บทที่3 บีบให้ฉันต้องรับเธอ   1/    
已经是第一章了
บทที่3 บีบให้ฉันต้องรับเธอ
บทที่3 บีบให้ฉันต้องรับเธอ “รอก่อน...” เสี้ยงตู๋กดมือเขาแน่น “จิ๋นเชิง เป็นคนก็ต้องมีจิตสำนึก คุณไม่เคยจัดการบริษัทของคุณเลย คุณทิ้งโล่ฝันไว้ให้ฉันดูแล ฉันต้องตรากตรำทำงานหนักอยู่ทุกวัน กลับบ้านมายังต้องเจอคุณที่ทำตัวโหดร้ายอีกเหรอ?” “เสี้ยงตู๋เธอคงไม่กลัวฟ้าดินลงโทษสินะ? บีบให้ฉันแต่งงานกับเธอ ลูกนอกสมรสชั้นต่ำขึ้นมาเป็นสะใภ้บ้านโล่ได้อย่างสบายอกสบายใจ ใครกันแน่ไม่มีจิตสำนึก?” ทุกวินาทีที่เข็มนาฬิกาสไตล์โมเดิร์นยุโรปบนผนังเดินไปมันตีเข้าไปที่หัวใจของเสี้ยงตู๋อย่างจัง ก้มหน้าเงียบเมื่อเผชิญหน้ากับการตั้งกระทู้ถามจากเขา เข้าใจดีว่าของบางอย่างเป็นหนี้แล้วก็ต้องชดใช้ ไฟคริสทัลสดใสห้อยสาดส่องทุกมุมในห้องนั่งเล่น เมื่อมองดูใบหน้าหญิงสาวที่บาดเจ็บโล่จิ๋นเชิงกลับไม่เห็นใจเลยสักนิดแต่กลับยิ่งโหดร้าย “เธอปีนขึ้นเตียงฉัน ก็เพื่อเงินไม่ใช่รึไง? ฉันทิ้งบริษัทไว้ที่เธอ เธอจะไม่ได้รับผลประโยชน์เลยรึไง? เธอเป็นคนซื่อตรงขนาดนั้นเลยสินะ!” เสี้ยงตู๋เงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน “คุณอย่าพูดจามั่วซั่ว คุณพ่อมอบบริษัทให้ฉัน ฉันไม่มีทางเรื่องให้ท่านเสียหน้าได้หรอก!” ใบหน้าเล็กแข็งกร้าว “คุณสบประมาทฉันได้ แต่คุณจะมาดูถูกโล่ฝันไปด้วยไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่ฉันภาคภูมิใจในไม่กี่ปีที่ผ่านมาสำหรับฉัน!” โล่จิ๋นเชิงหัวเราะ เมื่อต้องเจอเธอแสร้งทำเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมก็รู้สึกสะอิดสะเอียนทุกครั้ง เสี้ยงตู๋ พลิกตัวและถูกชายหนุ่มดันลงไปที่โซฟา เขาที่อยู่เหนือศีรษะแสยะยิ้มและถามกลับ “สบประมาทเธอได้? งั้นก็ดี” เสี้ยงตู๋ ตระหนกเมื่อรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรเธอก็ปากสั่น “โล่จิ๋นเชิง คุณจะบีบฉันด้วยวิธีนี้เหรอ?” เขาใช้ไม้นี้ตลอด ถอดเสื้อเธอ บีบบังคับให้เธอยอม “ฉันบีบเธอเหรอ?” มือใหญ่หยุดชะงัก “ฉันบังคับให้เธอแต่งกับฉันเหรอ? ฉันบังคับให้เธอรับตำแหน่งรองประธานเหรอ? เสี้ยงตู๋ เธอมันคืออสรพิษร้ายที่สุดที่ฉันเคยเจอ!” กัดคนอื่นไปแล้ว กลับมาบอกว่าตนเองไม่มีพิษ นี่มันนางอสรพิษชัด ๆ! มือของเขายังคงเคลื่อนไหวต่อไป “ในเมื่อเธอไม่สารภาพ ก็ได้ ฉันมีวิธีทำให้เธอยอม!” แต่งงานกันมาสามปี สิ่งที่เธอรับไม่ได้มากที่สุดก็คือการทำเช่นนี้ ที่เอาชนะเธอได้อย่างง่ายดายเสมอ “ฉันขอร้องคุณ จิ๋นเชิง อย่าทำแบบนี้เลย ๆ!” ชายหนุ่มใบหน้าเหยเก “เธอขอร้องฉัน? ขอร้องฉันแล้วมีประโยชน์อะไร ตอนนั้นที่หลินหลินขอร้องเธอ เธอก็ใจร้ายแบบนี้!” ถ้าไม่ใช่เพราะการแทรกแซงตั้งแต่แรก ฉินหลินไม่มีทางไปหาเสี้ยงตู๋เพื่อเจรจา จนทำให้โรคหอบหืดกำเริบ... เขามีแรงมหาศาล เสี้ยงตู๋เหลือเพียงเสื้อซับในสีดำตัวสุดท้าย ขับผิวที่ขาวราวกับหิมะ เขาถอดสายตาไป “ฉันเคยบอกเธอไปนานแล้วว่าให้เซ็นเอกสารหย่าแต่โดยดี จบเร็วจะได้ไปเริ่มต้นใหม่ได้เร็ว ทำไมเธอจะต้องมาทู่ซี้อยู่กับฉัน!” เสี้ยงตู๋ไม่สามารถปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจได้อีก “โล่จิ๋นเชิง หยุดนะ! ฉันพูดแล้ว ๆ!” เดิมทีชายหนุ่มที่เปรียบเหมือนลูกศรที่เตรียมจะออกจากคันธนู เขากลับหยุดชะงักลง แล้วยิ้มเย้ย “เธอพูดให้เร็วกว่านี้อีกนิด ก็คงดีกว่านี้ ฉันจะได้ไม่ต้องแตะต้องตัวเธอ เธอคงไม่รู้ว่าเธอมันสกปรกแค่ไหน!” ผลการตรวจร่างกายก่อนแต่งงานพบว่าเสี้ยงตู๋ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่เธอติดสินบนคุณหมอไว้เพื่อออกใบรับรองแพทย์ปลอม กว่าโล่จิ๋นเชิงจะพบความจริงก็หลายเดือนหลังจากแต่งงาน ความรังเกียจที่โล่จิ๋นเชิงแสดงออกมานั้นไม่ได้แกล้งทำแววตาแสดงออกชัดเจนว่าเธอนั้นช่างสกปรกโสมม เสี้ยงตู๋ยิ้มแต่กลับมีความเศร้าไหลออกจากมุมหางตา “จิ๋นเชิงคุณเกลียดฉันมากเลยใช่ไหม?” โล่จิ๋นเชิง ตอบโดยไม่ลังเล: “ใช่!” เสี้ยงตู๋สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยและติดกระดุมทุกเม็ดอย่างรัดกุม โล่จิ๋นเชิง ถูกดึงดูดจากการกระทำของเธอโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาหันกลับไปไม่มองเธอ “จิ๋นเชิงแต่งงานกันสามปี คุณส่งไปรษณีย์เอกสารการหย่ามาทุกเดือน คนทั้งเมืองอานต่างรู้ว่าเราสองคนไม่ลงรอยกัน แต่สุดท้ายเราก็ยังไม่หย่ากัน คุณรู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร?” คำพูดนี้ทำให้จิ๋นเชิง ตะลึงงัน ชายหนุ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง “ดังนั้นเธอวางแผนจะยึดครองบ้านบ้านโล่ไปไม่ยอมปล่อยงั้นสินะ?”
已经是最新一章了
加载中