บทที่ 2 ถึงเป็นหมอ แต่ก็รู้จักเจ็บ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 2 ถึงเป็นหมอ แต่ก็รู้จักเจ็บ
ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย! ปาณวัตรจามออกมาติด ๆ กัน ช่วงนี้สุขภาพร่างกายเขาย่ำแย่เพราะเร่งทำรายงานจนดึกดื่น เขาใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยจนเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองไปแล้ว เหลือเวลาอีกเดือนกว่า ๆ ที่สัญญาเช่าจะครบกำหนดและเขาจะต้องหาบ้านพักใหม่ให้ได้เร็ววัน เพื่อที่จะได้แจ้งให้เจ้าของบ้านเช่าหลังนี้ทราบล่วงหน้า พร้อมรับเงินมัดจำคืน บ้านหลังนี้ไกลเกินไป กว่าจะเดินถึงป้ายรถเมล์ก็ใช้เวลาเกือบยี่สิบนาที เพื่อนบ้านก็ทะเลาะกันเกือบทุกวันทำให้เขานอนไม่หลับ ในช่วงเย็นเขาใช้เวลาตระเวนหาบ้านเช่าใหม่ แต่ยังไม่เป็นที่ถูกใจนัก อย่างน้อยเขาก็ยังอยากได้รูมเมทสักคนที่เป็นคนไทยเหมือนกัน เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือปรึกษากันได้ ที่สำคัญ...การอยู่คนเดียวนี่มันเหงาเหลือเกิน ตื่อ ดือ ดื๊ด เสียงโปรแกรมแชทจากคอมพิวเตอร์ดังขึ้น เขาคลิกเปิดหน้ากล้องบนจอ เห็นหน้าทะเล้น ๆ โผล่ขึ้นมา ชายหนุ่มเสียบไมค์แล้วนั่งมองหญิงสาวหัวฟูที่ดูเหมือนจะเพิ่งตื่นนอน กำลังบิดขี้เกียจหาวหวอด ๆ ผมของหล่อนยาวขึ้น ตอนนี้เลยบ่าลงมาแล้ว รูปร่างยังผอมบางเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปคงจะมีแต่แววตาเท่านั้น เธอกำลังมีความสุข เมื่อใดที่เธอมีความสุข ตาของเธอจะเป็นประกายวิบวับอยู่ตลอดเวลา “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่หมอ” “ว่าไงคนเก่ง...ตื่นแต่เช้าเลยนะ” เขามองหญิงสาวที่กำลังขยี้ตาด้วยความคิดถึง สงสัยว่าเธออยู่ที่ไหน เพราะฉากหลังที่มองเห็นเป็นเตียงขนาดใหญ่ และดูเหมือนจะมีคนนอนอยู่ด้วยหลายคน “พี่หมอนั่นแหละดึกแล้วทำไมไม่นอน เดี๋ยวนะคะ...นามีคนจะแนะนำให้รู้จัก แต่น แตน แต๊น!” ภาวนาพูดจบ ผ้าห่มก็ถูกสะบัดออก และอะไรบางอย่างก็ลุกพรวดขึ้นมาโผล่ตรงหน้าจอ พร้อมกับเสียงร้องแสบแก้วหู “แฮปปี้เบิร์ทเดย์ค่ะ! พี่หมอ” ชายหนุ่มอมยิ้ม เมื่อหญิงสาวพร้อมผองเพื่อนร้อมใจกันชูป้ายสุขสันต์วันเกิดที่ทำขึ้นเองให้เขา เป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งปีที่ได้เห็นพวกเธออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนอย่างในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา นั่นสินะ...