ตอนที่ 24 : พ่อเลี้ยงไตรภพ ( 1 )   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 24 : พ่อเลี้ยงไตรภพ ( 1 )
ตอนแรกหินกะจะนั่งแท็กซี่กลับทันทีหลังจากที่เดินไปส่งนัท แต่หลังจากที่เดินเข้ามาในห้างหินก็นึกได้ว่าตั้งแต่ไปเดินห้างกับแทนครั้งล่าสุด นี่ก็สักพักแล้วที่ไม่ได้มาเดินห้างเลย หินจึงเปลี่ยนใจไม่กลับในทันที แต่เลือกที่จะเดินห้างต่อคนเดียว หินเดินเข้าออกอยู่หลายร้าน แต่กลับไม่ได้ซื้ออะไรติดกลับออกมาแม้แต่อย่างเดียว เพราะหินแค่ต้องการเดินสำรวจดูเท่านั้น จนกระทั่งหินเดินมาหยุดอยู่ที่ร้านหนังสือ จากองค์ความรู้ที่หินมีหนังสือของโลกนี้ไม่ได้มีความจำเป็นกับเขาแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของหินกลับเป็นรูปภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองนี้ ที่วางขายอยู่บนชั้น เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศแม้ความเจริญไม่ได้มากมายนัก แต่กลับมีจุดเด่นคือธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นจึงเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวตามธรรมชาติ ดอย ภูเขา ต้นไม้ อากาศที่แสนบริสุทธิ์ ทะเลหมอก เรียกได้ว่า หากต้องการเที่ยวธรรมชาติ ที่นี่เป็นที่ที่เหมาะสมที่สุด สิ่งที่ดึงความสนใจของหินในตอนนี้ก็คือ รูปภาพใบหนึ่ง ที่วางขายอยู่บนชั้น มันเป็นรูปฟาร์มแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่นอกเมือง ในโลกเดิมของหิน การทำฟาร์มก็เหมือนกับเรื่องประวัติศาสตร์ ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีก เพราะการทำฟาร์มหรือทำไร่ในโลกเก่าของเขา ได้สูญหายไปก่อนที่จะเกิดยุคจักรกลด้วยซ้ำ มลพิษและกัมมันตรังสี ทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชต่างๆ แบบระบบเปิดได้อีก ทำได้แค่เพียงต้องสร้างโดมขนาดยักษ์เพื่อเพาะปลูกพืชเป็นพิเศษที่ไม่ถูกปนเปื้อนจากสารอันตราย ข้อดีของการทำเช่นก็คือ การเพาะปลูกและการควบคุมพืช จะถูกมนุษย์ควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ กล่าวคือ มนุษย์สามารถปรับสภาพอากาศและเลือกปลูกพืชได้แบบที่ต้องการ อยากได้พืชโซนร้อนก็ปรับสภาพอากาศในโดมให้ร้อน อยากได้พืชโซนหนาวก็แค่ปรับอุณหภูมิในโดมให้ต่ำลง มนุษย์สามารถควบคุมสภาพอากาศและการเจริญเติบโตของพืชได้ดั่งใจนึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมไปแล้ว แทบจะ 95% ในโลกเก่าของหินพืชถูกดัดแปลง ปรับเปลี่ยนพันธุกรรมหมด ทั้งเกิดจากความตั้งใจของมนุษย์และความผิดปกติที่เกิดจากกัมมันตรังสี แม้พืชในโลกของเขาจะมีความแปลกใหม่และมีวิวัฒนาการขั้นสูง แต่ก็เป็นสิ่งที่ถูกปรับแต่งสร้างขึ้นทั้งนั้น ไม่ใช่ธรรมชาติที่แท้จริง ดังนั้นการทำฟาร์มของโลกเก่าของหินก็เปรียบเหมือนการพูดถึง ไดโนเสาร์ในโลกนี้ มันเคยมีอยู่เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่สามารถพบเจอได้อีก