บทที่15 ฉันต้องจ่ายยังไง   1/    
已经是第一章了
บทที่15 ฉันต้องจ่ายยังไง
บทที่15 ฉันต้องจ่ายยังไง “อะไรกัน? ฉันเพิ่งจะช่วยออกเธอจากทะเลแห่งความขมขื่น เธอตอบแทนฉันแบบนี้เหรอ?” โล่จิ๋นเชิงก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เมื่อเจอเหตุการณ์นั้นแล้วต้องเข้าไปช่วยเธอออกมาโดยอัตโนมัติ เสี้ยงตู๋มองหน้าเขา ดูยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะช่วยเธอหลีกหนีออกมาจากเสี้ยงเจ๋อหยวนอย่างแท้จริง “คุณจะมาช่วยฉันทำไม?” เขาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันเสียเงินซื้อสัตว์เลี้ยงมาป้อนข้าวป้อนน้ำมัน แน่นอนว่ามีฉันคนเดียวที่รังแกมันได้” เสี้ยงตู๋โกรธจนกัดฟันแน่น “โล่จิ๋นเชิง ฉันไม่เคยใช้เงินของคุณสักนิด แล้วคุณมีหลักฐานอะไรมาหาว่าฉันเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณได้ยังไง?” คิดว่าเธอคือน้องหมาน้องแมวที่เขาเลี้ยงรึไงกัน! “บ้านที่เธออยู่เป็นบ้านที่พ่อฉันให้เธอ เงินเดือนเธอฉันเป็นคนจ่าย แค่นั้นยังไม่พอ?” “บ้านนั่นคุณพ่อให้ฉัน เกี่ยวอะไรกับคุณ?” “ของของบ้านโล่ยังไงก็ต้องเป็นของฉันสักวัน มันต่างกันตรงไหน?” ดวงตาที่แหลมคมของเขาวางลึกลงบนใบหน้าของหญิงสาว “คุณพ่อ เธอเรียกซะคล่องเลยนะ ว่าไง? ไม่อยากจะไปจากฉันแล้วสิ อย่าลืม สัญญาหนึ่งปีล่ะ” ราวกับว่าเมื่อเรื่องสัญญาหนึ่งปีวนกลับเข้ามาในหัวเขา เขาก็ปล่อยเธอแล้วเดินไปข้างหน้าเพื่อจะออกจากห้องรับรอง ทันใดนั้นรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังนั้นเงียบเกินไป จึงหันไปมองเธอ “กำลังนับอยู่เหรอว่าเธอเหลือเวลาอยู่กับฉันอีกกี่วัน?” เสี้ยงตู๋ที่เดินตามเขามา พอเขาหยุดเธอจึงชนเขาอย่างจัง ทำให้คนคนนั้นสับสนขึ้น “ฉันเกลียดผู้หญิงที่ชอบอ่อยที่สุด โดยเฉพาะเธอ” เมื่อมองดูเธอที่ทำหน้าครุ่นคิด “คิดอะไรอยู่?” เสี้ยงตู๋มองดูเขาแววตาเปิดกว้าง “ฉันกำลังคิด หลังหย่าแล้ว คุณจะให้ค่าเลี้ยงดูฉันเท่าไหร่ ฉันจะใช้มันยังไง” โล่จิ๋นเชิงยิ้มเยาะ ผู้หญิงคนนี้เหม็นกลิ่นเงินตั้งแต่หัวจรดเท้า คาดหวังว่าเธอจะถือตัวขึ้นมาบ้าง ฝันไปเถอะ! ไม่รู้จริง ๆ ว่าพ่อเลือกเธอเพราะอะไร? รูปลักษณ์ที่ดูสวยสง่า? หรือว่าการวางตัวที่เหมาะสม? แต่ดูแล้วส่วนใหญ่เธอก็เสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น เหมือนออกมาจากโรงเรียนการแสดงอย่างนั้น ไม่เข้าสู่แวดวงศิลปะการแสดงที่สกปรกโสมม “ฉันไม่มีทางให้เธอสักบาท” เสี้ยงตู๋ยิ้ม “จิ๋นเชิง คุณงกจัง ไม่ดีมั้ง เป็นผัวเมียกันวันเดียวก็แนบแน่นไปอีกแสนนานนะ” ชายหนุ่มคนนั้นหยุดก้าวเดิน เพ่งดูใบหน้าละเอียดอ่อนของเธอ “วันเดียว? พูดเหมือนฉันเคยนอนกับเธออย่างนั้นแหละ” รอยยิ้มบนหน้าหญิงสาวหยุดนิ่งไป อะไรที่น่ากลัวมากกว่าไม่รักงั้นเหรอ? การถูกลืม! มาถึงข้างรถพบว่าหญิงสาวยังคงเดินตามเขามาเขาหมุนพวกกุญแจรถ “อย่าบอกฉันนะว่าเธอติดฉันแล้ว\" รถ BMW สีขาวของเธอจอดอยู่ไม่ไกล แต่ก็ยังเดินตามเขาไม่ห่าง ยังอยากจะขึ้นรถไปกับเขาด้วยรึไง” เสี้ยงตู๋มองสำรวจไปรอบ ๆ กลัวว่าเสี้ยงเจ๋อหยวนจะยังไม่ตายแอบตามเธอมา “จิ๋นเชิงรถฉันเสียค่ะ คุณไปส่งฉันที่บริษัทได้ไหม? ยังไงซะคุณก็กลับบริษัท” ชายหนุ่มยื่นนาฬิกาข้อมือให้เธอดูเพื่อแสดงเวลา “ตอนนี้เวลาพักเที่ยง ใครจะกลับบริษัท?” เธอถอนหายใจ “งั้นคุณก็ไปส่งฉันที่บริษัท ได้ไหมคะ?” เขาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่ผ่าน” เสี้ยงตู๋รู้สึกว่าทัศนคติของเขาที่มีต่อเขาในช่วงสามปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น ยังไม่พูดจาด้วยความเกรงอกเกรงใจเขามากเท่าวันนี้ แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย แล้วจะทำอย่างไรได้? ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่รักเธอ เธอหวังว่าเขาจะทำดีกับเธอ นั่นคือความเพ้อฝัน เหมือนกันคนจนที่ไม่มีเงินจะซื้อสินค้าของแท้จึงได้แค่ใช้ของก๊อปเกรดเอ มัยบัคสีดำของ โล่จิ๋นเชิงขับออกไปเหมือนม้าป่าที่พุ่งทะยาน เสี้ยงตู๋ยังยืนอยู่ที่เดิมมองดูเขาจากไปอย่างเปิดเผย ในใจยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เสี้ยงเจ๋อหยวนจำทะเบียนรถเธอได้ เธอจึงไม่สามารถขับรถเธอกลับบริษัทได้ ไม่เช่นนั้นอาจถูกจับได้ระหว่างทาง เธอยืนอยู่ข้างถนนและพยายามจะเรียกรถแท็กซี่ถึงแม้จะไม่ชอบกลิ่นที่ผสมปนเปกันในรถ อาจเป็นเพราะช่วงเวลาเข้างานในตอนกลางวันการจราจรแออัด เธอรออยู่นานแต่ก็ไม่มีแท็กซี่คันไหนจอดรับ เธอยืนอยู่กลางแดดจ้า ร้อนจนเหงื่อโทรมกาย จริง ๆ เลย เวลาแบบนี้ เรียกรถยากจริง
已经是最新一章了
加载中