บทที่ 4 แปลงโฉม   1/    
已经是第一章了
บทที่ 4 แปลงโฉม
“โอ๊ะ! นี่เธอจะให้ฉันไปผ่าตัดเพิ่ม เอ่อ...จู๋...งั้นเหรอ? ไม่เอานะ ฉันยังอยากเป็นผู้หญิง ไม่เอาเด็ดขาด” พิมลภัสว์โวยวาย เมื่อคิดว่าต้องทำตามวิธีการของเพื่อน ฆ่าเธอให้ตายเสียยังดีกว่า “จะบ้าหรือยะ ใครจะให้คนสวยน้อยอย่างเธอไปแปลงเพศเป็นผู้ชายกันเล่า! ก็แค่ปลอมตัวเป็นเจมส์ แค่ชั่วคราว ถ้าอยากจะอยู่ชายคาเดียวกับเขาก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้น” พิมลภัสว์หูผึ่ง พอได้ยินว่าต้องปลอมตัวอีกแล้วเธอก็แสนจะเหนื่อยใจ เมื่อตอนที่ชุลภัสว์พี่ชายของเธอจะแต่งงานนั้น เขาก็ให้เธอปลอมตัวเป็นแหม่มสาวไปทำให้พี่สะใภ้หึง เป็นผลทำให้ปาณวัตรซึ่งเป็นพี่ชายของภาวนาเกลียดเธอมาถึงทุกวันนี้ ทำไมนะ ทำไมการรักผู้ชายคนหนึ่งและจะทำให้เขาหันกลับมามองเธอบ้าง มันช่างยากเย็นอะไรเช่นนี้ “ว่ายังไง? จะปล่อยให้เขาหลุดมือไปเฉยๆ อย่างนั้นหรือ?” เจนนิเฟอร์รีบย้ำ รู้ดีว่าเพื่อนสาวพร่ำเพ้อถึงชายหนุ่มมากแค่ไหน เธอเองก็อยากจะเห็นตัวจริงเหมือนกันว่าจะหล่อเหมือนชุลภัสว์หรือเปล่า “ฉันต้องทำยังไงบ้าง แล้วมันจะได้ผลจริงหรือเปล่า?” หญิงสาวถามด้วยความไม่แน่ใจ “ไม่ลองก็ไม่รู้ ถึงจะมีโอกาสแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ถ้าเธออยากให้เขาหันมามอง เธอก็ต้องทำ” พิมลภัสว์นิ่งคิด จะยอมเสี่ยงดีหรือไม่ คำถามมากมายผุดขึ้นในความคิด เธออายุสามสิบแล้ว เหลือเวลาไม่มาก และผู้ชายดี ๆ ก็ไม่ได้มีเข้ามาในชีวิตบ่อย ๆ นี่อาจจะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของเธอแล้วก็ได้ จะเป็นอะไรไปล่ะ ในเมื่อไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว มันอยู่ที่ว่าเธอชอบเขามากแค่ไหน หญิงสาวลองหยั่งเสียงใจตัวเอง เธอชอบเขา ในโลกนี้จะมีจะมีใครสักกี่คนที่รักผู้หญิงคนหนึ่งได้ลึกสุดใจเหมือนเขา เขาซึ่งรักมั่นในตัวภาวนาและต้องยอมตัดใจเพราะมารู้ภายหลังว่าคนที่รักมีสายเลือดเดียวกัน สิ่งที่เธอประทับใจในตัวคุณหมอหนุ่มหาใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่เป็นเนื้อแท้ของความอ่อนโยนที่เธอสัมผัสได้ แม้ว่าความรู้สึกนั้นเขาจะมอบให้กับผู้หญิงอีกคนไปจนหมดใจแล้วก็ตาม หญิงสาวสูดลมหายใจ นี่เป็นหนทางเดียวที่จะได้คลุกวงในปาณวัตร ในเมื่อตั้งปณิธานกับตัวเองแล้วว่าจะรักษาแผลใจให้เขา และโอกาสทองลอยมาถึงแล้ว ไม่ทำตอนนี้แล้วจะไปทำตอนไหน ดีไม่ดีมัวแต่แอบมองถูกยัยเจนนิเฟอร์คว้าไปกินจะทำยังไง “เอาล่ะ! เป็นไงก็เป็นกัน ต่อให้ต้องแปลงร่างเป็นแบทแมนฉันก็จะทำ งานนี้สู้ตายไม่มีถอย พิมลภัสว์ซะอย่าง เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหา!” และแล้ววันนั้นก็มาถึง