บทที่13 คุณอารอง   1/    
已经是第一章了
บทที่13 คุณอารอง
บทที่13 คุณอารอง เสี้ยงตู๋แค่อยากจะมาที่นี่เพื่อระบายเท่านั้น เมื่อออกมาจากสตูดิโอก็กลับมาเป็นผู้หญิงเย็นชาอย่างเดิม รถ BMW ขับไปยังสถานที่ที่หนึ่ง รถเข้าไปจอดที่หน้าโรมแห่งหนึ่งในที่จอดรถที่ถูกจองไว้ กางเกงขาบานสีดำสะบัดพลิ้วไปมาพร้อมกับท่าทางที่เคลื่อนไหว สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือ จะมาพบเสี้ยงเจ๋อหยวน ที่นี่โดยบังเอิญ เขานั่งรับประทานอาหารอยู่กับภรรยาสาวที่อายุน้อยกว่าเขายี่สิบกว่าปี เธอหันหลังกลับพยายามที่จะหลบ ในใจเต้นระทึกด้วยความตื่นตระหนก สถานะของเธอในบ้านเสี้ยงนั้นเปรียบเสมือนการเดินบนน้ำแข็งที่เปราะบาง หากว่าไม่มีบ้านโล่คอยสนับสนุน ทุกนาทีเธอมีโอกาสจะกลายเป็นศพที่ถูกทิ้งในที่ร้าง เสี้ยงเจ๋อหยวนเป็นคนที่สามารถทำเรื่องอะไรก็ได้ทั้งนั้น เคยได้ยินมาว่าสมัยเมื่อเขาต้องการทรัพย์สินจากภรรยาคนก่อน เขาตั้งใจให้คนทำลายชื่อเสียงเธอ จัดฉากกล่าวหาว่าเธอนอกลู่นอกทาง สุดท้ายจึงได้แยกทางและได้ทำการแบ่งสมบัติครึ่งหนึ่ง เสี้ยงตู๋ รู้มาตลอดว่าครอบครัวที่ทรงอิทธิพลนั้นมีเบื้องลึกมากมาย การกระทำเช่นนี้ของเสี้ยงเจ๋อหยวนมีให้เห็นอย่างดาษดื่น จะบ้าคลั่งกว่านี้ก็ดี แต่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกในครอบครัวทรงอิทธิพลเลย เสี้ยงเจ๋อหยวนมองเห็นเสี้ยงตู๋ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาแล้ว “เสี้ยงตู๋ เจออารองทำไมไม่เข้ามาทักทายล่ะ?” เสี้ยงตู๋ยืนยืดหลังตรง เมื่อหันมาก็ทำการเก็บอารมณ์และสีหน้าเอาไว้จนหมดแล้วยิ้มเล็กน้อย “คุณอารอง ช่วงนี้หนูยุ่งจนเวียนหัวไปหมด สายตาก็ฝ้าฟางลงไปมาก ตาลายจนมองไม่เห็นคุณอาอยู่ที่นี่เลยค่ะ” เสี้ยงเจ๋อหยวนคือน้องชายของเสี้ยงเจ๋อชินผู้เป็นพ่อของเธอ เดิมทีมีความสนิทชิดเชื้อกัน แต่พวกเขากลับใส่หน้ากากเข้าหากันเมื่อพบเจอ เสี้ยงเจ๋อหยวนยิ้ม เขาอายุตั้งห้าสิบกว่าแล้วยังไม่เคยใช้คำว่าตาลายสักครั้ง หญิงสาวอายุยี่สิบกว่ากลับพูดมันออกไม่ได้อย่างไม่สะดุดปาก “พี่ใหญ่ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?” เสี้ยงตู๋ยังคงยิ้ม ความตื่นตระหนกในสายตายังไม่สามารถจับมันได้ “คุณพ่อสบายดีค่ะ ขอบคุณอารองที่เป็นห่วง” “เสี้ยงตู๋ หนูจะเกรงใจอาไปทำไมกัน ไม่กลับบ้านนานแล้วนะ ถ้างั้นคืนนี้กลับไปกินข้าวที่บ้านดีไหม?” เสี้ยงตู๋มองดูภรรยาเด็กของเขาที่หน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าไปทุกขณะ เพียงแค่เพราะเขาเอ่ยปากเรื่องกลับบ้านสองคำนี้แค่นั้น เธอเคยมีบ้านเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่มันกลับถูกทำลายไปเพียงชั่วข้ามคืนเมื่อสามปีก่อน ในเวลาที่กำลังคิดว่าจะพูดอะไรออกไป จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่เอว เมื่อคิดจะสะบัดมันออกไป ทันใดนั้นปลายจมูกก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคย เห็นได้ชัดว่าช่วงเวลาของพวกเขานั้นมีน้อยนิด แต่ลมหายใจของเขายังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความทรงจำของเธอ เสียงของเขายังก้องดังอยู่ในโสตประสาท “ที่รัก คุณปล่อยสามีไว้กับลูกค้านานเป็นสิบนาทีแล้วนะ แบบนี้จะดีเหรอ?” โล่จิ๋นเชิงโทรกลับไปที่บริษัท เชอร์ลี่ย์บอกว่าเสี้ยงตู๋กำลังเดินทาง เขาเกลียดการรอที่สุดโดยเฉพาะเมื่อเป็นผู้หญิงที่ขวางหูขวางตาเขาด้วยแล้ว เมื่อเดินออกมาจากห้องรับรองก็เห็นร่างเธอ เดิมทีคิดจะเรียกเธอแต่กลับแปลกใจเมื่อพบว่าเสื้อสีเบจบนตัวเธอเปียกชื้นไปหมด เสี้ยงตู๋ที่สมองไม่ปลอดโปร่งในตอนเช้า ยิ่งเมื่อได้ยินเขาเรียกเธอที่รักด้วยแล้วเหมือนโดนระเบิดลงอย่างไร้ที่มา การตอบสนองจึงช้าไป “ฉันเจอคุณอารองค่ะ” โล่จิ๋นเชิงชำเลืองไปมองสองคนที่โต๊ะอาหาร “คุณอา...รอง?” อารองพูดติดกันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เขาตั้งใจลากเสียงยาวเพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่เสี้ยงเจ๋อหยวนก็ไม่กล้าหือ โล่จิ๋นเชิงคือผู้สืบทอดคนต่อไปของบ้านโล่ หาเรื่องเขาไม่ต่างจากกำลังหาทางไปปรโลก โลกภายนอกป่าวประกาศว่าคุณโล่กับเสี้ยงตู๋ นั้นร่วมเรียงเคียงหมอนแต่กลับมีฝันคนละอย่าง ไม่เคยมีความเป็นสามีภรรยา แต่โล่จิ๋นเชิงกลับมีท่าทีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ “จิ๋นเชิง ฉันคืออารองของเสี้ยงตู๋” “อ่อ อา...รองเหรอ คุณมีธุระอะไรครับ?” เสี้ยงตู๋อดขำไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ปากคอเราะรายเป็นที่สุดเธอรู้ดี เขาจงใจสินะ เสี้ยงเจ๋อหยวนไม่เชื่อว่าโล่จิ๋นเชิง จะใส่ใจเสี้ยงตู๋ จริง “เสี้ยงตู๋แต่งงานเข้าครอบครัวใหญ่ไป ก็ไม่เหลียวแลฝั่งบ้านตัวเอง และเธอก็ไม่กลับมาเยี่ยมเยียนผู้หลักผู้ใหญ่เลย”
已经是最新一章了
加载中