เกือบครึ่งปีแล้วที่หัวใจของเขามันเจ็บปวด นับตั้งแต่รู้ความจริงว่าภาวนานั้นเป็นน้องสาวแท้ ๆ และต้องแต่งงานไปกับคนอื่น ใจสลายครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อต้องตัดใจจากความรักที่บ่มเพาะมานานหลายปี “ยังไม่หมดนะคะ...ไอ้มิ้นไปเอามาเร็ว!” หญิงสาวหันไปสั่งมนัญญาซึ่งเป็นเพื่อนสาวให้นำของที่ตระเตรียมไว้ออกมา “ความจริงไอ้เปรมมันบอกว่าจะใส่ชุดวันเกิดให้พี่หมอดูน่ะค่ะ แต่มันบอกว่าเดี๋ยวพี่หมอจะเสื่อมซะก่อน ก็เลยเหลือผ้าถุงไว้หนึ่งชิ้น” ภาวนาเลื่อนกล้องเว็บแคมไปทางเปรมสินีซึ่งตอนนี้อยู่ในชุดกระโจมอกและมวยผมขึ้นเหมือนกำลังจะไปอาบน้ำ ซึ่งเธอก็แอ่นสุดฤทธิ์ในท่าที่คิดว่าดูแล้วเซ็กซี่ที่สุด พร้อมกับส่งจูบมาให้อีกหนึ่งฟอด “อย่าสนใจเลยนะคะ คิดซะว่าเห็นผีบ้านผีเรือน ฮิ ๆ” น้องสาวของเขาหัวเราะคิก ก่อนจะโดนเพื่อนสาวทำท่าบีบคอประกอบคำบรรยาย มนัญญาเดินเข้ามาพร้อมกับเค้กก้อนโต จุดเทียนไว้พร้อม พวกเขาวางเค้กไว้ตรงหน้า แล้วเลิกซุกซน หันมานั่งล้อมวงกันบนเตียง “ขอให้พี่หมอมีความสุขมาก ๆ เรียนจบกลับมาหาพวกเราเร็ว ๆ สุขสันต์วันเกิดค่ะ” จากนั้นภาวนาและผองเพื่อนในนามแก๊งเวอร์จิ้นก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์กันดังลั่น เขาต้องกลั้นก้อนสะอื้นที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วอยู่ในอก ปลาบปลื้มที่พวกเธอไม่ลืมวันนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วก็ตาม “แฮปปี้เบิร์ทเดย์.....ทูยู.....เป่าเค้กสิคะพี่หมอ” ภาวนายื่นเค้กมา เขาจึงทำท่าเป่าให้พวกเธอเสียหน่อย จากนั้นเธอก็วางเค้กไว้ตรงหน้า แล้วเป็นคนจัดการเป่าเทียนซะเอง “ทำไงดีล่ะ อยากกินเค้กจะแย่” เขาแหย่กลับ เมื่อเห็นหนุ่มสาวกำลังแย่งกันจิ้มเค้กก้อนนั้นแบบไม่เกรงใจเจ้าของวันเกิดซะเลย “เดี๋ยวนากินแทนพี่หมอนะคะ...ดึกแล้วห้ามกินของหวาน” ภาวนายัดเค้กใส่ปาก จากนั้นเพื่อนๆ ก็พากันเฮโลออกจากห้อง รู้ดีว่าปาณวัตรอยากจะคุยกับภาวนาแบบส่วนตัว “ขอบคุณมากนะ สำหรับเค้กและคำอวยพร มัวแต่เสิร์ชงานในเน็ตจนลืมไปเลย” เมื่อไม่มีคนอื่น เขาก็เริ่มคุยอย่างจริงจัง “แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะคะ...เดี๋ยวนาก็แก่ตามไปติด ๆ” หล่อนย่นจมูก เท้าคางเอียงคออย่างน่ารัก “แล้วนี่ ดร.ชุลภัสว์ไปไหนเสียล่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือ?” เขาถามหาสามีของเธอ ซึ่งปกติจะไม่ยอมปล่อยภรรยาให้ห่างตัวเด็ดขาด พอไม่เห็นแบบนี้ก็กลัวว่าจะทะเลาะกันอีก “ไม่อยู่ค่ะ ไปอเมริกา...นี่นาพาไอ้สามตัวนั้นมากระโดดน้ำเล่นที่อยุธยาดับร้อน อิจฉากันไหมเอ่ย?” เธอถามยิ้ม ๆ เพราะชุลภัสว์บินไปส่งงานวิจัยที่นิวยอร์ก กว่าจะกลับก็อีกหลายวัน จึงชวนชาวเดอะแก๊งหลบอากาศร้อนในเมืองหลวงมานั่งเล่นนอนเล่นบ้านแม่ย่า ตั้งใจจะใส่ผ้าถุงเล่นตีโป่งกันให้สนุก “นาต่างหากที่ต้องอิจฉาพี่...