บทที่342 จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่จิดาภา
1/
บทที่342 จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่จิดาภา
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
บทที่342 จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่จิดาภา
บทที่342 จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่จิดาภา “ไม่เป็นไรแล้วนะครับ....ผ่านไปแล้ว” จิดาภาสวมกอดเขาอย่างไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เวลานี้เองเธอเพิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกับเธอมากแค่ไหน การตัดสินใจเลือกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาเป็นเพียงคำตอบเดียวของเธอเสมอ "คุณจิรภาส...." "ผมอยู่นี่ครับ" "สำหรับฉันแล้ว คุณคือคนที่สำคัญที่สุดในโลกใบนี้" น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด "ผมรู้ครับ" จิรภาสเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยความรักสุดหัวใจ ทั้งยังกระชับกอดเธอให้แน่นขึ้นกว่าเดิม "สำหรับผมแล้ว คุณก็สำคัญกับผมที่สุดเช่นกัน" จิดาภาหลับตาลง แล้วค่อยๆจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเอง พวกเขากอดกันเช่นนั้นอยู่นาน จิรภาสจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดเธอ "เรากลับกันเถอะครับ แล้วคุณค่อยเล่าการสนทนากันเมื่อซักครู่ให้ผมฟังอย่างละเอียดอีกที" "ค่ะ" จิรภาสโอบไหล่เธอ ในใจมีความคิดเห็นมากมายต่อท่านจิรชยา มีอะไรทำไมไม่ตรงมาหาเขา ทำไมจะต้องมารังแกจิดาภากัน? แม้ว่าจะเป็นผู้อาวุโสของตระกูลวีรภัทรเมธี ก็ไม่สามารถมาทำให้จิดาภาเสียใจถึงขั้นต้องเสียน้ำตาเช่นนี้ จิรภาสปลอบประโลมจิดาภาอยู่นาน อารมณ์ของเธอจึงค่อยๆสงบลง ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียง ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง "ผมบอกกับทางกองถ่ายแล้วนะครับ ว่าวันนี้คิวถ่ายของคุณขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะฉะนั้นวันนี้คุณพักผ่อนไปก่อนนะ" จิดาภาซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วนอนหนุนอยู่ตรงหน้าอกเขา ฟังเสียงหัวใจที่กำลังเต้นนี้ แล้วส่ายหน้า "ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ พักซักครู่เดียวก็ไปถ่ายละครต่อได้แล้ว!" "ได้ครับ คุณอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น และไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง" จิรภาสจะไม่ฝืนให้เธอต้องทำอะไร เพราะหลังจากที่ได้ฟังที่เธอเล่าเรื่องที่คุยกับท่านจิรชยาแล้วนั้น เขารู้สึกว่าตั้งแต่เด็กจนโตจิดาภาได้รับความทุกข์เช่นนี้มามากแล้ว อยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธี เธอได้รับความกดดันมากมายเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ความกดดันจากคนในตระกูล แต่ยังมีความทุกข์ทรมานภายในใจของเธออีก..... แค่คิดดูแล้ว เขาก็รู้สึกสงสารเธอจับใจ ดังนั้นไม่ว่าจิดาภาจะทำอะไร เขาจะอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนเธอโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น .......... ค่ำคืนนี้ หลังจากที่ท่านจิรชยากลับถึงบ้านแล้ว รู้สึกอ่อนเพลียมาก จึงหมดสติไปก่อนอาหารมื้อเย็น! คนในตระกูลวีรภัทรเมธีต่างก็พากันกังวลเป็นอย่างมาก จึงรีบตามตัวแพทย์ประจำตระกูลมาทันที ญาณิดาที่ยุ่งอยู่ตลอดนั้น รอจนกระทั่งท่านจิรชยามีสภาพร่างกายที่คงที่ขึ้น เธอถึงรู้สึกโล่งใจ แล้วรั้งตัวของเลขาไว้ตรงระเบียงทางเดิน พลางเอ่ยถาม “วันนี้คุณปู่ออกไปข้างนอกมาหรือคะ? ไปไหนมา?