บทที่ 26 อดีตรักฝังใจ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 26 อดีตรักฝังใจ
ปาณวัตรยังไม่ได้บอกข่าวดีกับมารดา เพราะเห็นใจที่ท่านอุตส่าห์บินมาเยี่ยม ทั้งยังไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันมากนัก เพราะช่วงกลางวันเขามักจะไปขลุกอยู่ที่ห้องสมุดเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเทอมในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ ความจริงแล้วเขาไม่ได้ลงเรียนบริหารอย่างที่ได้บอกกับใครๆ ไว้ก่อนมาจากเมืองไทย แต่ตั้งใจมาพักผ่อนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพราะความสนใจในประวัติศาสตร์อียิปต์เป็นทุนเดิม การอยู่ร่วมบ้านระหว่างคุณหญิงปานทิพย์ ดอกเตอร์ลิซ่า และอรพิม ในคืนแรกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เขาคงนอนขี้เซาเอามากๆ เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แฟนกำมะลอของเขาจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยก่อนทุกครั้ง เดาว่าหล่อนคงจะตื่นแต่เช้ามืดเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเพราะขัดเขินที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับชายอื่นที่ไม่ใช่เจมส์ นั่นทำให้เขาซึ้งในน้ำใจของหล่อนมากขึ้นไปอีก ทันทีที่เขาสะพายกระเป๋าลงมายังห้องโถงด้านล่าง มารดาของเขาก็นั่งรออยู่บนโต๊ะอาหารแล้ว “Good morning ครับคุณแม่” ชายหนุ่มนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เริ่มลงมือรับประทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว นึกดีใจที่ไม่ต้องเห็นหน้าอรพิมบนโต๊ะอาหารด้วย “หลับสบายไหมลูก?” คุณหญิงกุลีกุจอทาแยมบนขนมปังให้กับบุตรชาย ปาณวัตรสะอึกกับคำถามกำกวมของมารดา ฟังจากน้ำเสียงแล้วไม่รู้ว่าท่านถามเพื่ออะไรกันแน่ เพราะแม้จะเห็นกับตาว่าเขาอยู่ก่อนแต่งกับดอกเตอร์ลิซ่าซึ่งเป็นสาวลูกครึ่งแบบที่ท่านมีอคติมาตลอดแล้ว มิหนำซ้ำท่านเองก็พาคู่ดูตัวของเขามาจากเมืองไทย แต่กลับไม่มีเหตุการณ์ร้ายอย่างที่เขาคิดและเครียดมาหลายวัน “เอ่อ...ก็ดีครับ ว่าแต่คุณแม่ไม่ไปไหนเหรอครับวันนี้” เขาตอบกลางๆ แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยเร็ว เพราะกลัวว่าจะถูกซักไซ้หนัก “จะออกไปชมการตกแต่งพิพิธภัณฑ์ของมาดามหลุยส์หน่อย อ้อ! ลืมบอกไป คุณศิขรินทร์ พี่ชายของอรพิมเป็นศิลปินชื่อดังอยู่ที่นี่ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอกับคุณหมอของแม่แล้วก็ได้” “ไม่เคยหรอกครับ ผมเองเคยไปชมงานศิลปะอยู่เหมือนกัน แต่ศิลปินส่วนใหญ่มักจะมีโลกส่วนตัวสูง ผมเองก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเรียนในเทอมหน้า อีกอย่างเราก็คนละสายงานกันด้วย