เจนนิเฟอร์เดินสำรวจรอบ ๆ ตัวเพื่อนสาวเพื่อเก็บตกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังการแปลงโฉมครั้งใหญ่ผ่านพ้นไป ต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่เมื่อตอนนี้พิมลภัสว์กลายร่างเป็นหนุ่มฉกรรจ์หน้าดุ โชคดีที่เพื่อนสาวนั้นมีรูปร่างสูงโปร่งจึงไม่ลำบากในการหาเสื้อผ้าของสุภาพบุรุษมาสวมใส่ ขณะที่หญิงสาวกลับตกตะลึงในฝีมือแปลงร่างขั้นเทพ จนเธอกลายเป็นเจมส์ แพคทิส ในชั่วข้ามคืน หญิงสาวเสยผมไปข้างหลัง ก่อนนี้มันเคยยาวเป็นลอนสยายอยู่เต็มแผ่นหลัง ตอนนี้สั้นเต่อแถมย้อมเป็นสีบลอนด์ เหนือริมฝีปากมีหนวดขึ้นครึ้ม ๆ ดีเท่าไหร่ที่ไม่เติมเคราลงไปด้วย ริมฝีปากอิ่มนั้นเผยอขึ้นจากเดิมเล็กน้อยเพราะฟันปลอมที่เจนนิเฟอร์ยัดลงไปทั้งแผง รูปร่างที่เคยภูมิใจนักหนาว่าเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ บัดนี้หน้าอกคัพ D ถูกรัดด้วยผ้าขาว สวมทับด้วยเสื้อซับในและเสื้อเชิ้ต โชคดีที่เป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศเลยไม่หนาวมากนัก ขืนสวมเสื้อโค้ททับอีกตัวเธอคงหายใจไม่ออกแน่ ๆ “ว้าว! หล่อจริง ๆ พับผ่า มองเผิน ๆ นึกว่าเลออนซะอีก” เจนนิเฟอร์พูดอย่างภูมิใจที่จัดการแปลงร่างเพื่อนสาวสุดสวยให้กลายเป็นหนุ่มหน้ามนได้ พิมลภัสว์นั้นมีโครงหน้าและดวงตาที่เรียวคมอยู่แล้ว จึงไม่ต้องตกแต่งอะไรมาก แค่เติมหนวดกับฟันปลอมแค่นี้ก็ดูเป็นผู้ชายขึ้นมาแล้ว เหลือก็แต่ท่าเดินนี่แหละที่ต้องปรับปรุงกันใหม่ “เขาจะเชื่อแน่หรือ ก็ฉันไม่มีลูกกระเดือกนี่” พิมลภัสว์ยังเป็นห่วง แม้ตัวเองจะเตี้ยกว่าปาณวัตรแต่ก็กลัวจะเผลอทำอะไรมีพิรุธให้เขาจับได้ “สมัยนี้เขาผ่าออกกันโครม ๆ ผู้ชายน่ะเขาไม่หยุมหยิมหรอกย่ะ นี่ถ้าแมทมาเห็นฉันกำลังนั่งอยู่กับเธออย่างนี้มีหวังหึงตายชัก” เจนนิเฟอร์หยิบกล่องเครื่องสำอางออกจากกระเป๋า แล้วจัดแจงวางไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกับกวาดเครื่องสำอางของเพื่อนสาวลงลิ้นชัก “อย่าบอกนะว่าต้องใช้ไอ้ของพวกนี้ด้วย” พิมลภัสว์ใจเสีย นอกจากจะต้องปลอมตัวให้วุ่นวายแล้ว ยังจะต้องเปลี่ยนมาใช้เครื่องสำอางของผู้ชายด้วย สิวได้เห่อขึ้นหน้าก็คราวนี้ “เปล่าย่ะ เอาวางไว้พอเป็นพิธี” เจนนิเฟอร์เหลียวมองรอบ ๆ ห้อง ไม่เห็นที่นอนลายดอกไม้และผ้าม่านสีชมพูถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ข้าวของอื่น ๆ ดูแล้วไม่เหมือนอยู่ในห้องของผู้หญิงก็พอใจ “ไหนลุกเดินให้ดูหน่อย” พิมลภัสว์ลุกขึ้นยืน ยืดอกหายใจเข้าแรง ๆ เป็นการเรียกขวัญกำลังใจ แล้วเดินอย่างมุ่งมั่น พยายามทำให้เหมือนผู้ร้ายในหนังมากที่สุด “ว้ายๆๆ ไม่ได้นะยะ เดินแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด คนปกติเขาไม่เดินกับแบบนั้นหรอกจ้ะ” เจนนิเฟอร์ตีแขนเพื่อนรักเบา ๆ ก่อนจะเก๊กแมนเดินให้ดูเป็นขวัญตา “นี่ แค่เดินให้เป็นธรรมชาติ ปลายเท้ากางออกนิด ๆ ไหล่ไม่ต้องยก ลองดูซิยะ” หญิงสาวสูดลมหายใจอีกครั้ง แล้วลองเดินตามปกติ คิดในใจว่าตอนนี้หล่อนเป็นเจมส์ เป็นผู้ชายเต็มตัว และผู้ชายในโลกนี้ที่เดินเหมือนผู้หญิงก็มีถมเถไป ขืนมัวแต่ให้ความสำคัญกับแขนขา หน้าตาก็อาจจะฟ้องเพศเดิมออกมาได้ “แบบนั้นแหละ โอเค ๆ พอได้” เจนนิเฟอร์โบกมือเป็นสัญญาณให้หยุด แล้วต่างก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงกดกริ่งดังอยู่ข้างล่าง พิมลภัสว์เบิกตาโพลง ความมั่นใจเมื่อครู่นี้เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว ที่ซักซ้อมกันไว้ก็ลืมไปหมดแล้ว พ่อแก้วแม่แก้วจ๋าช่วยลูกด้วย “ลงไปเปิดประตูเถอะ พ่อยอดยาหยีมาแล้ว นี่กุญแจ” กระเทยสาวสวยยัดกุญแจบ้านใส่มือเพื่อนซึ่งตอนนี้ชื้นไปด้วยเหงื่อ หน้าหดเหลือสองนิ้ว เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด แล้วเดินแกมวิ่งลงไปยังห้องรับแขกกลางบ้าน ก้าวช้า ๆ ไปที่ประตูบ้านที่ล็อคสนิทจากด้านใน ปาณวัตรวางกระเป๋าใบโตลงกับพื้น ก่อนมาที่นี่เขาโทรเช็คกับแมทธิวจนแน่ใจแล้วว่าเจมส์ แพ็คทิส อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน หรือว่าเขาอาจจะมาช้าจนเจ้าของบ้านหนุ่มรอไม่ไหว ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะแล้วก็ไม่รู้ แต่นี่ก็เกือบจะค่ำแล้ว วันอาทิตย์แบบนี้เขาน่าจะกลับมากินอาหารเย็นที่บ้าน ข้อมูลของเจมส์ แพคทิส ที่เขาได้รับมานั้น แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ใช่คนไทยแท้อย่างที่เขาต้องการพักอยู่ด้วย แต่ก็มีตายายเป็นคนไทย และพูดภาษาไทยได้ เรื่องภาษาเขาไม่เป็นห่วง เพราะตัวเองพูดได้หลายภาษา หากแต่บางครั้งการได้คุยกับคนไทยโดยใช้ภาษาของบ้านเกิดเมืองนอน อาจช่วยบรรเทาความคิดถึงและช่วยให้หายเหงาได้บ้าง ถึงจะมาเรียนอยู่ที่อังกฤษ แต่เขาก็เชื่อว่าไม่มีชาติไหนที่อบอุ่นเท่ากับเมืองไทยเป็นแน่ เขายกมือดูนาฬิกา ร่ำ ๆ จะโทรไปหาแมทธิวอีกครั้งก็กลัวจะเป็นการรบกวน บางทีเจมส์อาจจะกำลังเข้าห้องน้ำ เขาน่าจะลองกดกริ่งอีกครั้ง พิมลภัสว์ดึงกลอนออก ค่อย ๆ ผลักบานประตูออกไป เห็นร่างสูงนั้นถอยออกไปก้าวหนึ่ง หล่อนก้าวออกไปยืนอยู่หน้าประตู มองเขาเต็มตา หัวใจของหล่อนเต้นรัว เมื่อตาสบตากับปาณวัตรจัง ๆ เป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมองหล่อนเลยสักครั้ง “คุณ!” ปาณวัตรร้องขึ้น พิมลภัสว์หลับตาปี๋
已经是最新一章了
加载中