ทำไมพอกลับมาอาการป่วยก็กำเริบเลย!” “เอ่อ....คือ” เลขไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี “คุณเป็นเลขาของคุณปู่ คงจะรู้นะคะว่าคุณปู่สำคัญกับตระกูลวีรภัทรเมธีของเรามากขนาดไหน อาการป่วยของท่านจะต้องได้รับการพักผ่อน ไม่สามารถมีอาการโกรธหรือโมโหได้” ญาณิดาเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกกังวล “ท่านประธานไปพบคุณจิดาภามา” เลขาไม่ได้ปิดบังความจริงเรื่องนี้ ญาณิดาตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินนี้ “อะไรนะ?” เล็บของเธอจิกไปยังฝ่ามือของตัวเอง ทำไมคุณปู่ถึงได้ไปพบจิดาภาอีกกัน? ไม่ใช่ว่าท่านไล่จิดาภาออกจากบ้านไปแล้ว ทั้งยังเคยบอกอีกว่าจะไม่ไปพบจิดาภาอีกไม่ใช่หรือ? “เป็นไปไม่ได้! จิดาภาตัดขาดกับตระกูลของเราไปแล้ว เป็นคุณปู่เองต่างหากที่เป็นคนไล่ให้เธอออกไป” เลขาส่ายหน้า “ถึงอย่างไรคุณจิดาภาก็เป็นสายเลือดของตระกูลวีรภัทรเมธี....ตอนนั้นท่านประธานทั้งรักและเอ็นดูเธอขนาดนั้น จะไม่พบเธออีกตลอดไปอย่างที่ท่านบอกได้อย่างไรกันครับ” ญาณิดาควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว เธอสะบัดแขนออกจากเลขา แล้วหันกลับเดินเข้าห้องตัวเองไป แล้วนอนร้องไห้อยู่บนเตียง เธอพยายามมามากขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณปู่ถึงไม่เห็นความดีของเธอเสียที? เธอมีอะไรที่เทียบจิดาภาไม่ได้กัน! ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ จิดาภาก็เป็นทายาทคนแรกภายในใจของท่านจิรชยามาโดยตลอด แต่เธอเป็นลูกของชู้ เธอไม่มีสิทธิ! “คุณปู่ ทำไมต้องบังคับให้หนูต้องมาเป็นคนไม่ดีด้วย?” เธอจะไม่ให้จิดาภาได้มีโอกาสกลับมาอยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธีได้อีกเป็นอันขาด ในเมื่อคุณปู่ยังคงรักเธออยู่แบบนั้นแล้ว ก็จะต้องทำให้จิดาภากับตระกูลนี้ของเธออยู่ห่างกันมากขึ้นไปอีก ห่างไกลกันเสียจนเธอไม่สามารถกลับมาได้ ......... หลังจากนั้นสองชั่วโมง จิดาภาสวมใส่ชุดผู้ป่วยหลวมๆเดินวนไปวนมา....ฉากนี้ นางเองได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการแล้วว่ามีปัญหาทางจิต เธอจะต้องพยายามต่อสู้ดิ้นรนระหว่างความบ้าคลั่งกับความมีสติของเธอ พยาบาลที่เดินเข้ามาหาเธอนั้นต่างก็ใช้สายตามองเธอด้วยความเห็นใจ จู่ๆจิดาภาก็มองเห็นนาฬิกาบนผนัง เป็นเวลาเดียวกันกับที่เธอสูญเสียลูกของเธอไป ทันใดนั้นเองความทรงจำทั้งหมดก็กลับเข้ามาในหัวของเธอ เธอวิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงระเบียงทั้งยังตะโกนออกมาเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร รอจนกระทั่งตัวเธอหมดแรง แล้วคุกเข่านั่งลงไปอยู่ที่พื้น น้ำตาไหลลงอาบใบหน้าของเธอ แต่มุมปากของเธอนั้นกลับมีรอยยิ้มแห่งความผิดหวังปรากฏขึ้น “แท้ที่จริงแล้ว ทั้งหมดนี่ฉันฝันไปนี่เอง” “ฉันทรมานตัวเอง แล้วก็ทรมานคนอื่นๆด้วย” เมื่อพูดจบดังนั้น เธอจึงเช็ดน้ำตาของตัวเอง แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปยังห้องพักผู้ป่วยอย่างเงียบๆ ในที่สุดคนที่ทำให้เธอเดินออกมาจากฝันร้ายของเธอได้เองนั้นก็คือตัวเธอนั่นเอง “ผ่าน!” รองผู้กำกับชลิตตะโกนออกมา หลังจากนั้นก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันกับ Bieberอยู่ซักพัก แล้วกล่าวกับจิดาภาว่า “สมบูรณ์แบบมากครับ เก็บของได้” ถ่ายละครเสร็จแล้ว แต่จิดาภายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับไปไหน จิรภาสรีบเดินไปหาเธอ แล้วเอาเสื้อคลุมคลุมให้เธอไว้ “เสร็จแล้วนะครับ” จิดาภารู้สึกใจหายและตื่นเต้น “พรุ่งนี้เป็นฉากสุดท้ายแล้วใช่ไหมคะ?” “ครับ พรุ่งนี้ก็ปิดกล้องแล้ว” จิรภาสเดินโอบไหล่เธอออกมาด้านนอก “วันนี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว ผมส่งคุณกลับไปพักผ่อนนะครับ” “คุณจิรภาสคะ คุณยังจำเรื่องที่รับปากกับฉันไว้ได้ไหมคะ?” “จำได้สิครับ ไม่ตกหล่นเลยซักคำเดียว” จิดาภาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าด้านข้างของเขา ท่านประธานที่สูงส่งคนหนึ่ง แต่กลับต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเธอถ่ายละครในกองถ่ายเช่นนี้ ทั้งยังต้องอยู่คอยปกป้องอยู่ข้างๆเธอตลอด เขาเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่พระเจ้าส่งมาให้เธอจริงๆ เขารักเธอมากจริงๆไม่ใช่หรือ? อีกทั้ง เขายังมีค่ามากพอให้เธอเชื่อใจ และทุ่มเทเพื่อเขา ร่างข่าวเรื่องการแต่งงานของพวกเขา จิรภาสได้เตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้ว เพียงแค่รอเวลาที่พวกเขาได้นัดกันไว้เท่านั้นเอง เพียงแต่เวลานี้ ดันมีข่าวที่ไม่คาดคิดออกมาก่อนเรื่องงานแต่งงานของพวกเขาเสียอีก “ตะลึง! คาดไม่ถึง จิดาภาเป็นลูกนอกสมรสตระกูลที่มีอิทธิพล?” “เปิดเผยฐานะที่แท้จริงของจิดาภา ลูกสาวชู้ ถูกไล่ออกจากบ้าน” หลังจากที่เจนจิราได้เห็นข่าวนี้แล้วนั้น จึงรีบมาปลุกจิดาภาเลยในทันที แล้วยื่นเอาข่าวที่รวมรวมไว้นั้นส่งให้กับเธออ่าน ทางฝ่ายเค.เอฟเองก็เริ่มทำงานในการประชาสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน ข่าวใดๆที่เกี่ยวข้องกับจิดาภานั้นถูกเปลี่ยนลงไปหมด แต่ถึงแม้การเคลื่อนไหวของเค.เอฟจะรวดเร็วเพียงใด ฐานะของจิดาภาก็ยังคงค่อยๆถูกเปิดเผยออกไปอยู่ดี มีหลายๆคนคิดว่านี้เป็นเพียงแค่คนที่จะแบล็กเมล์จิดาภาเพียงเท่านั้น แต่การโต้ตอบกลับของเค.เอฟนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ แต่เป็นการพยายามปกปิดเสียมากกว่า ซึ่งมองจากอีกทางหนึ่งก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า จิดาภาเป็นลูกชู้นั้นคือเรื่องจริง ดังนั้น..... “มีอะไรให้น่าตกใจกัน วงการบันเทิงก็มั่วแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว!” “ลูกสาวของชู้ โตขึ้นมาแล้วจะกลายเป็นชู้ที่จะคอยทำลายครอบครัวของคนอื่นด้วยหรือเปล่า?” เมื่อก่อนไม่ว่าจะมีคนมากมายแค่ไหนที่มาแบล็คเมล์เธอ จิดาภาสามารถที่จะไม่เอาเก็บมาใส่ใจได้ เพราะคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นไม่มีมูลเหตุ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน คนที่รู้ความลับเรื่องนี้มีเพียงแค่คนในตระกูลวีรภัทรเมธีเท่านั้น!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่342 จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่จิดาภา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A