แต่เห็นว่านิทรรศการที่จะจัดในเดือนหน้านี้ยิ่งใหญ่มาก ผมเองก็ว่าจะไปชมดูสักครั้ง เผื่อได้ภาพสวยๆ ไปฝากหนูนา” เขาอ้างชื่อภาวนาไปอย่างนั้นเอง เจ้าน้องสาวตัวแสบนั้นไม่ค่อยสนใจพวกงานศิลปะสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นศิลปินรูปหล่อก็ว่าไปอย่าง ภาวนาจะมองตาละห้อยเลยทีเดียว แม้จะยังลืมความรักที่มีต่อหล่อนไม่ได้จนหมดใจ แต่ก็ถือว่าอาการเจ็บเจียนตายของเขาดีขึ้นมากแล้ว อย่างไรก็ตาม ชื่อของภาวนายังมีผลต่อคุณหญิงอยู่ ท่านคงจะไม่เร่งรัดเรื่องอรพิมหากเขายังแสดงออกว่ายังไม่สามารถตัดใจจากน้องสาวตนเองได้ “คุณหมอ...ยังลืมน้องไม่ได้หรือลูก?” คุณหญิงปานทิพย์ช็อกไปหลายวินาทีเมื่อสบตาของบุตรชาย กาลเวลาอาจไม่ได้ช่วยเยียวยาหัวใจของปาณวัตรเลย ท่านจะทำอย่างไรหากชั่วชีวิตนี้เขาไม่อาจรักใครอื่นได้นอกจากภาวนา “คุณแม่ครับ...ผมรักนามายี่สิบกว่าปี ตลอดทั้งชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมมีชีวิตอยู่เพื่อเธอ เวลาเพียงแค่ครึ่งปีคงไม่อาจทำให้ผมลืมเธอได้หรอกครับ และมันคงจะไม่มีวันนั้นด้วย ที่ผมยังยิ้มยังหัวเราะได้ในทุกวันนี้ นั่นเพราะข้างกายผมไม่มีเธออยู่เคียงข้าง แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงหรือเห็นเธอผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมก็อดเจ็บแปล๊บๆ ขึ้นมาไม่ได้ ยิ่งคุณแม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นมาอยู่เคียงข้างผมเพื่อให้ลืมหนูนา เงาของเธอกลับยิ่งชัดเจนขึ้นทุกที เพราะอะไรรู้ไหมครับ? เพราะผมมักจะเปรียบเทียบผู้หญิงทุกคนกับเธอ และมีอคติขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ คุณแม่ครับ...สักวันเมื่อความรู้สึกนั้นมันเบาบางลง ผมคงจะสามารถมีความรักได้อีกครั้ง ได้โปรดอย่าบังคับหรือเอาความเป็นแม่ลูกของเรามาต่อรองกับผมเลยครับ” แม้ตอนแรกจะยกภาวนาขึ้นมาเป็นข้ออ้าง แต่เมื่อพูดถึงหล่อน เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจขึ้นมาจริงๆ อาหารเช้าที่แสนจะฝืดคอผ่านไป คุณหญิงไม่อาจพูดอะไรได้อีกเมื่อปาณวัตรเดินออกจากบ้านไปแล้ว ได้แต่ตำหนิตัวเองที่ทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงจิตใจของบุตรชายเลย เฮ้อ! หนูพิมของป้า บาดแผลในหัวใจของปาณวัตรนั้นลึกนัก แต่ถึงอย่างไรป้าก็เชื่อมือว่าเธอจะดึงเขาให้ขึ้นมาจากหลุมดำในใจนั้นได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป พิมลภัสว์ยืดแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ประสานมือแล้วโยกซ้ายทีขวาทีเพื่อไล่ความง่วงงุนออกไป เธอมาขลุกอยู่ที่บ้านของเจนนิเฟอร์ตั้งแต่เช้า อาศัยกาแฟกับขนมปังรองท้องประทังความหิว เพราะอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงเวลานัดทานมื้อเที่ยงกับคุณหญิง