ในโลกที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าที่สุด กลับทำให้กลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ มลายหายไปจนสิ้น หินไม่ต้องการให้โลกใบนี้เป็นดั่งโลกเก่าของเขา บางทีวิทยาการที่ก้าวหน้ามากเกินไป อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นในโลกนี้ วิทยาการต่างๆ ที่หินจะสร้างขึ้น เขาจะควบคุมมันไม่ให้ไปเบียดเบียนธรรมชาติโดยเด็ดขาด หินเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยที่ไม่จำเป็นต้องเบียดเบียนและทำลายธรรมชาติ หลังจากที่ตกอยู่ในภวังค์ อยู่ชั่วครู่หนึ่ง ในที่สุดหินก็ได้สติกลับคืน ก่อนที่จะหยิบรูปฟาร์มแห่งนั้นมาดูแล้วเอ่ยกับเดวิด “มีที่ไหนที่ยังมีพื้นที่ที่มากเพียงพอที่จะทำไร่หรือทำฟาร์มหรือเปล่า เดวิด?” “มีครับดอกเตอร์ นอกเมืองออกไปประมาณ 100 กิโลเมตร มีฟาร์มแห่งหนึ่งที่ถูกประกาศขายเอาไว้” “ส่งรายละเอียดให้ฉันและก็ข้อมูลติดต่อด้วย” ใช้เวลาแค่เพียงชั่วครู่เดียว เดวิดก็ส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้หิน “เจ้าของคนเก่า ตายไปแล้ว ลูกสาวผู้ที่รับมรดกต่อ ไม่สามารถบริหารต่อได้เลยต้องการขายสินะ” ‘ใช่แล้วครับดอกเตอร์’ “ติดต่อเจ้าของไร่ให้ฉันเลย พรุ่งนี้ เดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะไปเจอเธอด้วยตัวเอง” ‘ได้ครับดอกเตอร์’ เนื่องจากหินกำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการพูดคุยกับเดวิดเขาจึงไม่ได้รู้ตัวเลยว่า คนรอบข้างกลับมองมาที่เขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ “เฮ้อ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ กลับกลายเป็นบ้าซะละ” “แม่ๆ ดูพี่คนนั้นสิ เค้ายืนคุยกับใครครับ” “เนี่ยแหละลูก เรียนหนักจนสติฟั่นเพือน ลูกโตไปก็อย่าหักโหมนะ เดี๋ยวจะเป็นแบบพี่เขา ” หลังจากได้สติหินจึงรู้ว่าตัวเองได้ปกเป็นเป้านินทาของคนรอบข้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจึงรีบเดินออกไปจากจุดนี้ทันที “ฉันว่าฉันต้องหาหูฟังบลูทูธมาใช้แบบจริงจังละ ไม่งั้นคนได้มองว่าบ้าไปมากกว่านี้แน่” หินเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้างเพื่อหาแท็กซี่กลับมหาลัย เนื่องจากหินเองยังจอดรถจักรยานไว้ที่มหาลัย ถ้าหากกลับไปช้ามากกว่านี้ มันจะดึกเกินไปสำหรับการปั่นจักรยานกลับบ้าน . . . . หลังจากที่หินเรียนคาบเช้าเสร็จ พักเที่ยงหินก็ได้ไปกินข้าวกับนัท ตอนที่เขาบอกมันว่าตอนบ่ายจะไปทำธุระ มันขอตามไปด้วย แต่หินบอกปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่ามันเป็นธุระส่วนตัว เช่นเดิมหินยังคงใช้บริการแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปยังฟาร์มที่ได้ให้เดวิดติดต่อไว้ ระยะทางจากมหาลัยไปจนถึงฟาร์มที่ว่าไม่ได้ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึง ระหว่างที่รถแท็กซี่ขับเข้ามาในฟาร์ม หินได้สังเกตและมองไปรอบๆ สองข้างทาง หินพบว่า ฟาร์มนี้มีขนาดค่อนข้างกว้าง และมีคนงานที่กำลังทำหน้าที่ของตน บ้างก็กำลังถอนหญ้า บ้างก็กำลังทาสีรั้ว จนกระทั่ง รถได้หยุดจอดลงที่หน้าบ้านไม้ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งหินคิดว่าน่าจะเป็นบ้านของเจ้าของคนเก่าที่เหลือไว้ เนื่องจากมันค่อนข้างดูเก่าอยู่บ้าง แต่กลับดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ไม่นานนัก ก็มีหญิงวัยกลางคนหน้าตาหมดจดคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับหิน “สวัสดีค่ะ นี่ใช่คุณหินรึเปล่าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น “ใช่ครับ คุณคือ เจ้าของฟาร์มรึเปล่าครับ” หินถามกลับไป แม้เขาจะรู้อยู่แล้วตามข้อมูลที่ได้รับมาจากเดวิด “ใช่ค่ะ ฉันชื่อ กาญสุดา เป็นเจ้าของฟาร์ม แห่งนี้” กาญสุดาเอ่ยขึ้นพลางมองมาที่หินอย่างสำรวจ ซึ่งหินก็พึ่งนึกได้เช่นกันว่าตนเองไม่ได้เปลี่ยนชุด หลังจากเลิกเรียนเสร็จตนเองไม่ได้กลับบ้าน เพราะหินกลัวว่าจะไม่ทันเวลานัด จึงรีบตรงมายังฟาร์มแห่งนี้ทันที ตอนนี้หินจึงยังสวมใส่ชุดนักศึกษาอยู่ “ขอโทษทีครับ พอดีผมรีบไปหน่อย” หินมองเห็นแววตาผิดหวังที่ฉายผ่านแววตากาญสุดาอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะปรับอารมณ์ให้กลับมาปกติอีกครั้ง “เชิญคุณหินเข้าไปข้างในก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะให้เด็กไปเตรียมของว่างให้ คุยกันข้างในน่าจะสะดวกกว่า” กาญสุดา แม้เธอไม่ได้คาดหวังเกี่ยวกับการพูดคุยครั้งนี้ แต่ก็ยังแสดงออกถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี หินค่อนข้างชื่นชมกาญสุดาไม่น้อย แม้ตนเองจะดูไม่น่าเชื่อถือ แต่กาญสุดากลับไม่ได้ขับไสไล่ส่งแต่อย่างใดกลับกัน กาญสุดากับเชื้อเชิญหินให้เข้าไปในบ้านแทน หลังจากที่หินได้เดินตามกาญสุดาเข้ามาในบ้าน พบว่าแม้ข้างนอกบ้านจะดูเก่า แต่ภายในกลับดูเป็นระเบียบและสะอาดเป็นอย่างมาก บ่งบอกว่าได้รับการดูแลรักษาอย่างดี การตกแต่งภายในบ้านตกแต่งด้วยสไตล์เม็กซิโก นอกจากนั้นภายในบ้านยังประดับไปด้วย ศีรษะและหนังสัตว์ นั่นบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านคนเก่าได้เป็นอย่างดี ‘มันช่างดูน่ากลัวนะครับดอกเตอร์ คนโลกนี้ก็แปลก เอาร่างของสิ่งมีชีวิตมาประดับตกแต่งที่อยู่อาศัย’ เดวิดเอ่ยขึ้น หิน “...” ‘เดวิด แกเป็น AI นะ...’ หินนึกขึ้นในใจด้วยความเอือมระอา หลังจากสังเกตไปรอบๆ หินจึงได้เจอรูปผู้ชายคนหนึ่งซึ่งแขวนอยู่บนผนัง เป็นรูปของชายวัยกลางคนในชุดคาวบอย กาญสุดาเห็นว่าหินกำลังให้ความสนใจรูปใบนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “นั่นพ่อของฉันเองค่ะ เขาถ่ายรูปนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว” หินไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปจนทั้งคู่เดินมาถึง ห้องรับแขก กาญสุดาจึงเชิญให้หินนั่งบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ ก่อนจะให้คนงานไปเอาของว่างมาเสิร์ฟ “คุณเดวิดคือคนที่ติดต่อฉันเข้ามา บอกว่าเป็นเลขาส่วนตัวของคุณหิน แต่ฉันเห็นว่าคุณมาแค่คนเดียว คุณเดวิดไม่ได้มาด้วยเหรอคะ” กาญสุดาถามขึ้นอย่างสงสัย ปกติเลขาส่วนตัวก็มักจะอยู่ติดกับเจ้านายตัวเองเสมอ แต่กาญสุดากลับเห็นแค่หินคนเดียวที่มา “คุณเดวิดติดธุระด่วนน่ะครับ” หินเอ่ยตอบออกไป จะบอกว่าตอนนี้เดวิดอยู่ในหัวก็ยังไงอยู่ “อ๋อ ค่ะ” กาญสุดามองหินอย่างพิจารณาชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “คำถามนี้อาจจะละลาบละล้วงคุณหินไปบ้าง แต่คุณหินสามารถบอกฉันได้ไหมคะ ว่าคุณทำงานอะไรหรือครอบครัวคุณทำธุรกิจอะไร” หินรู้ว่ากาญสุดาถามคำถามนี้เพื่อจะสามารถประเมินหินว่ามีความสามารถในการซื้อจริงๆ หรือไม่ เพราะการซื้อขายครั้งนี้หมายถึงการซื้อไร่ฟาร์มที่มีขนาดพื้นที่พันกว่าไร่และมันมีมูลค่าหลายร้อยล้าน “ผมไม่สะดวกที่จะตอบคำถามนี้ครับ เอาเป็นว่าเราเข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ ผมอยากทราบว่า คุณต้องการขายราคาเท่าไหร่” “เอ่อ...” กาญสุดามีท่าทีอึกอักเหมือนต้องการพูดบางอย่าง “ถ้าหากว่าคุณมีเงื่อนไขอะไร คุณสามารถบอกกับผมได้เลยครับ” กาญสุดานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเอ่ยออกมา “จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาติดต่อซื้อที่ดินของพ่อฉัน เพียงแต่ว่า ฉันมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง ถ้าหากคุณหินได้ฟังอาจจะทำให้คุณเปลี่ยนใจได้” “บอกมาได้เลยครับ” “ที่ดินผืนนี้เป็นเหมือนสมบัติตกทอดของตระกูล ใจจริงฉันก็ไม่ได้อยากขายมันเท่าไหร่นัก แต่เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง ทำให้สุดท้ายฉันต้องยอมขายมัน เพียงแต่ว่า ฉันไม่อยากให้คุณไล่คนงานในไร่ออกไป เพราะพวกเขาเปรียบเสมือนครอบครัว ที่อยู่กับตระกูลฉันมานาน ถ้าหากถูกไล่ออกไป พวกเขาคงลำบากแย่” “คุณขายราคาเท่าไหร่ครับ” หินไม่ได้เอ่ยตอบออกไปแต่กลับถามกลับไปแทน “ที่ดินทั้งหมด 1500 ไร่ รวมทั้งบ้าน โรงนาต่างๆ และอุปกรณ์ทั้งหมด ฉันคิดราคา 1,200 ล้านบาท” “...” หินไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา “แต่ถ้าหากคุณไม่ยอมรับเงื่อนไขของฉัน ฉันก็จะไม่ขายมันออกไปอยู่ดี นี่จึงทำให้คนก่อนหน้านี้ที่มาติดต่อขอซื้อพากันเปลี่ยนใจกันหมด ดังนั้นฉันเข้าใจหากคุณหินจะเปลี่ย...” “ผมยอมรับเงื่อนไขครับ” หินเอ่ยขึ้น กาญสุดาอึ้งไปอยู่พักหนึ่งก่อนจะได้สติ “เมื่อกี๊คุณหินว่ายังไงนะคะ” กาญสุดาถามขึ้นอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่ “ผมยอมรับเงื่อนไขครับ”
已经是最新一章了
加载中