บทที่ 22 เผชิญหน้าหลังจูบแรก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 22 เผชิญหน้าหลังจูบแรก
ร้านอาหารแห่งนี้คนหนาตาทุกวัน โชคดีที่พิมลภัสว์ใช้ชีวิตที่นี่มากว่ายี่สิบปี จึงเป็นลูกค้าเก่าแก่สามารถจองล่วงหน้าได้ หญิงสาวพาคุณหญิงนั่งโต๊ะตัวด้านในสุด หากแต่มีวิวทิวทัศน์สวยที่สุดเพราะมองเห็นแม่น้ำเทมป์ เธอทักทายกับเด็กเสิร์ฟที่ร้านพอหอมปากหอมคอ แล้วสั่งออเดิฟง่าย ๆ มารองท้องก่อน ส่วนคุณหญิงสั่งกระเพราไข่ดาว ทั้ง ๆ ที่สู้อุตส่าห์เดินทางข้ามภูเขาข้ามทะเลมาตั้งค่อนโลก “ไม่ได้กินเสียนานคิดถึงฝีมือแม่อุ่น” คุณหญิงบอกเขิน ๆ แม่อุ่นที่ว่าคือแม่บ้านคนเก่าแก่ และเป็นแม่นมของปาณวัตรด้วย บังเอิญชื่อเหมือนกันกับคุณอุ่นเรือนมารดาของพิมลภัสว์ “หนูพิมดูผอมไปนะ งานหนักหรือเปล่า?” “ค่ะ ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว พิมต้องเร่งทำเอกสารประกอบวิชาให้เสร็จ” พิมลภัสว์ไม่ได้พูดต่อด้วยว่าที่น้ำหนักลดไปหลายกิโลเพราะต้องวิ่งวุ่นสลับตัวเป็นเจมส์และดอกเตอร์ลิซ่าทั้งวันทั้งคืน “อาหารมาแล้วค่ะ...เดี๋ยวเราทานกันให้อิ่มก่อนนะคะ แล้วพิมจะเล่าทุกอย่างให้คุณหญิงป้าฟัง” พิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะ ศิขรินทร์เดินตรวจสถานที่สำหรับจัดงานแสดงศิลปะเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทออกาไนเซอร์จัดวางอุปกรณ์ วัสดุ และของตกแต่งทุกชิ้นตามแปลนที่เขาออกแบบไว้หรือเปล่า เมื่อทุกอย่างอยู่ในขอบเขตที่ตรงกับคอนเซ็ปต์ของงาน ชายหนุ่มก็ยกแขนขึ้นดูนาฬิกาข้อมือทันที เขาจะต้องกลับไปรับคุณหญิงหน้าพระราชวังในเวลาสิบหกนาฬิกา เหลืออีกเพียงสิบห้านาทีก็จะถึงเวลานัด ขับรถไปไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ แต่เขาก็อยากจะไปให้เร็วขึ้นอีกนิด เผื่อจะเจอผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า “พิม” คนนั้นอีกครั้ง เสียงของหล่อนช่างไพเราะ รูปร่างหน้าตาหรือก็ดูอ่อนหวานปนเซ็กซี่นิด ๆ ซึ่งมักจะหาสองสิ่งนี้ได้ยากในคน ๆ เดียวกัน เขาเองก็อยู่ลอนดอนมานาน ทำไมปล่อยให้ผู้หญิงสวย ๆ คนนี้เล็ดลอดสายตาไปได้ นั่นสินะ เขาคงจะเก็บตัวจนเกินไป วัน ๆ เขาอยู่แต่ในห้องเพื่อทำงานศิลปะที่ตัวเองชอบ เบื่อ ๆ ก็ตระเวนออกเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ เขาเคยคิดว่าสองสิ่งนี้คือความอภิรมย์สุดยอดของหนุ่มโสด เพิ่งจะมาสะกิดใจก็เมื่อได้เห็นหน้าหล่อนวันนี้เอง ชายหนุ่มหยิบธนบัตรที่หญิงสาวยื่นให้ออกมาคลี่ดูด้วยรอยยิ้ม แล้วพับเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ มันจะเป็นอีกหนึ่งของสะสมอันมีค่าของเขาไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว ชายหนุ่มสวมหมวกกันน็อค ขับรถจักรยานยนต์ราคาล้านกว่า ๆ ออกจากพิพิธภัณฑ์มุ่งตรงไปยังจุดนัดพบทันที และสิ่งที่เขารอคอยก็ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาถอดหมวกกันน็อคออกจากศีรษะ เผยให้เห็นเส้นผมยาวสลวยสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกมัดไว้หลวม ๆ ทันทีที่ก้าวลงจากรถสาวงามที่เขาคิดถึงเมื่อครู่นี้ก็ก้าวเข้ามาหาเขาทันที “สวัสดีค่ะ...