บทที่ 17 ทางออกสวยงามเสมอ?   1/    
已经是第一章了
บทที่ 17 ทางออกสวยงามเสมอ?
คุณหมอหนุ่มงัวเงียตื่นขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ยังหลับได้ไม่เต็มที่ ในขณะที่เคลิ้ม ๆ เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างในความมืด ตอนแรกกะว่าจะปล่อยให้มันผ่านไปแต่เสียงนั้นก็ไม่สงบเสียทีจนเขานอนไม่หลับ เขาพลิกตัวกลับมาอีกด้าน และพบว่าเจมส์หายไป เจมส์อาจจะไปเข้าห้องน้ำ เขาลุกเดินไปดูที่ห้องน้ำ ไฟก็ยังปิดสนิท จึงมองไปที่ประตู สิ่งที่เขาเห็นในความมืดสลัวนั้น ทำให้เขาแทบผงะ เมื่อเงาของคนสองคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่นั้น กำลังทำกายกรรมเปียงยางกันอยู่อย่างเมามัน ร่างสูงของเจมส์ยืนพิงผนังห้อง กอดใครคนหนึ่งซึ่งกำลังเกาะเกี่ยวเอวของเขาไว้แนบแน่น ขยับตัวเป็นจังหวะประสานกันอย่างลงตัวพร้อมกับเสียงหอบอย่างเหนื่อยอ่อน “โอย..แฮ่ก ๆ ไม่ไหวแล้ว...ฉันต้องตายแน่ ๆ แฮ่กๆๆๆ” เขารีบกระโดดขึ้นบนเตียง ห่มผ้าอย่างมิดชิด ปิดกั้นสายตาไม่ให้มองเห็น กั้นหูไม่ให้ได้ยินเสียงครวญคราง โล่งใจที่อย่างน้อยเจมส์ก็เลือกที่จะทำอยู่หน้าประตู ขืนมาบรรเลงเพลงรักอยู่บนเตียงเขาคงจะทนไม่ได้แน่ พิมลภัสว์หอบร่างอวบอึ๋มของมิจิมาถึงเคาท์เตอร์ได้อย่างทุลักทุเล เมื่อมิจิถึงมือเจ้าหน้าที่โรงแรม เธอก็พาร่างที่อ่อนปวกเปียกกลับเข้าไปในห้อง หญิงสาวนอนหอบอยู่อย่างนั้นหลายนาที ยัยมิจิทำเอาเธอปวดกระดูกไปหมด ดีนะที่แม่สาวไฟแรงสูงนั่นเมาหลับไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเธออาจจะเสียสาวให้ผู้หญิงด้วยกันไปแล้ว “เฮ้อ...เหนื่อยจริง ๆ ถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็ว่าไปอย่าง” หญิงสาวพึมพำก่อนจะผล็อยหลับอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ปาณวัตรที่ยังไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ถึงกับขนลุกเกรียว ...เห็นทีเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้เสียแล้ว กลับไปอังกฤษเมื่อไหร่ เขาจะย้ายออกจากบ้านของเจมส์ทันที! ขณะเดียวกันที่ลอนดอน สตรีสูงวัยร่างอวบท้วมสวมแว่นตาดำยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ในสนามบิน กระเป๋าใบโตข้างกายถูกบริกรนำขึ้นรถเข็นเรียบร้อยแล้ว หากแต่หล่อนยังยืนอยู่เพื่อรอใครบางคนที่กำลังเดินมาทางนี้ หล่อนยิ้มอย่างพอใจเมื่อหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราคนนี้ก้าวมาเดินเคียงข้าง วงหน้านั้นสวยไร้ที่ติ ผมยาวสลวยประบ่าตัดตามสมัยนิยม รูปร่างก็เล็กบางน่าทะนุถนอม “เป็นยังไงบ้างหนูอร...โทรหาตาศิแล้วใช่ไหม?” เธอหันไปถามหนูอร หรือ อรพิม ด้วยความอ่อนโยน “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหญิงป้า...