บทที่12 เป็นรองประธาน   1/    
已经是第一章了
บทที่12 เป็นรองประธาน
บทที่12 เป็นรองประธาน เสี้ยงตู๋เก็บสายตาใบหน้าขาวเล็กแสดงอารมณ์ไม่ชัดเจน “คุณเป็นประธาน ฉันเป็นรองประธาน ตามหลักการแล้วฉันก็ต้องเชื่อฟังในสิ่งที่คุณตัดสินใจ” นิ้วของชายหนุ่มหมุนเป็นวงกลมบนโต๊ะน้ำเสียงไม่ร้อนรน “ตอนนี้รู้สึกว่าแพ้ภัยตัวเองอยู่รึเปล่า?” มือของเสี้ยงตู๋ที่ขยับเมาส์อยู่หยุดลงแล้วหันมามองเขาขยิบตา “ถ้าคุณพอใจก็ดีแล้วค่ะ” โล่จิ๋นเชิงรู้สึกเหมือนปล่อยหมัดใส่ปุยฝ้าย ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และเยือกเย็นต่อไป “เธอขอให้ฉันกลับมาทำงานเอง งั้นเธอก็ต้องรับผลของการกระทำนั้น!” คิดไม่ตกทำไมเสี้ยงตู๋ถึงขอให้เขากลับมาทำงาน เธอครอบครองบริษัทไว้คนเดียวไม่ดีกว่ารึไง ให้เขากลับมาอย่างรังเกียจ มีอะไรผิดรึเปล่า? “จิ๋นเชิงฉันเหนื่อยแล้ว” เสี้ยงตู๋เก็บเอกสารแล้วลุกขึ้นยืน “คุณลองดูว่าอยากได้ห้องทำงานห้องไหน ถ้าหากว่าอยากได้ห้องนี้ของฉัน ไม่ต้องยุ่งกับของของฉัน ฉันจะกลับมาขนของให้คุณเอง” โล่จิ๋นเชิงมองดูเธอที่เดินออกไปจากห้อง ใช้เท้าถีบผนังดานข้างโต๊ะ หรี่ตาเรียวยาวโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่? เสี้ยงตู๋ขับรถไปที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าไปก็ถอดรองเท้าส้นสูงออกนอนอยู่บนโต๊ะโดยที่ไม่อยากจะขยับตัวแม้เพียงเล็กน้อย ข้างหลังมีชายคนหนึ่งสวมแว่นตาสีดำไร้กรอบเดินตามมา มีเพียงเสื้อเชิ้ตสีชำพูแปร๋นที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเขา เขาใช้นิ้วจิ้มไปที่หญิงสาวที่แกล้งตาย “นี่ประธานเสี้ยง นี่มันเวลาทำงานแล้วหล่อนไม่ทำงานเหรอจ๊ะ มาหาฉันทำไมเนี่ย โดดงานเหรอยะ?” เสี้ยงตู๋เปิดน้ำแร่แล้วดื่มเข้าไป รู้สึกว่าเสียงของตนเองกลับมาแล้ว “ระวังคำพูดตัวเองด้วยจ้ะ รองประธานย่ะ!” จิ๋วเซ่อ หัวเราะร่วน “ตู๋เอ๋อ เธออย่าบอกนะ เธอให้เขากลับมาทำงานแล้ว?” เสี้ยงตู๋รำคาญที่เขาเรียกเธอแบบนั้น เธอไม่ใช่เด็กตัวน้อยแล้ว แต่ก็จนปัญญากับเขาแล้ว กับคนที่อยู่ระหว่างความเป็นหญิงและชายอย่างเขา ต่อล้อต่อเถียงไปก็เท่านั้น “จิ๋วเซ่อ เขาเลือกไป๋หซิวเป็นพรีเซนเตอร์” นิ้วกรีดกรายของจิ๋วเซ่อจิ้มไปที่แขนเธอ “แรงหล่อนหายไปไหนหมดยะ หล่อนก็ลุกขึ้นแล้วทุบโต๊ะโต้เขาเลยสิ?” เพราะเขาคิดว่ารูปลักษณ์ของเขานั้นอยู่จุดสูงสุดและมีค่าสูง เขาจึงได้ชื่อจิ๋วเซ่อ! เธอปัดมือเขาออก “ฉันเป็นรองนะ ๆ!” ถึงตำแหน่งรองประธานจะเป็นตำแหน่งที่คุณพ่อมอบให้ แต่เธอก็เป็นเพียงคนที่แต่งเข้ามา เป็นบทบาทหนึ่งที่ได้มา แต่ก็ไม่ใช่คนที่มาจากบ้านโล่ ตำแหน่งรองประธานสักวันก็ต้องถูกยึดคืนและเธอเองก็เตรียมใจไว้นานแล้ว “ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม ให้เธอเปลี่ยนจากสถานะจากตัวเลือกเป็นตัวจริงน่ะ เธอก็ไม่ฟัง” “จิ๋วเซ่อไม่มีประโยชน์หรอก ต่อให้ฉันได้เป็นคุณนายโล่ที่ได้รับการยอมรับ แต่สำหรับโล่จิ๋นเชิงฉันก็ยังเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าให้อภัย” โล่จิ๋นเชิงเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำความทรงจำที่มืดมิดนั้นเธอเองก็ไม่สามารถลบมันได้ จิ๋วเซ่อเข้าประเด็นสำคัญ “แล้วหล่อนนอนกับเขารึยัง?” ทั่วทั้งเมืองอานรู้ดี คุณโล่เข้ากันไม่ได้กับคุณนายโล่เป็นที่สุด นอนหรือไม่นอนเธอก็โดนนินทา จิ๋วเซ่อก็อยากจะปล่อยผ่านหัวข้อกอสซิปนี้ไป เสี้ยงตู๋ สีหน้าเรียบเฉย “ไอ้เยื่อนั่นไม่มีค่าสักแดง ฉันจะเก็บไว้ทำไมล่ะ?” เมื่อจิ๋วเซ่อเห็นปฏิกิริยาเธอเป็นเช่นนี้จึงไม่กล้าแหย่เธออีกแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ไม่ใช่ว่าสามีเธอชอบไป๋หซิวเข้าหรอกนะ เธอใกล้จะถูกเตะออกจากโล่ฝันแล้วเหรอยะ? มิน่าหล่อนถึงมาหาฉัน กลับมาทำอาชีพเก่าสิ” จิ๋วเซ่อเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองอาน เสี้ยงตู๋เคยช่วยเขาถ่ายทำหนังสั้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาพบกันช้าไป พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดีทุกเรื่อง แต่ไม่มีเรื่องความรักใคร่เชิงชู้สาว มีเพียงมิตรภาพที่ดี เสี้ยงตู๋มองดูชายไม่จริงหญิงไม่แท้อย่างจิ๋วเซ่อ “จิ๋วเซ่อ ฉันรู้สึกว่าเธอดีกับฉันที่สุดแล้วล่ะ” จิ๋วเซ่อสับสนวุ่นวายแกล้งมองเธออย่างรังเกียจ “ก็ได้ ฉันหญิงชายไม่เกี่ยง แต่ผู้หญิงที่มีสามีแล้วฉันไม่สนใจหรอกย่ะ” เขาเองก็ไม่อยากจะคิดถึงคนแบบเสี้ยงตู๋ที่ดูเงียบสงบดี แต่พอบ้าขึ้นมาก็กล้าบ้าบิ่นมาก!
已经是最新一章了
加载中