เพราะเดี๋ยวพี่จะไปหาคลีโอพัตราที่อียิปต์แล้ว ใครบางคนอดไปหาฟาโรห์เลย น่าสงสารจริง ๆ” “จริงหรือคะพี่หมอ! กรี๊ด! นาไม่ยอมนะ...โอ๊ย! อยากไป ๆ จังเลย” ภาวนาดิ้นเร่า ๆ อยู่บนเตียง อิจฉาปาณวัตรที่จะได้ไปสัมผัสดินแดนไอยคุปต์ ที่หล่อนพร่ำเพ้อฝันถึงอยากจะไปขี่อูฐและตามหาฟาโรห์ใจจะขาด “ร้องทำไมวะไอ้นา ใครเหยียบหางแก” อาทิตย์ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนหนุ่มโผล่เข้ามา เขาได้ยินเสียงโวยวายของเพื่อนสาวก็รีบวิ่งเข้ามาดู นึกว่าใครเป็นอะไรไป “ไอ้ทิตย์! พี่หมอจะไปอียิปต์ ไปหาฟาโรห์ตุตันคาเมนของฉัน ฮือ ๆ” ภาวนาคร่ำครวญ ขณะที่หมอหนุ่มยิ้มอย่างเอ็นดู รู้ว่าถ้าบอกเรื่องนี้ขึ้นมา เธอจะต้องงอแงเพราะเป็นความฝันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ติดว่าเธอแต่งงานมีครอบครัวแล้ว เขาก็จะชวนมาร่วมทริปนี้ด้วยเหมือนกัน “โถ ๆ เพื่อนอย่าร้องไห้ ฉันนี่ไงตุตันคาเมน เห็นมะ หน้าเหมือนกันยังกะแกะ” “ไอ้บ้า! อย่างแกมันตดดังคาเมรุซะมากกว่า! ฮึ้ย...” ภาวนาผลักเพื่อนชายที่ทำหน้าทะเล้นให้ออกไปไกล ๆ ด้วยความโมโห แล้วหันมาหาปาณวัตร “ไปเมื่อไหร่คะ ไปกี่วัน เอามัมมี่มาฝากนาด้วยนะ” “ไปอาทิตย์หน้านี่แหละจ้ะ ล่องเรือและก็ขี่อูฐชมพีระมิด รวม ๆ กันแล้วก็สิบวันพอดี แล้วพี่จะซื้อรูปปั้นส่งไปให้นะ” เขารีบบอกเอาใจ เพราะไม่มีแพลนที่จะบินกลับไทยในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเรียนหนักมาก ที่สำคัญอยากรักษาแผลใจให้หายดีเสียก่อน “ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ส่งรูปมาให้ดูด้วยนะคะ พี่หมอนอนเถอะค่ะ ทางโน้นดึกแล้ว ส่วนทางนี้ไอ้สามตัวนั้นมันรออยู่” ภาวนาบอกลา เมื่อเพื่อนๆโผล่หน้าเข้ามาตามไปเล่นน้ำด้วยกัน “บายจ้ะ น้องน้อยของพี่” เขายิ้มบาง ๆ จากนั้นก็ปิดโปรแกรมแชทลง เคลื่อนกายเข้าไปใต้ผ้าห่ม ได้ยินเสียงทะเลาะกันของคู่ผัวเมียข้างบ้านดังแว่วเข้ามา พรุ่งนี้...เขาจะใช้วันหยุดในการตระเวนหาบ้านเช่าใหม่ จะได้ย้ายออกจากที่นี่เสียที หวังว่าภาวนาคงจะไม่ทะเลาะกับชุลภัสว์แบบนั้น...คงไม่หรอก พวกเขาเพิ่งแต่งงานกันนี่นา น้องน้อยของเขา...มีคู่ชีวิตที่ดี สักวันพวกเขาก็จะมีทารกตัวน้อย ๆ เป็นโซ่ทองคล้องใจ และเขาจะกลายเป็นคุณลุง พี่หมอ... ราวกับได้ยินเสียงของเธอกระซิบอยู่ข้างหู ราวกับว่าเธออยู่ตรงนี้ เขาอดคิดถึงหญิงสาวไม่ได้ กว่าจะหลับสนิทก็ล่วงเข้าเที่ยงคืน
已经是最新一章了
加载中