พี่ศิเพิ่งเคลียร์งานเสร็จกำลังเดินทางมาค่ะ” อรพิมยิ้มหวานให้คุณหญิงปานเทพ “งั้นเดี๋ยวเราไปรอกันที่คอฟฟี่ชอปก็แล้วกัน จะได้นั่งคุยเรื่องคุณหมอไปด้วย” คุณหญิงแตะแขนหญิงสาวให้เดินไปด้วยกัน คืนนี้ท่านจะไปพักที่บ้านของศิขรินทร์ก่อน แล้วพรุ่งนี้จึงจะพาว่าที่ลูกสะใภ้บุกไปหาปาณวัตรที่บ้านเช่า หลังจากปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อมานาน ได้เวลาอันสมควรแล้วที่ปาณวัตรจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ส่วนที่อียิปต์นั้น... “โอยๆๆๆ ทำไมมันเจ็บอย่างนี้...” พิมลภัสว์งัวเงียบิดขี้เกียจอยู่หลายนาที ถามตัวเองว่าเมื่อคืนนี้หล่อนไปทำอะไรมาถึงได้เจ็บเนื้อเจ็บตัวราวกับไปยกของหนัก ๆ มา “โอ๊ะ! ใช่แล้ว” หญิงสาวอุทานแล้วรีบปิดปากมองซ้ายมองขวา นึกออกแล้วว่าเมื่อคืนนี้เธอเกือบจะโดนยัยมิจิปล้ำ เมื่อไม่เห็นปาณวัตรเธอก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด รีบลุกอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้ลงไปสมทบกับคนอื่น ๆ เจนนิเฟอร์กับแมทธิวยืนกอดอกรออยู่ที่ห้องอาหาร พวกเขาเต้นรำสวีทหวานแหววกันทั้งคืน เหตุใดจึงทำหน้าราวกับกินยาขมกันทั้งสองคน พิมลภัสว์เดินเข้าไปสมทบด้วยรอยยิ้ม หากเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้เพื่อนรักฟัง เจนนิเฟอร์จะต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าเมื่อคืนนี้มิจิเข้าหาเจมส์ ไม่ใช่ปาณวัตรอย่างที่เข้าใจ แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงแปร๋น ๆ ของตัวต้นเหตุกำลังโม้ถึงวีรกรรมของตัวเองอย่างเมามัน “จากนั้นเจมส์ก็เปิดประตูรับมิจิ เมื่อเราเข้าไปในห้อง แม้มิจิจะบ่ายเบี่ยงยังไงเขาก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าจะทำให้มิจิเป็นของเขาให้ได้ นี่รู้ไหม...เขาแอบมองมิจิมาตั้งนานแล้วนะ แต่ตอนนั้นมิจิมีคุณหมออยู่ มิจิจำเป็นต้องทำร้ายคุณหมออย่างเลี่ยงไม่ได้ เฮ้อ...เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก แต่มิจิชินแล้วล่ะ ใคร ๆ ก็อยากได้มิจิกันทั้งนั้น” “แล้วจู้ฮุกกรูกันหรือยังล่ะ เขาเก่งหรือเปล่า?” เพื่อนของหล่อนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “จะเหลือเหรอ...เก่งไม่เก่งคอยดูเอาแล้วกัน ขนาดมิจิยังแทบจะเดินไม่ไหว ฮิ ๆ ดูสิ แขนกับนมเขียวเป็นจ้ำ ๆ เลย” หล่อนยื่นแขนและโชว์ร่องอกให้เพื่อนดู ซึ่งมันต้องเขียวอยู่แล้ว เพราะพิมลภัสว์ทั้งถีบ ทั้งลากและอุ้มกันอยู่หลายตลบ พิมลภัสว์แทบจะล้มทั้งยืน เมื่อยัยตัวแสบพูดได้เป็นคุ้งเป็นแคว เห็นหล่อนทำหน้าตาบ้องแบ๊วประกอบท่าทางไร้เดียงสาแล้วก็ยิ่งโมโห “ยัยจิมิ๊เข้าไปหาหล่อนแน่หรือ?” เจนนิเฟอร์หันมาถามเพื่อน