บทที่16 ฉันก็รักเงินของคุณน่ะสิ   1/    
已经是第一章了
บทที่16 ฉันก็รักเงินของคุณน่ะสิ
บทที่16 ฉันก็รักเงินของคุณน่ะสิ ในช่วงที่เสี้ยงตู๋หันหลังกลับแล้วเดินไปที่อีกด้านของถนนนั้น รถคันสีดำจอดที่อยู่ข้าง ๆ ก็หยุดแล้วเปิดกระจกลง ชายหนุ่มในรถบีบแตรไม่ยอมหยุด เมื่อเห็นเสี้ยงตู๋ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจึงโผล่หน้าอันหล่อเหลาออกมาครึ่งหนึ่ง “จะยืนโง่เป็นรูปปั้นรึไง? ยังไม่รีบมาขึ้นรถอีก?” เสี้ยงตู๋นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปรีบเปิดประตูแล้วขึ้นรถไป แอร์ในรถลอดผ่านรูขุมขนของเธอดูน่าอึดอัดเล็กน้อย สั่นอยู่พักหนึ่งยิ่งรู้สึกอึดอัดเพราะผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ทำตัวคุ้มดีคุ้มร้าย เธอแอบหันไปมองเขา มองเห็นมุมด้านข้างอย่างชัดเจน ฝ่ามือใหญ่นิ้วเรียงชัดสวยกำลังควบคุมพวงมาลัย ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังวางแผนกลยุทธ เขาวางสายตามองตรงไปที่ถนนแล้วถามขึ้น “กำลังคิดว่าผมหล่อมากใช่รึเปล่า?” เสี้ยงตู๋สะดุดกึกในใจ “คุณเป็นคนที่หญิงสาวทั้งเมืองอานใฝ่ฝันอยากแต่งงานด้วย ก็ต้องหล่ออยู่แล้วค่ะ!” ความหล่อของโล่จิ๋นเชิงไม่เหมือนกับความหล่อของไอดอลดาราหนุ่มน้อยอย่างนั้น ทั้งกรุบทั้งขาว ความหล่อของเขานั้นเป็นความซับซ้อนและไม่สามารถอธิบายได้อยู่ในใจ โดนคนชมแบบนี้โล่จิ๋นเชิงรู้สึกว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นแน่ ชายหนุ่มที่คาบช้อนทองมาเกิด สูงส่งและความสง่างามคือป้ายกำกับของเขา ทันใดนั้นจึงถามอย่างกระตือรือร้น “งั้นคุณก็อยากแต่งงานกับผมเพราะความหล่อเหลาของผมใช่ไหม?” เสี้ยงตู๋หัวเราะ “พวกเธอหลงรักความหล่อของคุณ ส่วนฉันรักเงินของคุณค่ะ!” โล่จิ๋นเชิงไม่แปลกใจกับคำตอบนี้ เพียงแต่ว่าได้รับคำตอบที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ก็เก็บอาการไม่อยู่ เสี้ยงตู๋รักเงินของเขา รักสถานะของเขา ไม่ได้รักตัวตนของเขา ถ้าหากว่าเขาไม่ใช่คุณโล่ ไม่ใช่ทายาทของบริษัทโล่ฝัน ผู้หญิงที่เป็นนางมารและหัวสูงอย่างเธอ ไม่มีทางจะชายตามองเขาได้ เมื่อคิดได้แบบนี้ทำให้เขาวุ่นวายใจยิ่งนัก เขาไม่น่าวกกลับไปรับเธอเลย ตอนนี้ไม่อยากจะเห็นหน้าเจ้าเล่ห์ของเธออีกต่อไป รถยังไม่ถึงบริษัทยังเหลืออีกช่วงถนนหนึ่ง เขาพูดขึ้น “ลงรถ!” เสี้ยงตู๋ที่ตากแอร์กำลังสบาย จู่ ๆ ก็ได้ยินเขาบอกให้ลงรถสองคำนี้แล้วรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย “คุณพูดอะไรนะ?” โล่จิ๋นเชิงหันหน้ามา “ลงไป ไม่งั้นฉันจะโยนเธอลงไป!” เสี้ยงตู๋ไม่รู้ว่าตัวเองไปยั่วโมโหเขาตอนไหน เธอนั่งรถมาดี ๆ และไม่ได้ทะเลาะกัน เธอปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงจากรถ มองเห็นทางไกล ๆ ที่เหลือ เธอกัดกรอดแล้วด่าเขา บ้าจริง ๆ เป็นอีกครั้งที่โดนอาการเอาแน่เอานอนไม่ได้ของเล่นงาน เธอไม่เคยหนีพ้นความบ้าได้เลย เมื่อเธอกลับถึงห้องทำงานขาทั้งสองข้างทั้งปวดทั้งชา เจ็บส้นเท้าด้านหลังเล็กน้อยคงจะถลอกไปแล้ว เชอร์ลี่ย์เข้ามาแล้ววางกุญแจไว้บนโต๊ะ “รองประธานคะ นี่กุญแจรถคุณค่ะ” “วางไว้เถอะ ใช่แล้ว ฉันจะงีบหน่อย มีเรื่องอะไรรอถึงบ่ายสองครึ่งแล้วค่อยคุย” หลังจากเชอร์ลี่ย์ออกไป เสี้ยงตู๋ก็ล็อกห้องดึงสายโทรศัพท์ออกแล้วถอดรองเท้า ล้มตัวลงนอนบนโซฟาอยากจะงีบหลับอย่างสงบ แต่ในหัวกลับมีภาพหนึ่งปรากฏทำให้เธอไม่สามารถทำใจนอนหลับได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออกปลายสายกำลังวุ่นวายและรับประทานอาหาร เธอจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงแต่เธอก็ไม่หิว “จิ๋วเซ่อ เธอช่วยฉันสืบดูหน่อยว่าตอนนี้เสี้ยงเจ๋อหยวนเป็นยังไงบ้าง จู่ ๆ เขาก็โผล่มา ฉันกลัวว่าเขาจะมีเจตนาแอบแฝง” จิ๋วเซ่อขยับแว่นไร้กรอบ “ตู๋เอ๋อเธอแต่งงานกับโล่จิ๋นเชิงตั้งนานแล้วนะ เธอมีเขาเป็นที่พึ่ง จะกลัวอะไร ไม่ต้องไปกลัวเขาแล้ว” “ไม่ได้ พ่อฉันยังอยู่ในโรงพยาบาล ถ้าหากว่าเขาหาเจอว่าเป็นโรงพยาบาลอะไรต้องเป็นอันตรายแน่” จิ๋วเซ่อรู้สึกว่าเสี้ยงตู๋เป็นกังวลมากเกินไป “เธอจ้างบอดี้การ์ดมาตั้งสิบกว่าคนเพื่อเฝ้าพ่อเธอแล้วไม่ใช่เหรอ? วางใจเถอะ” เสี้ยงตู๋ยังคงดื้อรั้น “เธอจะหาไม่หา?” จิ๋วเซ่อหมดหนทาง “หาจ้ะฉันหา”
已经是最新一章了
加载中