ซึ่งคราวนี้เธอจะต้องพ่วงกระเทยสาวไปด้วย “ง่วงก็งีบก่อนสิยะ จะทนนั่งถ่างตาไปทำไม นอนไม่พอเดี๋ยวก็วูบไปอีกหรอก” เจมส์ แพ็คทีส ตัวจริงทิ้งร่างสูงลงใกล้ๆ เพื่อนรัก เธอแต่งตัวค่อนข้างรัดกุมและดูมีคลาสกว่าทุกครั้ง เพราะพิมลภัสว์นั้นกำชับแล้วว่า มารดาของปาณวัตรนั้นเป็นผู้ดีจากเมืองไทยและค่อนข้างหัวโบราณ “นั่นสิ ใกล้จะถึงเวลานัดไปรับเลือดแล้วด้วย เฮ้อ! เบื่อๆๆ ทำไมนะเลออนถึงได้ยีนดีๆ จากคุณพ่อคุณแม่ไปเสียหมด มีแต่ฉันกับคุณแม่ที่ต้องเจ็บออดๆ แอดๆ วิ่งเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น” พิมลภัสว์บ่นกระทบชุลภัสว์ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด นอกจากเขาจะแข็งแรงมีพละกำลังปานช้างสารแล้ว ยังได้ทำงานกับองค์การระดับโลก ซ้ำตอนนี้ยังได้ไปอยู่ใกล้ๆ มารดา มีภรรยาที่น่ารักและกำลังจะมีลูกน้อย ส่วนเธอ...อายุสามสิบแล้ว ยังหาแฟนไม่ได้! แถมคนที่แอบปิ๊งก็ดันเกลียดขี้หน้ากันเสียนี่... “อย่างน้อยเธอก็ยังเป็นผู้หญิง มีโอกาสสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ แต่ฉันซิ...รักครั้งแรกก็ไม่สมหวัง แถมยังเคยถูกคนที่รักถีบเอาเสียอีก ความฝันของฉันคือมีลูกน้อยกับเลออน ทำไมพระเจ้าต้องประทานงวงช้างมาให้ฉันด้วย ใครมันรันทดกว่ากันยะ” “มีลูกไม่ได้ก็รอรับขวัญหลานก็แล้วกัน” พิมลภัสว์เก็บโน้ตบุ๊คเข้ากระเป๋า เกือบจะทำมันร่วงหลุดจากมือเพราะเสียงกรี๊ดปรอทแตกของเจนนิเฟอร์ “กรี๊ด! หล่อนว่าอะไรนะ! หลาน? อย่าบอกนะว่า เลออน! เลออนมีลูกกับยัยหน้าจืดตัวกระเปี๊ยกนั่น” ร่างของกระเทยสาวสั่นเทิ้มด้วยความริษยาและเสียใจสุดแสนที่ชายอันเป็นที่รักหลุดลอยไปไกลยิ่งกว่าเดิม “พี่สะใภ้ฉันท้องได้สองเดือนแล้ว ปีหน้าฉันก็จะบินกลับไปรับขวัญหลานที่เมืองไทย เธออยากเจอเลออนไหมล่ะ ถ้าอยากเจอก็ไปด้วยกัน” ดอกเตอร์สาวอดขำไม่ได้ที่เห็นเพื่อนทำท่าซวนเซแทบจะยืนไม่ติดพื้น เพราะรู้ว่าเจมส์ แพ็คทีส นั้นรักชุลภัสว์ พี่ชายเธอสุดจิตสุดใจถึงขนาดลงทุนไปผ่าตัดแปลงเพศโดยเฉพาะ บังเอิญว่าชุลภัสว์ไม่มีรสนิยมแบบนั้น และมีเนื้อคู่ตุนาหงันอยู่ที่เมืองไทย จึงพลอยทำให้เธอมีโอกาสได้พบปาณวัตรไปด้วย หากพี่ชายตัวดีไม่เลือกกลับไปรับตำแหน่งที่กรุงเทพฯ เจ้าบ่าวของภาวนาอาจเป็นคุณหมอหนุ่มก็เป็นได้ “ดีเหมือนกัน ฉันจะทำให้เลออนตาสว่างที่บังอาจเมินคนสวยไปคว้ายัยเตี้ยมาเป็นเมีย ดูในรูปไม่เห็นจะมีหน้าอกหน้าใจตรงไหน ตัวก็ผอมเหมือนเด็กผู้ชาย โอ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งแค้น ไม่เอาแล้ว ได้เวลาไปพบว่าที่แม่ย่าของเธอเสียที ถ้าคุณหมอเสร็จเธอเมื่อไหร่ฉันก็หมดห่วง” เจนนิเฟอร์ตัดใจที่จะพูดถึงชุลภัสว์หรือเลออน หันมาให้ความสนใจกับเพื่อนสาวแทน
已经是最新一章了
加载中