ซึ่งก็ได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบ “แล้วเสร็จยัยนั่นหรือเปล่า ทำไมโม้ได้เป็นฉาก ๆ” “บ้าไปแล้ว! ฉันยังชอบบริโภคผู้ชายอยู่ย่ะ ดูสิพูดได้ไม่อายปาก สงสัยเมื่อคืนจะเมามากเลยฝันเป็นตุเป็นตะ” พิมลภัสว์กอดอก สอดส่ายสายตามองหาปาณวัตร ปรากฏว่าคุณหมอหนุ่มนั่งหันหลังอยู่ริมหน้าต่าง หากแต่ได้ยินเต็มสองหู เขาแทบจะสำลักกาแฟ เขาคงจะเห็นมันเป็นเรื่องธรรมดา หากเมื่อคืนนี้ไอ้ปฏิบัติการที่ว่าไม่ได้อยู่ต่อหน้าต่อตาเขา แม้จะเห็นเป็นเงาลาง ๆ แต่เสียงครางนั้นยังตามหลอกหลอนเข้าอยู่จนนอนไม่หลับ และหากเป็นเจมส์กับดอกเตอร์ลิซ่า เขาก็พอจะทำใจให้รับได้ แต่นี่กลับเป็นมิจิ เออหนอ...หล่อนเพิ่งหว่านเสน่ห์เขาอยู่หยก ๆ ไม่กี่ชั่วโมงก็มาคาบรูมเมทเขาไปกินเสียแล้ว เขานึกถึงใบหน้าของเจมส์ นายนั่นคงทำบุญมาด้วยปลัดขิก หรือไม่ก็เล่นไสยศาสตร์อะไรสักอย่าง เห็นทีเขาจะต้องระวังตัวมากขึ้นซะแล้ว เจนนิเฟอร์ดีดนิ้วเปาะ คิดออกแล้วว่าจะปิดฉากตัวละครที่ชื่อเจมส์ แพ็คทิส ตัวปลอมนี้อย่างไร เพื่อที่พิมลภัสว์จะได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองเสียที “ก่อนที่เราจะกลับไปอเล็กซานเดรีย ฉันอยากให้เธอหว่านเสน่ห์ใส่ยัยจิ๊มิให้มากที่สุด ยัยนั่นจะได้ตัดใจจากคุณหมอ ยิงกระสุนทีเดียวได้นกถึงสองตัว” “ยังไง?” แมทธิวซึ่งรู้สึกสนุกรีบถามขึ้น เขาอยากจะมีส่วนร่วมในเกมนี้ด้วย “นกตัวแรก ยัยจิ๊มิอกหักแน่เพราะเจมส์ไม่มีตัวตน ตัวที่สอง ดร.ลิซ่าจะกลายเป็นคนที่น่าสงสาร เธอจะเข้าไปอยู่ในบ้านของเจมส์ในฐานะอดีตแฟนของเขา” เจนนิเฟอร์ยิ้ม อดชมตัวเองไม่ได้เมื่อสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ยิ่งเจมส์ทำร้ายจิตใจของ ดร.ลิซ่ามากเท่าใด ปาณวัตรจะต้องเห็นใจหญิงสาวมากขึ้นเท่านั้น “แล้วจะให้เจมส์หายไปไหนล่ะ?” พิมลภัสว์ยังมีปัญหา เธอกลัวว่าจะตั้งรับไม่ทัน หากปาณวัตรหรือมิจิถามขึ้นมา เรื่องวิชาการพอไหว แต่เรื่องหัวใจนี่อ่อนประสบการณ์นัก “ไม่เห็นจะยาก...เท่าที่ผมดู คุณหมอคงไม่ชอบพฤติกรรมของเจมส์นัก เราสร้างเรื่องให้เขาตายไปเลยเป็นไง” แมทธิวเสนอ ความตายเป็นหนทางเดียวที่จะปิดทุกอย่างไว้เป็นความลับตลอดกาล “ถ้าเขาตาย เรามิต้องลงทุนจ้างคนบาทหลวงมาทำพิธีด้วยหรือ เจมส์เป็นเพื่อนรักของคุณ และคุณหมอเป็นรูมเมทของเขา ยังไงเขาต้องไปที่งานศพแน่” พิมลภัสว์ท้วง รู้ดีว่าเจมส์ แพ็คทิส ไม่อาจตายไปอย่างเงียบ ๆ ได้แน่ “อืม...ถ้าไม่ตายก็...เป็นเอดส์ดีไหม ไม่ตายก็เหมือนตาย คงไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาอีก” แมทธิวเสนออีกทางเลือกหนึ่ง ดูเหมือนเขาจะคิดไว้หลายเสต็ป “ฮึ้ย! งั้นลิซ่าก็ต้องเป็นด้วยน่ะสิ...ไม่เอา ๆ” พิมลภัสว์ส่ายหน้าดิก ให้ตายพอทน แต่ให้เป็นเอดส์นี่รับไม่ได้จริง ๆ
已经是最新一章了
加载中