่าอดัม ถ้าหากว่าเรื่องงบที่ได้มาคือ เรื่องที่ทำให้พวกเขาตกใจสุดๆ ไปแล้ว เรื่องระยะเวลาที่ใช้สร้างก็คงเป็นเรื่องที่น่าตกใจอันดับหนึ่งของวันนีั้ ไม่สิเรื่องที่น่าตกใจที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาก็ว่าได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่15 ตกใจแล้วก็ตกใจ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A