ต้องขอโทษจริง ๆ ที่เสียมารยาทกับคุณเมื่อช่วงบ่าย ฉันพิมลภัสว์ค่ะ” ศิขรินทร์ยื่นมือไปจับมือหล่อนทักทายตามมารยาท แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร คิดในใจว่าแม้แต่ชื่อก็ยังไพเราะเสนาะหู “สวัสดีครับ ผมศิขรินทร์ เรียกศิก็ได้นะครับ” “คุณศิเป็นศิลปกรจ้ะพิม วนเวียนอยู่แถวพิพิธภัณฑ์แถวนี้ บางทีก็ต้องไปทำงานที่อิตาลีบ้างตามประสาคนดัง” คุณหญิงกล่าวชม ถ้าไม่ติดว่าท่านหมายปองหญิงสาวให้กับบุตรชายแล้ว สองหนุ่มสาวที่กำลังยืนคู่กันนี้ก็สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก “จริงหรือคะ ดูเหมือนสายงานของเราน่าจะมีอะไรเชื่อมโยงถึงกันได้บ้าง พิมเป็นนักโบราณคดีค่ะ สอนอยู่ที่ลอนดอนนี่เอง” “เดี๋ยวนะครับ เหมือนผมจะเคยได้ยินชื่อคุณพิมมาก่อน เอ...ไม่ทราบว่าเป็นคนเดียวกันกับที่แต่งหนังสือเรื่อง “เปิดปูมประวัติศาสตร์อารยธรมโลกโบราณ” หรือเปล่าครับ” ศิขรินทร์ยกตัวอย่างชื่อหนังสือที่นักศึกษาปริญญาโทสาขาศิลปะ จะต้องยึดเป็นคู่มือหลักในการทำรายงานและวิจัย กล่าวได้ว่าใครไม่รู้จักหนังสือเล่มนี้ไม่มีทางที่จะสร้างสรรค์งานศิลป์ออกมาได้อย่างสมจริงแน่นอน พิมลภัสว์เขียนหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่สิบปีที่แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะอายุมากกว่าเขา แถมตอนนี้หล่อนยังมีหนังสือชื่อเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเล่มเป็นการการันตีคุณวุฒิของเธอด้วย เพราะสิ่งที่เขาอ่านพบอยู่ตรงท้ายเล่มตรงประวัติผู้เขียนนั้น ไม่ใช่ นางสาวพิมลภัสว์ หากแต่เป็น ดร.พิมลภัสว์ ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดี ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาทึ่งสุดขีดในเวลาไม่ถึงสิบนาที “พิมขอตัวก่อนนะคะคุณหญิงป้า ไปก่อนนะคะคุณศิ” พิมลภัสว์ยิ้มหวานให้คนทั้งสอง แล้วโบกแท็กซี่ออกไป เป้าหมายของหล่อนคือมหาวิทยาลัย เธอเล่าทุกอย่างให้มารดาของปาณวัตรฟังแล้ว ซึ่งท่านก็ฟังอย่างตั้งใจ บางครั้งถึงกับอ้าปากค้างกับพฤติกรรมประหลาด ๆ ของเธอ ไม่ได้ติเตียนอย่างที่นึกกลัวในตอนแรก “ป้าจะจัดการเรื่องนี้เอง หนูพิมทำตามแผนเดิมต่อไป” นั่นคือคำมั่นสัญญาของหญิงสูงวัย ซึ่งหากจะนับกันจริง ๆ จัง ๆ ท่านก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธออีกคนหนึ่ง เพราะหลานของท่านคือภาวนาที่เป็นพี่สะใภ้ของเธอนั่นเอง ตี๊ด ตี๊ด “ว่าไงเจน กลับมาที่บ้านแล้วหรือ?” พิมลภัสว์กรอกเสียงลงไปเมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนรัก ไม่ใช่สายของพี่ชายอย่างที่นึกกลัว แม้คุณหญิงจะรับปากว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้คุณอุ่นเรือนรู้เป็นอันขาด แต่พี่ชายของเธอกำลังจ้องหาจังหวะเค้นคอน้องสาวอยู่ทุกเมื่อ “กลับได้ที่ไหนกันยะ วันนี้ฉันเวรบ่าย หย่อนก้นปุ๊บก็เจออีตาคุณหมอของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาบอกว่าจะต้องพบเธอให้ได้ นี่ตื๊อขอเบอร์โทรจนฉันเกือบจะใจอ่อนอยู่แล้วนะ” “โอเคๆ บอกเขาว่าฉันกำลังกลับไปเก็บของที่บ้าน ถ้าเขาอยากเจอฉันจริง ๆ มีเวลาอีกแค่ยี่สิบนาที ถ่วงเวลาให้ด้วยนะเพื่อนรัก” เจนนิเฟอร์วางสาย หันไปยิ้มแหยๆ ให้กับปาณวัตรซึ่งยืนเกาะเคาท์เตอร์อยู่ หล่อนบอกเขาตามที่เพื่อนสาวสั่งทุกคำทุกประโยค แต่ไม่ทันได้ถ่วงเวลาเขาก็กล่าวขอบคุณส่ง ๆ แล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องสมุดทันที กระเทยสาวค้อนงาม ๆ แม้ไม่มีใครเห็น สงสัยว่าปาณวัตรคงกินยาผิดขนานถึงได้ทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ คอยดูนะคืนนี้จะล้วงลับตับแตกพิมลภัสว์ให้หมดไส้หมดพุงเลยเชียว! เมื่อรู้จากเจนนิเฟอร์ว่าดอกเตอร์สาวกำลังเก็บข้าวของอยู่ที่บ้าน ปาณวัตรก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เมื่อคืนนี้เขาตัดสินใจได้แล้วว่า ทำอย่างไรจึงจะรอดพ้นเงื้อมมือของมารดา เพราะดูท่าแล้ว คราวนี้คงจะเอาจริง ไม่อย่างนั้นคงไม่ข้ามน้ำข้ามทะเลบุกมาถึงลอนดอน ถ้าเมื่อวานนี้ดอกเตอร์ลิซ่าไม่อยู่ พวกท่านจะต้องขอค้างคืนด้วยแน่ ๆ เมื่อถึงบ้าน เขาก็กดกริ่ง ไม่นานนักพิมลภัสว์ก็ลงมายืนอยู่หน้าประตู พร้อมกับกระเป๋าใบโต ซึ่งเขาเดาว่าข้างในคงเป็นข้าวของเครื่องใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างที่มาค้างกับเจมส์ที่นี่ “ผมตามหาคุณ...คิดว่าจะไม่ได้เจอแล้วเสียอีก พอจะมีเวลาคุยกันไหมครับ” ชายหนุ่มค่อนข้างเคอะเขิน เพราะเผลอตัวจูบเธอเข้าไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนนักเรียนที่ทำผิดและกลัวคุณครูสาวจะตีด้วยไม้เรียว “ได้สิคะ จะได้บอกลากันด้วยเลย” หญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ชำเลืองมองประตูว่าจะมีใครตามมาอีกหรือเปล่า “ผม...ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ล่วงเกินคุณ ทั้ง ๆ ที่คุณเองก็ยังเสียใจเรื่องของเจมส์อยู่ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย ผมเสียใจจริง ๆ” คนบ้า! จะมาขอโทษ มาเสียใจทำไม รู้ไหมว่าฉันรอวันนั้นมานานแค่ไหน พิมลภัสว์ตะโกนอยู่ในใจคนเดียว เขาเสียใจ แต่หล่อนสิดีใจจนนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายอยู่ทั้งคืน
已经是最新一章了
加载中